วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สัจจังเว อมตาวาจา หมีหน้าฮ๊ากมึงจำได้ไหมว่าพูดไว้ว่างัย

           ในวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2552 อภิสิทธิ์ได้ตอบกระทู้อภิปรายไม่ไว้วางใจเกี่ยวกับการรับราชการทหารว่า มีความเข้าใจผิดว่าตนสมัครเข้ารับราชการทหาร หลังจากไม่เข้ารับการตรวจเลือกการเกณฑ์ทหาร

          แต่ในความเป็นจริง ได้สมัครเข้ารับราชการทหารตั้งแต่ก่อนถึงกำหนดเกณฑ์ทหารแล้ว การสมัครเข้ารับราชการทหารในขณะนั้นจึงไม่ต้องใช้ สด.๔๓ แต่ใช้ สด.๙ และหนังสือผ่อนผันฯ แทน

             ซึ่ง อภิสิทธิ์ยืนยันว่าขณะที่สมัครเข้า รร.จปร. ตนมีเอกสาร สด.๙ ที่ได้รับประมาณกลางปี พ.ศ. 2529 หลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและกลับมาถึงประเทศไทย และมีรายชื่อได้รับการผ่อนผันฯ เพื่อเรียนต่อปริญญาโท ช่วงปี พ.ศ. 2530 ถึง พ.ศ. 2532 ตามบัญชีของ ก.พ. ที่จัดทำตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2529 การสมัครเข้า รร.จปร. ของตนจึงเป็นการสมัครโดยมีคุณสมบัติครบถ้วน 

            หลังจากสมัครเข้า รร.จปร. ได้ผ่านการฝึกทหารคล้ายการฝึกนักศึกษาวิชาทหาร จนครบตามหลักสูตรจึงได้รับพระราชทานยศร้อยตรี ในการขอติดยศร้อยตรีนั้นตนได้ทำเอกสาร สด.๙ หาย จึงได้ไปขอออกใบแทน แต่ในการสมัครเข้า รร.จปร. ได้ใช้ สด.๙ ตัวจริงสมัคร แล้วเอกสารมีการสูญหายในภายหลัง ในการอภิปรายครั้งนี้ อภิสิทธิ์ได้แสดง สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ได้รับการยกเว้นผ่อนผันฯ และ สำเนา สด.๙ ฉบับแรกของตน ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วย

           "ทุกคนที่เป็นนายกฯ ที่มียศ เขาจะใช้ยศ และจะพูดถึงยศด้วยความภูมิใจ แต่มีท่านคนเดียว สิ่งที่บอกเบื้องลึกของท่าน เพราะการใช้ สด.9 ออกเป็นเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการแสดง สด.43 เป็นการหลีกเลี่ยงแผลในใจ ท่านจึงไม่ใช้ยศว่าที่ร.ต." นายจตุพร กล่าว


            นายอภิสิทธิได้ลุกขึ้นชี้แจงว่า เรื่องการการหนีทหารว่า เป็นประเด็นที่เป็นข้อกล่าวหาหนักหนาสาหัสมากนั้น ตนก็จะขอพูดเรื่องรับราชการทหาร พร้อมจะชี้แจงเรื่องกม. และคุณธรรมจริยธรรมด้วย  


             "ท่านประธานที่เคารพ ผมทราบดีว่าชายไทยทุกคนมีหน้ที่รับราชการทหาร สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผมไปศึกษาต่อต่างประเทศตั้งแต่อายุ 11 และศึกษาต่อจนเรียนจบป.ตรี ประมาณอายุ 22-23 นั่นแหละ ในการรับราชการทหารต้องทำความเข้าใจนะ การรับราชการทหารมันมีช่องทางหลักก็คือ ผ่านการเกณฑ์ทหาร ตามพรบ.รับราชการทหารปี 2497 ซึ่งอันนั้นเป็นช่องทางหนึ่ง ขณะเดียวกันกม.ก็เขียนชัดเจนว่า ถ้าไม่ได้เป็นไปตามกม.ฉบับนั้นก็สามารถไปรับราชการทหาร ตามระเบียบรัชราชการทหารปี 2521 ได้

