กกต. มีมติเอกฉันท์ เห็นพ้องร่างกฎหมายลูกพรรคการเมือง ไม่มีเนื้อหาขัดรัฐธรรมนูญ ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณี 90 สนช. ถือครองหุ้น ขัดรัฐธรรมนูญ
4 ก.ค. 2560 สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.มีมติตามที่สำนักกฎหมายของสำนักงาน กกต. เสนอให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณี เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ตรวจสอบการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 186 ประกอบมาตรา 187 และมาตรา 170(5) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการถือครองหุ้นของสมาชิกสภานิติบัญญัติแแห่งชาติ (สนช.) 90 คน ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 264 วรรคสอง โดยประธาน กกต.จะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันนับจากนี้ และคณะอนุกรรมการไต่สวนมีเวลาดำเนินการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ก่อนเสนอความเห็นต่อ กกต. โดยหากเห็นว่าไม่มีมูล ก็จะเสนอ กกต.ยกคำร้อง แต่หากเห็นว่ามีมูล ก็จะเสนอให้ กกต.มีความเห็นเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
สมชัย ยังกล่าวดว้ยว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเอกฉันท์ เห็นตามที่สำนักงาน กกต.เสนอว่าร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองไม่มีเนื้อหาขัดหรือแย้งต่อเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ และเมื่อรัฐธรรมนูญมาตรา 267 วรรค 5 กำหนดว่า หากมีความเห็นแย้งก็ให้ส่งความเห็นกลับไปยัง สนช.ภายใน 10 วัน แต่เมื่อขณะนี้ กกต.ไม่มีความเห็นแย้ง ดังนั้นก็จะไม่มีหนังสือแจ้งกลับไป อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการปฏิบัติตามร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ยอมรับว่าอาจจะมีปัญหา ซึ่งที่ประชุม กกต.ก็ให้แนวปฏิบัติกับทางสำนักงานฯ ว่าหากร่าง พ.ร.ป.ฉบับนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว กกต.ต้องแถลงชี้แจงให้กับพรรคการเมืองทั้งใหม่และเก่าให้ทราบว่าจะต้องทำอะไรบ้าง เช่น 6 เดือนแรกหลังประกาศใช้ พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จะต้องหาสมาชิกใน 4 ภาคให้ได้ 5,000 คน และต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เป็นต้น โดยพรรคการเมืองก็ต้องศึกษากฎหมายให้เข้าใจว่ามีเนื้อหาสาระอย่างไร
“มติ กกต.วันนี้เป็นมติเอกฉันท์ 4 เสียง เนื่องจากประธาน กกต.ติดไปร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย พิจารณา พ.ร.ป.กกต. แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะมติ กกต.วันนี้ก็สอดคล้องกับความเห็นของคณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. และความเห็นของสำนักงานฯ โดยการปฏิบัติตามร่าง พ.ร.ป.พรรคการเมืองเป็นรายละเอียดใหม่ที่อาจจจะยุ่งยากต่อการปฏิบัติในระยะแรก ๆ แต่กระบวนการต่าง ๆ มุ่งหวังที่จะทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง มีความเป็นสถาบัน ซึ่ง กกต.จะพยายามช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติให้กับพรรคการเมืองมากที่สุด” สมชัย กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น