ภาพเปิดศูนย์ปราบโกง บ้านโป่ง
หนึ่งในผู้แจ้งข้อกล่าวหาระบุ แค่ติดป้ายแล้วกินข้าว ไม่มีกิจกรรมใด ชาวบ้านที่โดนหมายกลัว ติดต่อไม่ได้หลายราย ยังไม่มีใครมีทนาย ไม่รู้จะทำอย่างไร ลั่นหากสอดส่องคนโกงไม่ได้ไม่รู้จะไปลงประชามติทำไม เพราะไม่มั่นใจเรื่องการโกง
20 มิ.ย. 2559 จากกรณีที่วานนี้ (19 มิ.ย.59) เป็นวันที่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ประกาศตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติทั่วประเทศ ซึ่งในส่วนกลางที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าวนั้นถูกเจ้าหน้าที่อ้างคำสั่ง หัวหน้า คสช. เพื่อปิดศูนย์ดังกล่าว (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม) ส่วนในหลายจังหวัดมีทั้งที่เปิดได้และเปิดไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดหนึ่งที่สามารถเปิดศูนย์ดังกล่าวได้ คือที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี อย่างไรก็ตามวันนี้ (20 มิ.ย.59) ผู้ที่ร่วมเปิดศูนย์ปราบโกงประชามติที่บ้านโป่งกลับได้รับหมายเรียกจาก สภ.บ้านโป่ง เนื่องจากมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านโป่ง ดำเนินคดีผู้เปิดศูนย์ปราบโกงฯ ดังกล่าว ในข้อหาร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองในที่เกิดเหตุเกิน 5 คนขึ้นไป ด้วยการขึ้นแสดงป้ายศูนย์ปราบโกงประชามติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้า คสช. หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
บริบูรณ์ เกียงวรางกูล หนึ่งในผู้ถูกแจ้งข้อหา กล่าวว่า ก่อนเปิดศูนย์ปราบโกงฯ ได้มีเจ้าหน้าที่โทรมาขอร้องตนล่วงหน้า 1 วันเพื่อขอไม่ให้เปิด วานนี้จึงได้นัดผู้ร่วมเปิดศูนย์เพื่อมาขึ้นป้ายว่าไม่ล้ม ไม่โกง ไม่อายพม่า แล้วจากนั้นก็มีการกินข้าวร่วมกันเท่านั้น ใช้เวลาไม่นาน และหลังจากเปิดไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทหารตำรวจก็เข้ามาที่ดังกล่าว
สำหรับเป้าหมายของการเปิดศูนย์ปราบโกงฯ นั้น บริบูรณ์ กล่าวว่า ต้องการเรียกร้องให้ประชาชนไปลงประชามติให้มากที่สุด หากคนมาแสดงประชามติมากที่สุดก็สามารถพูดได้เต็มปากว่าเสียงของประชาชนเขาต้องการแบบนี้ และอีกข้อหนึ่งคือเกรงว่าจะเกิดการโกงขึ้น จึงคอยตรวจสอบจับตา เพื่อไม่ให้เสียงที่ลงไปแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยกระบวนการเป็นการสังเกตการณ์เหมือนกับที่ทำกับการเลือกตั้งทั่วไป ไม่มีการชี้นำแต่อย่างใด
บริบูรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังปรึกษาหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยชุดแรกที่ถูกหมายเรียกมี 10 คน คาดว่าเขาอารูปหมู่ที่ถ่ายมาดูว่าใครเป็นใครแล้วออกหมายเรียก ขณะนี้ตนยังไม่มีทนายความ และยังไม่รู้ว่าข้อหาแบบนี้จะต้องประกันตัวหรือไม่ ไม่ทราบด้วยว่าหากต้องประกันตัวต้องใช้เงินเท่าไร และชาวบ้านแต่ละคนที่โดนเรียกบางคนก็มีเงิน บางคนก็ไม่มี
"ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าสังคมไม่เป็นธรรมกับคน คนที่เหมือนคนกันทุกคน สังคมไม่มีความเป็นธรรมให้กับคนที่เหมือนคน ฉะนั้นพอเจอรูปนี้ ถึงเวลาเราอาจจะต้องบอยคอตนะ ผมคิดอยู่ว่าถ้าเกิดมันถึงขั้นที่สุดแล้ว เกิดมันทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้เราอาจจะต้องบอยคอต ลงประชามติเราเลือกไป เราก็โดนโกง เพราะเขาไม่ให้เราส่องหาคนโกง ถ้าเราไปลงแล้วเราถูกโกงเราจะไปลงเพื่ออะไร แต่ต้องดูพี่น้องเราก่อนที่โดนกัน เพราะตอนนี้ทุกคนกลัวหมด บางคนโดนแล้วปิดบ้านหนีหายไป ติดต่อไม่ได้" บริบูรณ์ กล่าวและเพิ่มเติมว่า 10 คนแรกที่โดนหมายเรียก หายหน้าไป 4-5 คนแล้ว วันนี้โทรหาก็ไม่มีใครรับโทรศัพท์ ทั้งเฟซบุ๊กและไลน์ก็บล็อคหมดเลย เหมือนพวกเขากังวลและกลัวมาก เนื่องจากเขาเป็นเพียงชาวบ้านต่างจังหวัดธรรมดา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น