วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

นกรู้! "ครรชิต" หมอรามาฯหนีม็อบหมามุ่ย ร่อนหนังสือยอมรับมีมือที่3ผสมโรง


นกรู้! "ครรชิต" หมอรามาฯหนีม็อบหมามุ่ย ร่อนหนังสือยอมรับมีมือที่3ผสมโรง

             24 ตุลาคม 2556 go6TV - นพ.ครรชิต ลิขิตธนสมบัติ แพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่ประกาศจะระดมมวลชน ต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม ในวันเสาร์ที่ 26 ต.ค.2556 เวลา 16.30น.ได้ส่งหนังสือชี้แจงมายังสื่อมวลชน ขอยกเลิกการเดินทางชุมนุมต่อต้านร่างพรบ.นิรโทษกรรม โดยระบุว่า

         "แรกเริ่มเดิมทีพวกเราชักชวนกันเฉพาะเพื่อนๆไม่กี่คนเรื่องไม่เห็นด้วยกับนิรโทษกรรมแบบสุดซอย แต่มีคนไปโพสต์ในสื่อ online. แล้วตั้งผมเป็นแกนนำ ปรากฎว่าข่าวไปเร็วมากจนมีข่าวว่าคนจะมาร่วมจำนวนมาก ผมก็ตกใจ พอมีคนมาเตือนเรื่องมือที่สาม ผมเลยต้องยกเลิก จริงไม่จริงไม่ทราบ แต่ผมเป็นหมอมีหน้าที่ทำให้คนหายจากความเจ็บป่วย แต่ถ้ามีคนมาแล้วได้รับบาดเจ็บแม้แต่คนเดียวเพราะมีชื่อผมเป็นคนนำ ผมจะรู้สึกเสียใจไปตลอดชีวิตครับ เลยขอยุติการนัดหมาย"


            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เว็บไซท์ของ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความอ้างอิงหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ บิดเบือนข่าวว่า "หมอรามาฯฮือสมทบอุรุพงษ์" จนเป็นเหตุที่ นพ.ครรชิต แจ้งความไว้ที่ สน.บางพลัด เนื่องจากทำให้เสียชื่อเสียง ทั้งต่อตนเองและหน่วยงาน

ชิ่งหนีสุดฤทธิ์! "ครรชิต" หมอรามาฯ ปัดเอี่ยวม็อบหมามุ่ย



            24 ตุลาคม 2556 go6TV - พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวถึงกรณีมีภาพปรากฏทางโชเชียลมีเดีย กรณีปรากฏภาพ น.พ.ครรชิต ลิขิตธนสมบัติ หมอโรคหัวใจ ร.พ.รามาธิบดี จะระดมมวลชน ต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม ในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556 เวลา 16:30 น. เพื่อไปสมทบกับกลุ่มผู้ชุมที่แยกอุรุพงษ์ ว่า ล่าสุด น.พ.ครรชิต ได้ปฏิเสธว่า "ข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง และตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง" พร้อมได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สน.บางพลัด เนื่องจากทำให้เสียชื่อเสียง ทั้งต่อตนเองและหน่วยงาน ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง และไม่ได้มีการนำมวลชนเข้าร่วมการชุมนุม แต่เป็นการนำชื่อไปแอบอ้างเท่านั้น

           ทั้งนี้ โฆษก ศอ.รส. ได้เตือนไปยังประชาชน ก่อนที่จะโพสต์ หรือแชร์ข้อความต่อ ควรตรวจสอบข้อมูลที่แท้จริง เพราะจะเสี่ยงต่อการกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เรื่องการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น