วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อาการถังแตกเริ่มแล้ว




ภาพจาก ไทยรัฐออนไลน์
***ศิลาแรง Silareang***
7 กค.57 --- อาการถังแตกเริ่มแล้ว

             หลังจากที่คสช.เข้ามายึดอำนาจแค่เดือนกว่าๆ คสช.สั่งเบิกจ่ายเงินจ่ายออกไปหลายแสนล้านบาทแล้ว คสช.ใช้เงินอย่างมือเติบ ใช้เงินเกินตัว เพื่อสร้างภาพว่า พอคสช.มาแล้ว เงินไหลสะพัด เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแน่ๆ...แต่ก็มีคนสงสัยว่า คสช.มีความรู้เรื่องเศรษฐกิจไหม? คสช.มีความสามารถในการหาเงินเข้าคลังเป็นไหม?

             หลังจากนั้นไม่นาน กระทรวงการคลังแจ้งข่าวออกมาว่า ครึ่งแรกของปีนี้ การจัดเก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้า นั่นหมายความว่า ภาษีซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ ลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย และคาดการณ์ว่า ปีนี้รายได้จากการจัดเก็บภาษีจะน้อยลงมาก

             มาตอนนี้ โครงการต่างๆ ที่มีแผนในการดำเนินการ ต่างก็ต้องเจรจาจากผู้ชนะการประมูลเพื่อขอลดราคาลงเป็นกรณีพิเศษ หากลดลงไม่ได้ตามที่ต้องการ ก็ไม่ให้ทำ เพราะเจอกับปัญหางบน้อย มีไม่พอจ่าย แล้วโครงการต่างๆ ที่มีแผนจะทำด้วยงบประมาณปี 2558 ไม่ว่า โครงการบริหารจัดการน้ำ หรือโครงการระบบการขนส่งทั่วไทย และโครงการอื่นๆ ที่ต้องใช้เงินอีกนับล้านๆ บาท คสช.หรือรัฐบาลที่คสช.จะแต่ตั้งขึ้นมา จะมีปัญญาหาเงินมาได้ไหม?

             อย่าลืมนะว่า ถึงแม้จะมีรัฐบาลก็จริง แต่ก็เป็นรัฐบาลแต่งตั้งมาจากเผด็จการคสช. ไม่ใช่รัฐบาลที่ประชาชนเลือกมาด้วยระบอบประชาธิปไตย ต่างชาติเขาไม่โง่นะ

           รอดูกันต่อไปว่า คสช.และรัฐบาลนอร์มินี่ จะสามารถพาประเทศไทยเจริญขึ้น หรือดิ่งลงเหว  อาการน่าเป็นห่วงนะ ว่ารัฐบาลไทยจะเจอกับสภาวะถังแตก เหมือนที่เกิดขึ้นในปี 2540 หรือไม่?

..... เวรกรรมประเทศไทย ....


            อธิบดีกรมศุลฯ เผย ครึ่งปีแรกปีงบฯ 57 เก็บภาษีหลุดเป้า 1.2 หมื่นล้านบาท หลังมูลค่านำเข้าสินค้าลดลง ด้านปลัดคลัง ย้ำคงเป้าจัดเก็บรายได้ที่ 2.275 ล้านล้านบาท...


            นายราฆพ ศรีศุภอรรถ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2557 (ต.ค.56-มี.ค.57) ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ถึง 12,000 ล้านบาท คิดเป็น 18.46% และคาดว่าช่วงที่เหลือของปีจะจัดเก็บรายได้รวมเพียง 106,500 ล้านบาท จาก เป้าหมายที่ตั้งไว้ 131,800 ล้านบาท

          ทั้งนี้ ปัญหาการนำเข้าสินค้าลดลงมีผลทำให้การจัดเก็บของกรมฯ ลดน้อยลงนั้น ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เพราะศุลกากรเก็บภาษีจากสินค้านำเข้าเท่านั้น และเป็นไปตามมาตรฐานโลก จึงไม่สามารถที่จะขยายกรอบการจัดเก็บภาษีให้เหมือนกับกรมสรรพามิต หรือกรรมสรรพากรได้