             ผมจบจากอ๊อกฟอร์ดในปี 2529 ผมก็เข้าใจว่า เมื่อผมเป็นนักเรียนในการดูแลของ ก.พ. ก็จะมีการผ่อนผันให้  แต่เมื่อผมกลับมาก็ไปขึ้นทะเบียนในเดือน ก.ค.2529 ซึ่งผมเองก็ได้ดำเนินการตรงนั้น ส่วนที่ล่าช้าไปก็คงเกิดขึ้นกับหลายคน มีการเสียค่าปรับก็ว่ากันไป

            ประเด็นก็คือว่าเมื่อผมกลับมา ผมก็คิดว่าน่าจะได้ทำหน้าที่ช่วยเหลือบ้านเมือง พร้อมกับรับราชการทหาร ขณะเดียวกันยุคนั้นก็มีความต้องการให้คนที่จบมาไปเป็นอาจารย์ของโรงเรียนนายร้อยกันมาก และผมก็คิดว่าเอาความรู้ที่ได้มาทั้งเป็นประโยชน์ต่อราชการ และพร้อมกันนั้นผมก็มีความคิดที่จะไปเรียนต่อด้วย มันก็จำเป็นต้องทำสองทางพร้อมกันไป ไม่ได้ละเลยต่อหน้าที่เลย

          ท่านสมาชิกเคยพูดในหลายที่ว่า เมื่อรับสด.9 มาแล้ว ผมไม่ยอมไปเกณฑ์ทหาร และจะหาทางลบล้างความผิดยังไง ที่จริงท่านทราบดีว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะเอกสารที่ท่านนำมามันบอกเองว่าผมสมัครก่อนครบหนดเกณฑ์ คือเกิดก่อน 30 เม.ย.30 ทั้งสิ้น แล้วท่านก็มาบอกว่าเอาเอกสารเท็จ เพราะเขารับผมเข้าทำงานในกลางปี 30 แต่เอกสารของท่านมันออกปี 31 ผมจะเอาเอกสารเท็จไปยื่นก่อนได้อย่างไร

           ที่จริงผมไม่เคยมีข้อสงสัยเรื่องรับราชการทหารของผมเลย ผมก็แปลกใจเพราะว่าฝ่ายท่านเป็นรัฐบาลมานาน ถ้ามีอะไรไม่ถูกคงมีการดำเนินคดีไปแล้ว ผมเห็นว่าคนที่ท่านพาดพิงมาว่าเขารับโทษต่าง ๆ นานานั้น เพราะทำเอกสารให้ผมนั้น ผมก็ยืนยันว่าบุคคลทั้งสองไม่เคยได้รับโทษแต่อย่างใด และเอกสารที่ท่านอ่าน ก็ไม่ชัดเจนว่าเป็นเอกสารในขั้นตอนไหน อย่างไร เพราะยังไม่มีการยืนยันว่าเป็นอย่างไร แต่กรณีจะเป็นอย่างไรก็ตาม ท่านก็ได้ยอมรับว่า ผมได้สมัครรับราชการทหาร และได้รับบรรจุตั้งแตปี 2530

       ขณะเดียวกันท่านก็บอกว่า 1.ถ้าอายุไม่ถึง 21 ก็เอาสด.9 ไปสมัคร และ 2.ถ้าเกินกว่า 21 ปี ต้องมีทั้งสด.9 และ สด.43 หรือมีหนังสือผ่อนผัน เมื่อมีการสงสัยเรื่องนี้ ในที่สุดผมก็ไปค้นพบเอกสาร แล้วก็มีชื่อผมอยู่ในฐานะผู้ได้รับการผ่อนผันปี 30-32 เพราะผมมีความตั้งใจจะไปศึกษาต่อ นี่จึงเป็นเหตุผลว่า จปร. ให้ผมได้รับการบรรจุอย่างถูกต้อง

