โชคดีที่เกิดเป็นคนไทยใต้ร่มบรมโพธิสมภารยิ่งแล้ว | |
"พระราชินี" เสด็จพระราชดำเนินลง ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคลต่างๆ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ทรงตรัสพระพลานามัยในหลวง ทรงสบายดีขึ้นมาก ทรงติดตามห่วงผู้ประสบภัยธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ได้พระราชทานสิ่งของไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมหลายแห่ง ขณะเดียวกัน ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมปรึกษาหารือถึงแนวทางที่จะช่วยเหลือประชาชน ทรงห่วงป่าถูกทำลาย เป็นเหตุทำให้น้ำท่วมพร้อมยกย่องทหารกล้า-ช่างภาพ ฮ.ตก ชม จนท.กู้ศพเสียสละ ทรงห่วงเรื่องยาเสพติด ขอให้รัฐบาลนำไปดำเนินการสานต่อจากรัฐบาลที่แล้ว โดยทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาขอให้ทุกฝ่ายช่วยคิดหาวิธีทำให้ภาคใต้กลับคืนความสงบสุขโดยเร็ว(ภาพข่าว:ASTVผู้จัดการ) โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์ 12 สิงหาคม 2554 จากพระราชเสาวนีย์ข้างต้นนั้น พสกนิกรไทยต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่านับเป็นบุญที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ได้อาศัยพระบรมโพธิสมภารเป็นที่พึ่ง โดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองมีวิกฤตการณ์แตกแยกออกเป็นหลายฝ่ายช่วงหลายปีมานี้ ทั้งนี้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่าที่อาศัยอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภาร พระมหากรุณาธิคุณ-พระราชินี เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในการวางพวงมาลา และพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่จากกลุ่มผู้ชุมนุม นปช. เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2553 ในการนี้มีรับสั่งว่า เสียใจ เสียดายนายทหารที่ดี นับว่าเป็นการสูญเสียทหารที่ทำหน้าที่ปกป้องบ้านเมือง และขอขอบคุณพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกมาเป็นอย่างดี มีความภักดีต่อราชวงศ์ (รายละเอียดข่าว) ในคราวเกิดเหตุการณ์จลาจลขึ้นในบ้านเมืองเมื่อปีที่แล้ว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่นั้น เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นกรณีพิเศษ ดังนี้ ประกาศสำนักนายกฯ ระบุว่า ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เป็นกรณีพิเศษ ให้แก่ ข้าราชการทหารสังกัดกองทัพบก ซึ่งเสียชีวิตเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้วยความเสียสละและฝ่าอันตรายจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทางราชการและเป็นแบบอย่างอันควรแก่การยกย่องสรรเสริญสืบไปจำนวน 5 ราย ดังนี้ ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก 1. พลเอก ร่มเกล้า ธุวธรรม เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย 2 . ร้อยเอก ภูริวัฒน์ ประพันธ์ 3. ร้อยเอก อนุพนธ์ หอมมาลี 4. ร้อยโท อนุพงษ์ เมืองอำพัน 5. ร้อยตรี สิงหา อ่อนทรง ประกาศ ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เย็นศิระ เพราะพระบริบาล-เมื่อเวลา19.00น.เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2553 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ถนนราชวิถี เพื่อทรงเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติการขอพื้นที่คืนจากผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เมษายน โดยมีประชาชนมาเฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก(ภาพข่าว:ASTVผู้จัดการ) ทรงมีพระราชหัตถเลขาชมเชยสตรีไทยช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์ของชาติ อีกเรื่องหนึ่งที่นำความปลาบปลื้มปิติเป็นล้นพ้นต่อปวงพสกนิกรชาวไทยก็คือในคราวที่เกิดจลาจลในกรุงเทพฯเมื่อปีที่แล้วนั้น ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ นางสนองพระโอษฐ์ และรองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้อัญเชิญพระราชหัตถเลขา ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระราชทานให้กับคุณนภัส ณ ป้อมเพชร พระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2553 มีความรายละเอียดว่า