           สำหรับในช่วง 6 เดือนหลัง กรมศุลกากรจะเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี โดยจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดเก็บให้เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับจะเร่งรัดคดีที่ยังคงค้างอยู่ในการพิจารณา โดยคาดว่าจะสามารถเก็บภาษีจากการเร่งรัดคดีดังกล่าวได้ประมาณ 5,000 ล้านบาทภายในปีนี้

             ด้านนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังอธิบดีทั้ง 3 กรมภาษีให้จัดทำแผนการจัดเก็บรายได้ในช่วง 6 เดือนหลังของปีงบประมาณ 2557 ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้เป้าหมายการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2.275 ล้านล้านบาท และยังมั่นใจว่าการจัดเก็บรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งกระทรวงการคลังยังคงยืนยันเป้าหมายจัดเก็บเดิมและไม่ปรับเป้าหมายลงอย่างแน่นอน

            อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าการจัดเก็บรายได้ที่ลดลงมาจากปัญหาการเมืองทำให้เศรษฐกิจโตไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งหากสามารถมีรัฐบาลใหม่ได้ภายในไตรมาส 3 คาดว่า จะช่วยฟื้นความเชื่อมั่น และช่วยทำให้เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น รวมถึงส่งผลให้การจัดเก็บภาษีปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย.

เรื่องเกี่ยวเนื่อง...

ททท. ปิดถนนจัด "สตรีต เฟสติวัล" ชู Thailand Happiness ฟื้นความเชื่อมั่น



             การจัดบิ๊กอีเวนต์ "สตรีต เฟสติวัล" (Street Festival) ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ "ททท." เพื่อฟื้นความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ หลังเผชิญปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างหนัก


            ธวัชชัย อรัญญิก ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า การจัดสตรีต เฟสติวัล จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี พร้อมตอกย้ำสถานการณ์ในประเทศไทยสู่ภาวะปกติ และเป็นการประกาศว่าเมืองไทยสวยงามปลอดภัย

           โดยเชิญชวนต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกภายใต้แนวคิด "Thailand Happiness" ระหว่างวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2557 ณ บริเวณถนนพระราม 1 และถนนราชประสงค์


           กิจกรรมดังกล่าวจะเป็นความร่วมมือร่วมใจครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของคนไทยทุกภาคส่วนและในการส่งคำเชิญนับล้าน เพื่อให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้กลับมาสัมผัสกับความเป็น "Land of Smiles" อีกครั้ง

           ภายในบริเวณงานจะตกแต่งรูปแบบสไตล์ไทยประยุกต์ อาทิ กำแพงดอกไม้นานาชนิด หลังคาร่มจากภาคเหนือ ตกแต่งต้นไม้ด้วยผ้าขาวม้าเอกลักษณ์ของภาคอีสาน เป็นต้น  ทั้งนี้กิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ Happiness Concert และ Happiness Street 


           โดยในส่วนของ Happiness Concert ณ ถนนราชประสงค์ จัดขึ้นในวันที่ 25 กรกฎาคม 2557 ตั้งแต่เวลา 15.00-24.00 น. โดยกิจกรรมไฮไลต์สำคัญจะมีศิลปินระดับประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ ดา เอ็นโดรฟิน, โปเตโต้, หญิงลี, ปาล์มมี่, ป็อด โมเดิร์นด็อก เป็นต้น

           ส่วน Happiness Street จะปิดถนนพระราม 1 บริเวณด้านหน้าสยามพารากอน-สี่แยกราชประสงค์ ในวันที่ 25-26 กรกฎาคม 2557 แบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ 