            ช่วงแรกผมเข้าไปเป็นขรก.พลเรือนกลาโหม พรบ.รับราชการทหารปี 2521 ก็อธิบายครอบคลุมว่า ขรก.ทหารหมายถึงขรก.กลาโหมพลเรือนด้วย เพราะฉะนั้นผมก็เริ่มรับราชการทมหารตั้งแต่กลางปี 2530 ด้วย

หมีหน้าฮ๊ากโชว์ภาพเรียน รอ ดอ

            ท่านก็อาจไม่ทราบว่าในช่วงที่ผมสอนอยู่โรงเรียนนายร้อย ในช่วงแรกยังไม่มียศ เพราะยังไม่ได้รับการฝึก วิธีการของเขาก็คือเขาจัดให้มีการฝึก ซึ่งเขาจะมีเป็นรอบๆเหมือนกับการฝึกอบรมของส่วนราชการอื่นๆ เขาจะจัดเป็นรุ่น ผมก็ฝึกเหมือนกับเพื่อนฝึกรด.แหละ แต่ความต่างก็คือท่านฝึกรด.ก็ไปสัปดาห์ละครึ่งวัน แต่ของผมฝึกต่อเนื่อง มีการไปเขาชนไก่เหมือนกัน (โชว์รูปที่ฝึกทหารมาโชว์ 3 รูป) ไม่ได้มีอะไรลึกลับซับซ้อน แล้วก็เข้าไปรับราชการทหาร ท่านถามว่าผมมีลูกศิษย์มั้ย ผมได้พาคณะไปเยี่ยม 3 จว.ใต้ มีนายทหารวิ่งเข้ามาหาผม บอกว่าเป็นลูกศิษย์ผม

          ผมก็สอนหนังสือตามปกติ ทีนี้พอถึงช่วงปี 2531 พอฝึกเสร็จเรียบร้อย ก็ต้องเข้าสู่การขอพระราชทานยศ ก็มีการมาขอเอกสารหลักฐานที่ใช้ รวมถึง สด.9 ก็ปรากฏว่ามันหาย เลยไปขอใบแทนออกมา ซึ่งก็ไม่ได้มีผลใด ๆ ทั้งสิ้นต่อการรับราชการ และการรับพระราชทานยศ 

           ถัดมาในปี 2531 เป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยประสานมา ผมก็ตัดสินใจว่าต้องไปเรียนต่อ และก็จะไปสอนหนังสือด้วย ผมก็ได้ทำเรื่องลาและได้รับการอนุมัติถูกต้องทุกประการ ถ้าถามว่าผมทำหน้าที่รับราชการหรือยัง ก็ต้องบอกว่าการรับราชการทหารในระเบียบปี 21 ทีให้ทำเป็นเวลาหนึ่งปีเป็นอย่างน้อยนั้น ผมก็ทำเกินหนึ่งปีแน่นอน ไม่ได้มีอะไรเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของประเทศไทย ทุกเรื่องไม่มีสองมาตรฐานและผมก็ได้รับการตรวจสอบและยินดีที่จะชี้แจงตามที่ท่านมีข้อสงสัย

          ที่ท่านมาบอกว่าผมต้องเดินบนความหวาดกลัวกองทัพ เป็นเรื่องไร้สาระ ผมไม่ทราบว่าท่านกลัวใครบ้างแต่ผมไม่กลัว ไม่ว่าเรื่องภาคใต้ หรือการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพก็ตาม ท่านไม่เคยได้ยินหรอกนะครับว่า ถ้ามีบุคคลของกองทัพทำไอะไรผิดต้องได้รับโทษ แต่ผมพูด และได้รับการขานรับอย่างดีจากท่านผบ.ทบ. ไม่ว่าจะเป็นกรณีโรฮิงญา หรือการปฏิบัติหน้าที่ของทหารใน 3 จว.ใต้ ผมทำบนมาตรฐานที่ชัดเจน หลายเรื่องท่านต้องทราบ แต่ท่านก็มองข้าม ไม่ไปดูหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้ทางกระทรวงก็เคยมาชี้แจงต่อ กมธ.ทหาร ก็ยืนยันว่าการบรรจุผมมีระเบียบที่แน่ชัด

