วิชา มหาคุณ แถลงวันปิดคดีถอดถอนอดีตประธานรัฐสภา ชี้กระทำการจงใจส่อขัด รธน. ผิดจริยธรรมร้ายแรง และไม่รับฟังเสียงข้างน้อย ปมแก้ไข รธน. ที่มา ส.ว.
22 ม.ค. 2558 เว็บข่าวรัฐสภา รายงานว่า ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งมีสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คนที่ 1 เป็นประธานในที่ประชุม ได้ดำเนินกระบวนการถอดถอนสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา ออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา ๖ วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ประกอบมาตรา ๖๔ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งเป็นขั้นตอนการรับฟังคำแถลงการณ์ปิดสำนวนด้วยวาจาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้กล่าวหา และสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ถูกกล่าวหา
วิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. แถลงปิดคดีถอดถอน สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา โดยกล่าวย้ำว่า การกระทำของสมศักดิ์ ได้กระทำการจงใจส่อขัดกับรัฐธรรมนูญและผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง เนื่องจากจงใจสั่งปิดการอภิปรายก่อนกำหนดปิดประชุมเป็นการไม่รับฟังความเห็น ของสมาชิกเสียงข้างน้อย รวบรัดตัดสิทธิ์ผู้จะอภิปรายในการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ในวาระ 2 จึงถือว่าการกระทำดังกล่าวไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและการแก้ไข รัฐธรรมนูญโดยไม่รับฟังอย่างรอบด้านจะส่งผลกระทบต่อการปกครองประเทศครั้ง ใหญ่ เพราะรัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุด
ทั้งนี้การทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ต้องรอบครอบคำนึงถึงหลักนิติธรรม ใช้อำนาจโดยสุจริต ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน รับฟังเสียงข้างน้อยเพื่อให้ความเป็นธรรมแต่การกระทำของบุคคลดังกล่าวกลับ ตรงข้าม ละเว้น ไม่ดำเนินการไตร่ตรองพิจารณาให้รอบครอบ แสดงถึงความบกพร่องอย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ยังพบว่า สมศักดิ์ได้กระทำการหลายข้อที่ส่อว่าทำหน้าที่โดยมิชอบ คือ การนำเอาญัตติรองคือญัตติของปิดประชุม มาใช้กับญัตติหลักคือ การพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตามหลักไม่สามารถทำได้ การนับเวลากำหนดการแปรญัตติย้อนหลังจนทำให้เหลือเวลาแปรญัตติเพียง 1 วัน การให้ลงมติในวาระ 3 ทั้งที่กระบวนการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ถูกต้องและการสับเปลี่ยนร่างรัฐ ธรรมนูญฉบับแก้ไขที่เสนอโดยอุดมเดช รัตนเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นฉบับอื่น โดยพละการไม่มีสมาชิกรัฐสภาลงชื่อรับรอง มาพิจารณาในวาระรับหลักการ ซึ่งโดยขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการไต่สวนว่าจะเป็นคดีอาญาด้วยหรือไม่
ด้านสมศักดิ์ ไม่ได้ยื่นคำขอแสดงความจำนงที่จะแถลงปิดคดีด้วยว่าจาหรือหนังสือภายใน 7 วันที่จะแถลงเปิดคดี เท่ากับว่าสมศักดิ์ไม่ประสงค์ที่จะมาแถลงปิดคดีด้วยตนเอง โดยได้กำหนดวันลงมติเพื่อจะถอดถอนหรือไม่ถอดถอนสมศักดิ์ออกจากตำแหน่งหรือไม่ ในวันศุกร์ที่ 23 ม.ค.นี้ เวลา 10.00 นาฬิกา อย่างไรก็ตามบุคคลที่ถูกถอดถอนจะมีโทษแค่เพียงถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีเท่านั้น ไม่ได้มีผลกับคดีอาญาแต่อย่างใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น