วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เผยปลัด สธ. ชง คสช. ให้ประชาชนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล 30-50%


เผยปลัด สธ.เสนอ คสช.บังคับประชาชนร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล 30-50% ไม่ยอมเรียกประชุม สปสช. ทำให้ประชาชนเบิกจ่ายยามะเร็ง-ยารักษาไวรัสตับอักเสบซีไม่ได้
 
 
 
 
11 ก.ค. 2557 ตามที่ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทำเรื่องเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ประชาชนต้องร่วมจ่ายในระบบหลักประกันสุขภาพ 30-50% โดยเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้นำเสนอประเด็นนี้กับ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองหัวหน้า คสช. ด้านสังคมจิตวิทยา ในการเข้าตรวจเยี่ยมกระทรวงสาธารณสุข และระหว่างนี้ ปลัด สธ.ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่เรียกประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งไม่มีการประชุมมาแล้ว 2 เดือน
 
นายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เห็นว่า การที่ สธ.ได้นำเสนอ คสช.ให้ประชาชนต้องร่วมจ่าย (co-pay) ในอัตรา 30-50% โดยให้เหตุผลว่า ถ้าไม่ทำอย่างนี้จะทำให้ระบบล้มละลาย ซึ่งนี่เป็นการให้ข้อมูลที่ผิดมาก
 
“การที่สธ.บอกว่าระบบหลักประกันสุขภาพจะอยู่ไม่ได้ เพราะใช้เงินเยอะ ไม่จริง เพราะรัฐจ่ายเพื่อสุขภาพเพียง 7% เท่านั้น ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มมาก ทั้งช่วยลดความยากจนในครัวเรือนได้ ซึ่งระบบหลักประกันสุขภาพของไทยได้รับการยกย่องจากนานาชาติมาโดยตลอดว่า มีประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณที่ไม่มากแต่สามารถช่วยประชาชนให้พ้นความยากจนได้จริง ถ้ารัฐจะผลักภาระตรงนี้ ทหารเกณฑ์ที่ใช้บัตรทองก็ต้องมาแบกรับด้วย”
 
สำหรับการที่ปลัด สธ.ไม่เรียกประชุมบอร์ด สปสช.เป็นเดือนที่ 2 แล้วนั้น กรรมการหลักประกันสุขภาพระบุว่าทำให้ไม่สามารถอนุมัติสิทธิประโยชน์ใหม่ๆ ได้ ทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาส
 
“ตอนนี้ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี ก็ยังไม่ได้อนุมัติ ทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาส ถ้าไม่ได้ยาก็พัฒนากลายไปเป็นมะเร็งตับ ค่ารักษาก็แพงอีก นี่เป็นความทุกข์ แต่ยังไม่ประชุมบอร์ดกว่า 2 เดือนแล้ว บอร์ดจะประชุมได้ ประธานต้องเรียก ก็ไปดูแล้วกันว่าใครเป็นประธาน แล้วทำไมถึงไม่เรียกประชุมบอร์ดเสียที ตรงนี้อยากฝากไปถึง คสช.ที่พูดตลอดเวลาว่าเข้ามาเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะ และวางรากฐาน แต่ตอนนี้เรื่องปฏิรูประบบสาธารณสุขยังไม่เห็นทิศทางที่ชัดเจน และไม่เคยมีข้อเสนอที่มาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน” นายนิมิตร์กล่าว
 
ทั้งนี้ รายการบัญชียา จ.2 ที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาได้อนุมัติแล้ว และอยู่ระหว่างรอบอร์ดสปสช.พิจารณาเข้าระบบให้ผู้ป่วยเบิกจ่ายได้นั้น ประกอบไปด้วย ยารักษามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรก Tastuzumab, ยารักษาไวรัสตับอักเสบซี Peginterferon, ยารักษามะเร็งเม็ดเลือด Nilotinib, ยารักษามะเร็งเม็ดเลือด Dasatinib และยากำพร้า Dacarbazine ที่ใช้รักษา มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin’s disease)
 
“ที่ผ่านมา เคยมีมติบอร์ดว่า เมื่อคณะกรรมการบัญชียาหลักอนุมัติไปแล้วระหว่าง รอประกาศ ให้สามารถเบิกจ่ายได้เลย ดังนั้น สำนักงาน สปสช.ควรมีความกล้าหาญทำตามมติบอร์ด อย่าไปใช้ข้ออ้างนี้ในการไม่ให้ประชาชนใช้สิทธิ อย่าไปยอมให้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขจับประชนเป็นตัวประกัน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น