          จากนั้นนายจตุพร ได้ลุกขึ้นตอบโต้นายอภิสิทธิ์ โดยพยายามซักถามต่อว่า ใช้หลักฐานอะไรในการสมัครเป็นอาจารย์ ร.ร.นายร้อยจปร. เพราะหลักฐานที่ต้องนำมานั้น มันต้องใช้สด.9 สด.8 และหลักฐานการผ่อนผันอื่น เพราะท่านนายกฯมาสารภาพกลางสภาเองว่าได้รับการบรรจุ 7 ส.ค.30 ท่านไม่ได้ให้สด.9 ไปแสดง ท่านไปเป็นทหารได้อย่างไร เพราะมีเอกสารต้องแสดง 16 รายการ ท่านจะมาขอสด.9 ใบแทน ซึ่งออกเอกสารใบแทนปี 31 ได้อย่างไร นายจตุพรยังตั้งคำถามาต่อไปว่า ในปี 2530 นายอภิสิทธิ์ ไม่เข้ารับการตรวจเลือก และถ้าได้รับการผ่อนพันจริง ทำไมถึงปรากกชื่อในบัญชีคนขาดใน 32-33-34 ตนไม่ได้กล่าวหานายอภิสิทธิ์โดยปราศจากหลักฐาน เพราะผลการสอบของกองทัพ รวมถึงผลการตรวจสอบ ท่านไม่มีสิทธิ์ได้รับการบรรจุในวันที่ 7 ส.ค.30 เพราะท่านยอมรับว่าสด.9 หาย แต่ไปขอวันที่ 8 เม.ย.ปี 31

          นายอภิสิทธิ์ลุกขึ้นใช้สิทธิ์ชี้แจงกลับไปว่า ตนไม่เคยพูดว่าสมัครเข้าไป เพราะตนไม่มีสด.9 ท่านพูดเอง เอกสารที่เรียกร้องเพิ่มเติมคือหลักฐานการผ่อนผัน ตนเข้าใจว่าเป็นกระบวนการภายในเมื่อเขาตรวจผมแล้วเขาถึงบรรจุ ส่วนเรื่องบัญชีผ่อนผันมันเป็นคนละเรื่อง ส่วนการแทงบัญชีขาดนั้น ก็อาจเป็นไปได้ว่าในการแก้เอกสารอาจไม่ได้แก้

         นายจตุพร ยังได้ลุกขึ้นตอบโต้อีกครั้งว่า ขอถามย้ำอีกครั้งว่าเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ท่านสมัครเป็นอาจารย์รร.นายร้อยจปร. ท่านได้แสดง สด.9 หรือไม่ ถ้าท่านไม่แสดง เขารับท่านได้อย่างไร เพราะท่านหนีทหาร 7 เม.ย.30 แสดงว่าโรงเรียนนายร้อยจปร.ทำสด.9 ท่านหายใช่หรือไม่ แล้วการออกสด.9 ใบแทน แล้วลงวันผิด ทำไมท่านไม่ทักท้วง

          นายอภิสิทธิ์ชี้แจงอีกว่า วันที่ตนสมัคร เอกสารสด.9 มี และตรวจสอบได้ เพราะมีต้นขั้วอยู่ ส่วนการผ่อนผันก็มีตามหลักฐานที่เอามาให้ดู เวลาที่ออกใบแทน เขาก็เขียนใบแทนใบที่หาย และลงวันที่วันนั้น เขาจะไปออกลงวันที่ย้อนหลังให้ได้อย่างไร

 
หลักฐาน สด.9 (ปลอม ที่หมีหน้าฮ๊ากอ้างว่าหาย)

