ASTV ลากไส้ BlueSky - TNews เอี่ยวประชาธิปัตย์
วันที่ 16
ตุลาคม 2555 go6TV ต่อเนื่องจากกรณีวิวาทะระหว่าง ASTV นำโดย สนธิ ลิ้มทองกุล และ Blue Sky Channel
รวมไปถึงลิ่วล้อเประชาธิปัตย์ตลอดสามวันที่ผ่านมา ที่ต่างขุดคุ้ยเบื้องหลังความเหลวแหลกหลอกลวงของแต่ละฝ่ายออกมาประจานกันและกัน
ล่าสุด นายประพันธ์
คูณมี นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
ร่วมกันแฉกำพืดนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ส่อทำผิดรัฐธรรมนูญ
ด้วยการปลอมตัวเป็นสื่อฯ และเป็นเจ้าของสื่อ แต่ปากกลับไม่ยอมรับ
เริ่มโบ้ยกันเองว่า
ปชป.ต่างหากที่ร่วมมือกับทักษิณ ชินวัตร ทำจนพรรคเพื่อไทยเติบโตถึงวันนี้
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2555 รายการตีแสกหน้า
ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 13.00-14.30น. โดยมี น.ส.กมลพร วรกุล เป็นผู้ดำเนินรายการ นายชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
นายประพันธ์ คูณมี และนายเทิดภูมิ ใจดี เป็นแขกรับเชิญ ในรายการดังกล่าว นายประพันธ์ คูณมี
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่นที่ 2 กล่าวตอนหนึ่งว่าผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์นั้นไม่เคยสำนึกถึงบุญคุณพรรคประชาธิปัตย์ “ตั้งแต่มีข่าวความขัดแย้งระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ
กับพรรคประชาธิปัตย์นั้นตนยังไม่เคยเห็นผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ออกมาแสดงท่าทีที่เป็นมิตร
หรือ แม้กระทั่งแสดงความขอบคุณในการต่อสู้ของประชาชนกลุ่มพันธมิตรฯ ที่เสียสละ
ต่อสู้ ล้มตายจนกระทั่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล”
“คนของพรรคประชาธิปัตย์
หรือสาวกประชาธิปัตย์มักจะบอกว่า พันธมิตรฯ ชอบผลักมิตร ผลักพรรคประชาธิปัตย์ไปเป็นศัตรู
ไปอยู่ฝั่งศัตรู คำถามก็คือว่า พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าพันธมิตรฯ
เป็นมิตรคุณจริงหรือเปล่า หรือคุณคิดว่าพันธมิตรฯ เป็นเพียงเครื่องมือ
หรือคุณอยากได้คะแนนเสียงจากพันธมิตรฯ ไปเลือกตั้ง ...
และอยากอาศัยการต่อสู้ของพันธมิตรฯ เป็นเครื่องมือนำทางคุณขึ้นไปสู่ตำแหน่งรัฐบาล”
นายประพันธ์ระบุ
ในกรณีความช่วยเหลือ
ASTV
นั้น นายประพันธ์กล่าวว่า “พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่เคยช่วยสนับสนุนสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี
ที่เป็นปากเสียงของประชาชนตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเลย คุณนอกจากไม่ช่วยพันธมิตรฯ
แล้วยังเนรคุณอีก พรรคประชาธิปัตย์เลือกที่จะยืน เอาตัวรอด
ฉวยโอกาส แล้วเหยียบย่ำกลุ่มพันธมิตรฯ และกล่าวหาว่าไม่ช่วยตัวเอง สาดโคลน
ใส่ร้ายแกนนำพันธมิตรฯ ว่ารับเงิน อย่างนั้นอย่างนี้
ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นพฤติกรรมที่น่าขยะแขยง”
“ตอนคุณเป็นรัฐบาล
ทำไมคุณไม่ตามหาชายชุดดำ คุณต้องลากคอมันเข้าคุกแล้ว ตอนนี้กลับมาจัดแรลลีทำไม
มันกลายเป็นเรื่องที่น่าตลก น่าสมเพช เล่นละครว่าคุณสู้กับทักษิณแบบเอาเป็นเอาตาย
แต่คุณไม่ได้สู้จริง” แกนนำพันธมิตรฯ รุ่น 2 กล่าวต่อ และว่าทางที่ดีหากอยากได้พันธมิตรฯ กลับมาเป็นมิตร คนประชาธิปัตย์ต้องทบทวนตัวเอง
และพิจารณาตัวเอง
ส่วนกรณีด้านสถานนีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกายนั้น นายประพันธ์กล่าวว่า “แล้วคุณช่วยตอบคำถามหน่อยซิว่า
พรรคของคุณเคยได้รับบริจาคจากบริษัทคิงเพาเวอร์ไหม? แล้วบริษัทคิงเพาเวอร์มีพฤติกรรมในการปฏิบัติหรือประกอบธุรกิจในสนามบินสุวรรณภูมิมีรายได้มาแบบไหน?
