วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ผบก.น.6 เบิกความกลางศาล! เสื้อแดงโดนเจ้าหน้าที่รัฐยิงตาย ไม่มีชายชุดดำ


ผบก.น.6 เบิกความกลางศาล! เสื้อแดงโดนเจ้าหน้าที่รัฐยิงตาย ไม่มีชายชุดดำ






ที่ห้องพิจารณา 501 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง63 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคำร้องการเสียชีวิตนัดแรกที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิตของนายชาติชาญ ชาเหลา อายุ 25 ปี ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าอาคารอื้อจื่อเหลียง ในช่วงที่มีการสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 13 พ.ค.53 ในสมัยรัฐบาลนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

ในวันนี้พนักงานอัยการเตรียมพยานเข้าเบิกความจำนวน 2 ปาก ประกอบด้วย พ.ต.อ. สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 นางพลอย ขบวนฮาม มารดาของนายชาติชาย

พ.ต.อ. สืบศักดิ์ เบิกความปากแรกสรุปว่า ตนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน ชุดที่ 3 โดยเมื่อวันที่ 19 ก.ย.54 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งสำนวนมาให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลสอบสวน (บช.น.) สอบสวนต่อ เนื่องจากเชื่อว่าการเสียชีวิตของนายชาติชายเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งตนได้ทำหนังสือยื่นต่อสำนักงานอัยการสูงสุดขอให้ส่งพนักงานอัยการร่วมสืบสวนด้วย โดยการสอบสวนในชุดของตนพบว่า คดีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. -19 พ.ค.53 โดยกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) เริ่มชุมนุมที่ถนนราชดำเนิน เพื่อขอให้รัฐบาลยุบสภา แต่รัฐบาลไม่ยอมทำตาม กลุ่มผู้ชุมนุมจึงขยายการชุมนุมไปหลายพื้นที่รวมถึงแยกราชประสงค์ ซึ่งมีผู้มาร่วมชุมนุมจำนวนมาก นายอภิสิทธิ์จึงได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตกรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง จากนั้นได้ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐเป็นพนักงานปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพื่อระงับสถานการณ์รุนแรง รวมทั้งได้ประกาศห้ามชุมนุมเกิน 5 คน ห้ามเข้าไปในพื้นที่การชุมนุม ห้ามเดินรถโดยสารบางพื้นที่ ห้ามให้บริการรถไฟฟ้าบางสถานี และตัดสาธารณูปโภค

พ.ต.อ. สืบศักดิ์ เบิกความต่อว่า ในวันเกิดเหตุวันที่ 13 พ.ค.53 ศูนย์ ศอฉ.มีคำสั่งมอบหมายให้กำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตั้งด่านแข็งแรงที่บริเวณสะพานลอยหน้าอาคารอื้อจื่อเหลียง มีอาวุธปืนเอ็ม 16 เอ็ม 653 เอชเค ปืนลูกซองกระสุนยาง กระสุนซ้อมรบ และกระสุนจริงประจำกาย ซึ่งแนวกั้นด่านนอกจากทหารแล้วผู้อื่นไม่สามารถเข้าไปในบริเวณนั้นได้ ขณะที่ผู้ชุมนุมจำนวนมากจากแยกถนนวิทยุมุ่งหน้าตรงเข้าหาด่านของทหาร โดยผู้ชุมนุมใช้พลุและตะไลยิงเข้าใส่ด่าน เจ้าหน้าที่ทหารจึงใช้ปืนยิงตอบโต้กลุ่มผู้ชุมนุม กระทั่งเวลาประมาณ 22.50 น. ขณะที่นายชาติชายซึ่งมาร่วมชุมนุมและถือกล้องวีดีโอยืนถ่ายภาพเหตุการณ์อยู่หน้าบริษัทปริศนา มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ใกล้อาคารอื้อจื่อเหลียง ได้ถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่หน้าผากด้านขวาทะลุศรีษะ 1 นัด เสียชีวิตที่ รพ.จุฬา

ภายหลังการเสียชีวิตพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน พร้อมด้วยแพทย์นิติเวช พนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รวมทั้งสิ้น 10 ฝ่ายร่วมชันสูตรพลิกศพผลปรากฏว่า นายชาติชายถูกกระสุนความเร็วสูงยิงเข้าที่ศรีษะทำลายอวัยวะสำคัญจนเสียชีวิต เมื่อตรวจสอบพยานหลักฐานจากที่เกิดเหตุพบเศษชิ้นเนื้อ เส้นผม คราบเลือดของผู้ตาย และเศษหัวกระสุนตกที่พื้นใกล้จุดที่นายชาติชาย ผู้ตายล้มลง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธปืนตรวจพิสูจน์พบเพียงแค่รอยแนววิถีกระสุนที่นายชาติชายถูกยิง และยืนยันว่าเป็นกระสุนความเร็วสูง แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นกระสุนชนิดใด เนื่องจากเศษกระสุนเสียสภาพมาก อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมพยานเอกสารหลักฐาน ประจักษ์พยานแล้วไม่พบชายชุดดำปะปนกับผู้ร่วมชุมนุม จึงเชื่อว่านายชาติชายเสียชีวิตเนื่องจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น