21 ม.ค.2558 ที่ศาลฎีกา ศูนย์ราชการ ถ.แจ้ววัฒนะ ดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา มีผู้พิพากษาศาลฎีกาทั้งหมด 173 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อเลือกผู้พิพากษา 9 คน เป็นองค์คณะพิจารณาคดีหมายเลขดำ อม.2/2558 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.น. เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 295 และ 302 จาก
โดย ป.ป.ช.ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา กรณีเมื่อวันที่ 7 ต.ค.51 รัฐบาลนายสมชายได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ปิดล้อมทางเข้ารัฐสภา กระทั่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 471 ราย
ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีมติเลือก เพลินจิต ตั้งพูลสกุล, วีระพล ตั้งสุวรรณ, ศิริชัย วัฒนโยธิน และชีพ จุลมนต์ รองประธานศาลฎีกา ชาติชาย อัครวิบูลย์ ประธานแผนกคดีผู้บริโภคฯ พฤษภา พนมยันตร์ ประธานแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวฯ ธนฤกษ์ นิติเศรณี ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฯ นิยุต สุภัทรพาหิรผล ประธานแผนกคดีแรงงานฯ และ ธนสิทธิ์ นิลกำแหง ประธานแผนกคดีเลือกตั้ง เป็นองค์คณะ เพื่อพิจารณาคดีดังกล่าว
โดยหลังจากนี้ผู้พิพากษาทั้ง 9 คน ซึ่งเป็นองค์คณะ จะประชุมกันเป็นการภายใน เพื่อเลือกผู้พิพากษา 1 คน เป็นเจ้าของสำนวน ขณะที่ ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำสั่งว่า จะประทับรับฟ้องเป็นคดีหรือไม่ ในวันที่ 24 ก.พ.นี้ เวลา 10.00 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น