           โซนที่ 1 "Happiness Show off" สนุกสนานกับขบวนพาเหรดหรรษากับสากลในความเป็นไทยด้วยขบวนอีสานดรัมไลน์ โชว์เอกลักษณ์แฟชั่นไทยหนึ่งเดียวในโลกกับการรวมนางงามไทยแต่งกายชุดประจำชาติแบบประยุกต์ อิ่มเอมกับครัวไทยสู่ครัวโลก พาความสนุกเที่ยวไทยไปทุกที่ กับขบวนจักรยานสามล้อถีบท่องเที่ยวไทยสุขใจ ประเทศไทยเมืองผลไม้

          ปิดท้ายกับความมันส์กับลูกทุ่งสุดอลังการจากเยาวชนไทย พร้อมกิจกรรมโชว์ในรูปแบบของ Thai Style ได้แก่ โขนเด็กแรป ฝรั่งร้องเพลงไทย คีตไทยเล่นของนอก โปงลางอีสานอินดี้ และชฎาทองอมยิ้ม เป็นต้น
           โซนที่ 2 "Happiness Gifts Market" พบกับ 80 ร้านค้าแนว "Street Style" แบ่งเป็น Fashion Market สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า สินค้าแฮนด์เมด, Online on Street ยกสินค้าออนไลน์มาไว้บนถนน, Restaurant in Trend โดยจะยกร้านอาหารชื่อดังย่านราชประสงค์-ราชดำริไปจนถึงร้านอาหารแบบสตรีตฟู้ดทั่วไป และ Star on Street ตลาดนัดดาราและเซเลบชื่อดังมากมาย


           โซนที่ 3 "Happiness Surprise" พบกล่องของขวัญยักษ์ในถนนคนเดิน จำนวน 2 กล่อง โดยกล่องของขวัญจะเปิดออกได้ด้วยรอยยิ้มของคนมาร่วมงาน ที่รวมตัวกันถ่ายภาพลง Instagram คืนความสุขให้เมืองไทย และเมื่อครบ 5,000-10,000 รอยยิ้มกล่องก็จะเปิดออก 


            และพบกับกิจกรรมสุด Surprise ของแต่ละกล่องที่แตกต่างกันจากศิลปินที่จะมาร่วมให้ความสุข นอกจากนี้ยังมี Star Tunnel อุโมงค์ไฟดาว LED นับหมื่นดวง และ Landmark Lighting วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

            และโซนที่ 4 "Happiness Activity" ภายในงานจะมีการจัดกิจกรรมที่คืนความสุขให้คนไทยมากมาย อาทิ Happiness Refill มองหาลูกโป่ง Happiness จากคนขายในราคา 50 บาท เพื่อร่วมบริจาคเงินให้มูลนิธิต่าง ๆ และรับของแถมน่ารัก ๆ และเป็นการรีฟิลความสุขให้ตัวเองและคนอื่นไปพร้อม ๆ กัน และ Connect to Happiness ตู้ไอศกรีมแจกฟรี เพียงแค่กดปุ่มที่ตู้พร้อมกับกดปุ่มที่วัว ไอศกรีมก็จะออกมา แต่วัวและตู้จะถอยห่างจากกันเรื่อย ๆ คนที่จะกดต่อไป ต้องหาตัวช่วยมาต่อกัน สร้างความสามัคคีให้คนแปลกหน้า รวมไปถึงกิจกรรมโชว์จากซูเปอร์ฮีโร่มาช่วยกันทำดี 


            ผู้ว่าการ "ททท." ย้ำว่า "การจัดกิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการจัดครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อคืนความสุขให้คนไทยตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเป็นการกระตุ้น เผยแพร่ไปยังทั่วโลก"

            ที่สำคัญ ยังได้สั่งการให้สำนักงาน ททท.ทั่วโลกจัดกิจกรรม "เมกะเฟมทริป" เชิญสื่อมวลชน บล็อกเกอร์และเอเย่นต์จำนวน 1,000 คน จาก 37 ประเทศทั่วโลกเข้ามาดูสถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศไทยและร่วมกิจกรรมดังกล่าว ในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ โดยจะมาร่วมกิจกรรมนี้ที่กรุงเทพฯ ก่อนแบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม กระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศอีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น