น้ำพระทัยแผ่ไพศาลต่อพสกนิกรยามบ้านเมืองแตกแยก พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกร-ไม่เพียงแต่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อฝ่ายเจ้าหน้าที่ ยังทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า โดยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2551 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ไปในการพระราชทานเพลิงศพนางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือน้องโบว์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจัดการชุมนุมและปะทะกับตำรวจ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม2551 ณ เมรุวัดศรีประวัติ ต.ปลายบาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ในโอกาสดังกล่าวนายจินดา ระดับปัญญาชาติวุฒิ บิดาของนางสางอังคณา พร้อมด้วยนางสาวดารณี นางสาววิชชุดา บุตรสาวทั้งสองเข้าเฝ้าฯสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พลับพลาที่ประทับ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับครอบครัวระดับปัญญาวุฒิ ประมาณ 15 นาทีก่อนที่ทั้งสองพระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินกลับ หลังจากที่ทั้งสองพระองค์เสด็จฯกลับ นายจินดาให้สัมภาษณ์ โดยที่ "พระองค์ทรงรับสั่งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนางสาวอังคณา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับรู้เรื่องราวโดยตลอด รวมทั้งกรณีพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานทรัพย์ช่วยเหลือมาด้วย ซึ่งผมและครอบครัวระดับปัญญาวุฒิรู้สึกภาคภูมิใจอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ทั้งสองพระองค์เสด็จในงานพระราชทานเพลิงของลูกสาว ซึ่งผมและครอบครัวจะน้อมนำเอาพระราชดำรัสที่ทรงห่วงใยมาเป็นกำลังใจในการดำเนินชีวิตต่อไป" ต่อมานายจินดาให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า "พระองค์ตรัสว่า อังคณาเขาทำดีน่ะ รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ พระองค์ท่านตรัสว่า เสียใจไม่น่าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เลย" "สมเด็จพระราชินีทรงถามสารทุกข์สุกดิบของครอบครัว พระองค์ตรัสถามถึงอาการของภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้าง ผมทูลฯตอบไปว่า รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช อยู่ในพระราชินูปถัมภ์ พระองค์ท่านยังทรงกล่าวอีกว่า ยังไงก็ต้องมางานนี้ เพราะทำเพื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระองค์ด้วย" พระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า "ตี๋ ชิงชัย" วาดพระสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ ด้วยมือซ้าย พระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯต่อพสกนิกรนั้นยังแผ่ไพศาลต่อมาอย่างสืบเนื่อง ในคราววันเฉลิมพระชนมพรรษา12สิงหามหาราชินีเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2552 เวบไซต์ผู้จัดการASTV รายงานข่าวว่า "พระราชินีตรัสชื่นชม"ตี๋ ชิงชัย"วาดพระสาทิสลักษณ์"เก่งมาก" โดยรายละเอียดข่าวมีว่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2552 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หรือ ตี๋ ชิงชัย ศิลปินผู้สูญเสียมือขวาจากเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 พร้อมภรรยาเข้าเฝ้าฯ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบรมสาทิสลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่นายชิงชัยวาดด้วยมือซ้าย ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถารว่า "เก่งมาก" พระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผลงานการวาดด้วยมือซ้ายของนายชิงชัย อุดมเจริญกิจ ศิลปินผู้สูญเสียมือขวาจากเหตุการณ์ 7 ตุลา 51 "ตี๋ ชิงชัย" เป็นหนึ่งในศิลปินนักสู้ที่เข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมนั้น "ตี๋ ชิงชัย" ถูกระเบิดแก๊สน้ำตาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจนมือข้างขวาที่เคยใช้วาดรูปขาดกระจุยและกล่องเสียงถูกทำลาย แต่มีตำรวจบางคนและสื่อมวลชนบางฉบับ ได้รายงานว่านายชิงชัยว่ากำระเบิดมาเอง แต่ผู้จัดการASTVระบุว่า ในความเป็นจริงสิ่งที่เขากำอยู่ในมือคือพวงกุญแจหนัง ด้วยน้ำพระทัยแผ่ไพศาล ทำให้บ้านเมืองที่เคยรุ่มร้อน ก็ผ่อนคลายร่มเย็นสงบลงด้วยพระบารมีเป็นที่ตั้ง ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ขอถวายความจงรักภักดี เป็นข้ารองบาทราชจักรีวงศ์ทุกชาติไป ในอภิลักขิตสมัย เฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหามหาราชินีเวียนมาบรรจบอีกครั้ง ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด | |
http://redusala.blogspot.com |
ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น