เลขาฯพรรคของคุณ
คุณสุเทพเคยห้ามปรามไม่ให้พูดบริษัทคิงเพาเวอร์ไหม?”
นายประพันธ์ตั้งคำถามต่อ และว่าแล้วเงินสนับสนุนพรรคและสนับสนุนสื่อในเครือข่ายของพรรคประชาธิปัตย์มีจำนวนมากเท่าไหร่
ช่วยให้คำตอบหน่อย
พร้อมกล่าวต่อว่า คนของพรรคประชาธิปัตย์หรือผู้ประกอบการโทรทัศน์ในเครือข่ายประชาธิปัตย์อีก
2-3 ช่องนั้นทางที่ดีต้องชี้แจงบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้ชัดเจน
เหมือนกับที่เอเอสทีวีชี้แจงให้กับประชาชนรับทราบ
ดีกว่ามาแว้งกัดสื่ออย่างเอเอสทีวี
จากนั้น
น.ส.กมลพรได้กล่าวอ้างอิงรายงานของ นสพ.คมชัดลึก
ถึงผู้ถือหุ้นในสถานีโทรทัศน์ช่องบลูสกาย โดยระบุว่า บริษัท
บลูสกาย แชนแนล จำกัด ซึ่งทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท
ในวันที่จดทะเบียนมีกรรมการ 4 คน คนแรกคือ นายวิทเยนทร์ซึ่งไม่เคยประกอบวิชาชีพสื่อมาก่อน
แต่เพิ่งมาทำโทรทัศน์ในปี 2554 หลังจากเคยเป็นผู้สมัคร
ส.ส.บางเขน พรรคประชาธิปัตย์ และเลขาฯ ของรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมตรีนายสาทิตย์
ส่วนกรรมการคนที่สองคือ นายเถกิง สมทรัพย์
ซึ่งเป็นสื่อที่มีความใกล้ชิดกับพรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน เคยเป็นทีมงานรายการ
"เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์" และปัจจุบันเป็น ผอ.ช่องบลูสกาย
ส่วนกรรมการคนที่สามคือ นายบุรฤทธิ์
ศิริวิชัย อดีตยุวประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยมีตำแหน่งในสำนักนายกฯ
ในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ และกรรมการคนสุดท้ายคือ นายภูษิต
ถ้ำจันทร์ หนึ่งทีมงานรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯ อภิสิทธิ์
เช่นเดียวกับนายเถกิง และนายวิทเยนทร์
นอกจากนี้ผู้ถือหุ้นของบลูสกายแชนแนลนั้น มี บริษัท เทเลคาสท์ มีเดีย จำกัด
มาร่วมถือหุ้นด้วยตั้งแต่ต้น โดยถือหุ้นใหญ่ โดย บริษัท
เทเลคาสท์ มีเดีย จำกัด นั้น จดทะเบียนเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2554 ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท โดยมีนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
ทั้งนี้จากข้อมูลของคมชัดลึก ระบุว่านายทวีศักดิ์นั้น
เป็นนักกฎหมายที่มีความใกล้ชิดกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โดยนายทวีศักดิ์จะเป็นผู้ดูแลด้านกฎหมายให้นายสุเทพ
นอกจากนี้นายทวีศักดิ์ยังไปร่วมแถลงข่าวกับนายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชายนายสุเทพ
กรณีรุกที่เขาแพง ที่เกาะสมุย ในฐานะที่ปรึกษาทางกฎหมายของนายแทนด้วย
มากกว่านั้นลงทุนในบลูสกายแชนแนล
3 ล้านบาทแล้ว บริษัท
เทเลคาสท์ มีเดีย จำกัด ยังลงทุนในสำนักข่าวทีนิวส์ จำกัด ผู้ผลิตข่าวช่องทีนิวส์
อีก 11 ล้านบาท
อ่านฉบับเต็มได้จากที่นี่
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น