            อย่างไรก็ตาม นายจตุพรไม่ลดละ ยังได้ลุกขึ้นตั้งคำถามกลับไปอีกว่าที่ ท่านนายกฯอธิบายความก็คือใบแทน 8 เม.ย.31 ที่ท่านไปขอใบแทนถูกต้อง แต่ในการกรอกรายละเอียดเข้าบัญชีทหารกองเกินวันที่ มันต้องเป็น 4 ก.ค.29 แต่นี่ใส่วันที่ 8 เม.ย.31 จึงกลายเป็นเอกสารเท็จไป เพราะท่านไปขึ้นทะเบียนคือ 4 ก.ค.29 ที่ผมถามก็คือวันที่ 7 ส.ค.นั้นท่านได้แสดงใบนั้นหรือไม่ เพราะหนังสือ 8 เม.ย.31 นั้นถูกต้อง แต่วันที่ขึ้นทะเบียนไม่ถูก เพราะฉะนั้นการเป็นอาจารย์รร.นายร้อยของท่านจึงเป็นโมฆะแต่ต้น

           นายอภิสิทธิ์ลุกขึ้นชี้แจงอีกครั้ง โดยบอกว่าการออกใบแทนอันนี้ ไม่ได้มีผลหรือความหมายกับการรับราชการทหารเลย เพราะมันเกิดขึ้นหลังจากรับตนเข้ารับราชการมาแล้วครึ่งปี ส่วนเอกสาร 4 ก.ค.29 นั้นก็มีเรียบร้อยแล้ว และเขาใช้ใบนั้นในการรับตนเข้าไปแล้ว


แล้วมาดูวันนี้ครับ ความจริงปรากฏ

จตุุพร พรหมพันธุ์ อัดเต็ม ๆ ในรายการชูธง ไปดูความจริง ที่นี่ความจริง
ผมจำคำ พณฯ สมัีคร สุนทรเวช ได้ กับการตั้งชื่อรายการ ความจริงวันนี้
แล้ว คุณ วีระ เอามาเป็นชื่อรายการ โดย คุณ วีระ ขึ้น Title รายการด้วยเพลงที่มีข้อความว่า
สัจจังเว อมตา วาจา 
มาดู ชูธง (ความจริงวันนี้) โดยจตุพร พรหมพันธ์ 



สจฺ จํ เว อมตา วาจา คำสัตย์แลเป็นวาจาไม่ตาย
มาดูแมลงสาบดิ้นพลาด ๆ กัน






ศิริโชคแก้ต่างแทนมาร์ค หอบเอกสารตอกกลับโอ๋ 
สร้างกระแสช่วย'คางคก' ถูกบีบแถลง-ไร้หลักฐาน

            "อภิสิทธิ์"ส่ง"ศิริโชค"แถลงตอบโต้ โชว์เอกสารหลักฐานครบสมัครเข้าเป็นอาจารย์จปร. ยืนยันไม่ได้หนีทหาร พร้อมต่อสู้พิสูจน์ความจริง จ่อฟ้อง " สุกำพล" สร้างกระแสโดยไร้หลักฐาน ร่วมกระบวนการทางการเมือง เย้ยถูกบีบให้ออกมาแถลงช่วย "จตุพร"คดีหมิ่นกล่าวหาหนีทหาร

           วันที่ 19 ก.ค.2555 ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิทของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พาดพิงถึงนายอภิสิทธิ์ กรณีหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารว่า แสดงว่ามีกระบวนการทางการเมือง เนื่องจากมีการปล่อยข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง มา 2-3 วันแล้ว รวมถึงทนายความของนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่พยายามสร้างกระแสว่าวันนี้จะมีข่าวเด็ด แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ เพราะสุดท้ายแล้วพล.อ.อ.สุกำพลก็ไม่มีอะไรออกมาแถลง เพียงแค่ยืนยันหลักฐานเดิมตามปี 2542 ที่เคยมีการตรวจสอบมาก่อนหน้าแล้ว และท่าทีของพล.อ.อ.สุกำพล ก็เหมือนไม่ค่อยอยากจะแถลงข่าว และได้โยนให้กับผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยอ้างว่าเอกสารทั้งหมด ได้ส่งไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว ซึ่งทีมกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์กำลังดูอยู่ว่าจะดำเนินคดีกับพล.อ.อ.สุกำพลได้หรือไม่ โดยหากพบว่าเข้าข่ายนายอภิสิทธิ์ ก็จะฟ้องร้องด้วยตัวเอง

