18 มี.ค.2558 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ โฆษกสำนักงานหลักประกันสุ ขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า กรณีที่มีรายงานข่ าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตรวจสอบการใช้เงินสนับสนุนกิ จกรรมภาครัฐตามข้อบังคับองค์ การเภสัชกรรมของ(อภ.) ที่ให้แก่สปสช. นั้น สปสช.ขอชี้แจงว่าประเด็นที่ดี เอสไอตรวจสอบนั้น สืบเนื่องจาก กรณีที่สำนักงานปลั ดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ได้เสนอให้ดีเอสไอสอบสวนการใช้ เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐดั งกล่าว ตั้งแต่ 3 ก.ย. 56 ต่อมา 9 ก.ย. 56 ดีเอสไอได้ตั้งคณะทำงานเพื่ อสอบสวน และ 31ต.ค. 56 ดีเอสไอได้แจ้งผลการสืบสวนไปยั งปลัดสธ. ต่อมาวันที่ 13 ม.ค. 57 ดีเอสไอได้ เสนอรายงานการสอบสวนให้ รมว.สธ.ขณะนั้นรับทราบ จากนั้น 15 ม.ค.57 รมว.สธ.ขณะนั้นได้สั่งการให้ ประธานบอร์ดอภ.ขณะนั้นหารือกั บสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ในประเด็นการใช้จ่ายเงินสนับสนุ นกิจกรรมภาครัฐของ อภ.ที่มอบให้สปสช. และได้ข้อสรุปที่เป็นไปในทางเดี ยวกับผลสรุปของดีเอสไอว่า ไม่พบพิรุธหรือทุจริตการใช้เงิน แต่ให้ดำเนินการให้ถูกตามระเบี ยบ ดังนี้
สตง.ได้พิจารณาข้อหารือดังกล่ าวและแจ้งให้ อภ.ทราบว่า เงินที่ อภ.จัดสรรเป็นเงินสนับสนุนกิ จการภาครัฐให้แก่ สปสช. เป็นเงินที่เกิดมาจากการที่ สปสช.ได้จัดซื้อผลิตภัณฑ์ยาด้ วยเงินจากกองทุนหลักประกันสุ ขภาพแห่งชาติที่ได้รับมาตาม พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี จึงเป็นสิทธิของ สปสช.โดยชอบที่จะต้องพิจารณาจั ดสรรเงินที่ได้รับมาด้ วยตนเองให้ไปยังหน่วยบริ การในระบบหลักประกันสุขภาพแห่ งชาติ ซึ่งประกอบด้วยหน่วยบริการภาครั ฐทั้งที่อยู่ในสังกัด สป.สธ. และอยู่นอกสังกัด สป.สธ. และหน่วยบริการภาคเอกชนตามข้ อเสนอแนะของ สตง. และยังระบุตอนท้ายว่า ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความเป็ นธรรมและทั่วถึง หาก สปสช.พิจารณาให้สป.สธ. เป็นผู้ดำเนินการแทนอาจถือเป็ นการขัดต่อข้อบังคับของ อภ.ไม่ตรงประเด็นตามข้ อเสนอแนะของ สตง. และอาจขัดต่อ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ได้
“เมื่อ สตง.มีข้อเสนอแนะ สปสช.ก็ปฎิบัติตามนั้น ไม่มีการโอนเงินจำนวนดังกล่ าวให้แก่ สป.สธ.แต่อย่างใด ทั้งนี้ สปสช.ขอชี้แจงว่า สตง.ไม่ได้ท้วงติงว่า สปสช.มิได้ส่งเงินนี้ให้กับหน่ วยบริการ และนำไปจัดสรรให้กลุ่มบุ คคลและองค์กรอื่นที่ไม่ใช่หน่ วยบริการแต่อย่างใด ประเด็นนี้เป็นการเข้าใจผิด นอกจากนั้น บอร์ด สปสช.ยังได้กำหนดหลักเกณฑ์ การใช้จ่ายเงินสนับสนุนกิ จกรรมภาครัฐที่ได้รับจาก อภ.ให้เป็นการนำไปใช้เพื่ อประโยชน์โดยตรงต่อหน่วยบริการ ตามที่ สตง.ได้เสนอแนะเพิ่มเติมอีกด้ วย” ทพ.อรรถพร กล่าว
โฆษก สปสช. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ขอชี้แจงประเด็นที่มี การเข้าใจผิดว่า เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐเป็ นเงินส่วนลดจากการซื้อยานั้น ข้อเท็จจริงคือ เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐตามข้ อบังคับของอภ.นั้น เป็นเงินที่ อภ.จัดสรรให้สปสช.เพื่อเป็นเงิ นสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐ ไม่ใช่เงินที่ได้จากส่ วนลดในการซื้อยา และต้องย้ำว่าเป็นเงินคนละส่ วนกับส่วนลดจากการซื้อยา ที่ผ่านมา สปสช.มีการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ รวม ซึ่งวิธีการนี้สามารถซื้อยาได้ ราคาถูกลง และเงินที่ประหยัดได้ หรือที่หลายฝ่ายอาจจะเรียกว่ าเป็นเงินส่วนลดนั้น ก็กลับเข้าสู่กองทุนหลักประกั นสุขภาพในรูปแบบว่าการซื้อยาได้ ราคาถูกลง ก็ทำให้ซื้อได้มากขึ้น และทำให้มีจำนวนผู้ป่วยที่ได้รั บยานั้นเพิ่มมากขึ้น แต่เงินสนับสนุนกิจกรรมภาครัฐนี ้เป็นไปตามข้อบังคับของ อภ.ที่มอบให้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุ นส่งเสริมการบริหาร การพัฒนาวิชาการ การศึกษาวิจัย รวมทั้งสนับสนุนกิ จกรรมสาธารณประโยชน์อื่น
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า ในการจัดสรรนั้น จะมีคณะกรรมการบริหารเงินสนั บสนุนกิจกรรมภาครัฐ ที่ตั้งขึ้นตามระเบี ยบคณะกรรมการหลักประกันสุ ขภาพแห่งชาติ ว่าด้วยเงินสนับสนุนกิ จกรรมภาครัฐ ทำหน้าที่ในการพิจารณาให้ ความเห็นชอบสนับสนุนงบประมาณให้ หน่วยบริการ หรือหน่วยงานภาครัฐ หรือองค์กรภาคีเครือข่าย รวมถึงผู้ปฏิบัติงานของสำนักงาน ซึ่งประเด็นนี้จะเห็นได้ว่า เป็นเงินที่สนับสนุนให้แก่องค์ กรที่นอกเหนือจากหน่วยบริการได้ และใช้เป็นสวัสดิการสำหรับสำนั กงานได้ ซึ่งสวัสดิการสำนักงานนี้ เป็นไปตามระเบียบการดำเนินงานที ่หน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล กระทรวง กรมต่างๆ ต่างมีงบประมาณสวัสดิการ ดังนั้นการที่มีการอ้างระบุว่า สตง.ทักท้วงว่า สปสช.มิได้ส่งเงินนี้ให้กับหน่ วยบริการ และนำไปจัดสรรให้กลุ่มบุ คคลและองค์กรอื่นที่ไม่ได้ จึงเป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น