            “ผมสังเกตว่า ธรรมดาแล้วพล.อ.อ.สุกำพล ต้องนั่งแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ แต่วันนี้กลับไม่ยอมนั่งแถลงข่าว แต่ยืนแถลง แสดงให้เห็นว่าเหมือนมีคนมาบังคับให้แถลง ทั้งหมดทำไปเพื่อช่วยนายจตุพรอย่างเป็นกระบวนการในคดีที่ถูกนายอภิสิทธิ์ฟ้องหมิ่นประมาท เพราะมีการแถลงข่าวในช่วงที่กำลังมีการสืบพยาน และถ้าดูจากการสืบพยานฝ่ายนายจตุพร ก็ดูจะเพลี่ยงพล้ำ เนื่องจากจเรทหาร ได้ออกมายอมรับว่า ถ้านายอภิสิทธิ์ได้ยื่นสด.9 คือใบขึ้นทะเบียนทหารและหลักฐานการผ่อนผัน ว่าไปเรียนต่างประเทศ ก็ถือว่าได้เข้ารับราชการอย่างถูกต้อง ตรงนี้เป็นเหตุให้พล.อ.อ สุกำพล ต้องออกมาแถลงว่ามีการหนีทหาร” นายศิริโชค กล่าวพร้อม แสดงเอกสารหลักฐานใบสด. 9 และทะเบียนบัญชีรายชื่อนักเรียนการที่ออกไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยมีรายชื่อนายอภิสิทธิ์ อยู่ในลำดับที่ 3 และหนังสือสด.41 ซึ่งเป็นเอกสารที่นายอภิสิทธิ์ เคยนำมาชี้แจงในสภาผู้แทนราษฎร

           นายศิริโชค กล่าวอีกว่า ทั้งหมดเกิดมาจากเหตุการณ์ที่มีการตั้งกรรมการสอบเมื่อปี 2542 หลักฐาน 2 อย่างที่ต้องยื่นให้กับทางฝ่ายทหาร เพื่อที่จะสมัครเข้ารับราชการ และหนังสือสด.9 สด.41 มีเลขที่ถูกต้อง ซึ่งหมายความว่าเมื่อเอาหนังสือดังกล่าวเข้าไปสมัครเป็นทหาร ก็สามารถที่จะสมัครเข้าเป็นอาจารย์ในโรงเรียนนายร้อยจปร.ได้ ซึ่งหลักฐานต่าง ๆ มีครบถ้วนอยู่แล้ว เพียงแต่วันนี้พล.อ.อ.สุกำพลพยายามสร้างกระแส โดยไม่มีหลักฐานเพิ่มเติม ขอยืนยันว่านายอภิสิทธิ์ พร้อมที่จะพิสูจน์ในเรื่องนี้ มิเช่นนั้นคงไม่ฟ้องหมิ่นประมาทนายจตุพร

           เมื่อถามว่า มีการระบุว่า สด. 9 เป็นเอกสารปลอม นายศิริโชค กล่าวว่า เรื่องสด.9 เป็นเอกสารที่ผู้ชายไทยทุกคนเมื่ออายุครบ 17 ปี ก็ต้องได้รับอยู่แล้ว ส่วนจะหายหรือไม่หายไม่ได้เป็นผล เพียงแต่มีความพยายามสร้างกระแส เพราะตอนที่นายอภิสิทธิ์ ไปสมัครเป็นอาจารย์ก็ยื่นใบดังกล่าว แต่ตอนที่จะขอติดยศ ทางจปร.บอกหาใบสด.9 ไม่เจอ นายอภิสิทธิ์ จึงไปขอสด.9 ฉบับใหม่ที่เขตพระโขนงแทน ซึ่งก็ไม่ได้มีนัยยะอะไรที่สำคัญ

Thaiinsider New

ดูเอกสารของจริง  แล้วจะรู้ว่า แมลงสาบโดนไบก๊อนเขียวแล้วเป็นยังงัย

เอกสารคำสั่งลงโทษ สัสดี พต.ทองคำ เดชเร ดำเนินคดีอาญา กรณีนายอภิสิทธิ์
**************************************************








Image

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น