วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554


‘เทพ’งานเข้า!

       ฉุก(ละหุก)คิด
         จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
         ปีที่ 12 ฉบับที่ 3132 ประจำวัน พฤหัสบดี ที่ 1 กันยายน 2011
         โดย นายหัวดี
                         การปลุกระดม “ลัทธิคลั่งชาติ” ของ “ไพร่มีเส้น” ไม่ใช่แค่เรื่องพรมแดนและปราสาทพระวิหารเท่านั้น แต่ที่ผ่านมายังมีเรื่องการเจรจาผลประโยชน์ทางทะเลระหว่าง “ขะแมร์” กับ “สารขัณฑ์” มาโจมตี “โดเรแม้ว” อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

                 แม้แต่ “เจ๊ปู” ที่กำลังจะเริ่มศักราชใหม่ในฐานะมิตรกับ “ขะแมร์” อีกครั้งก็ถูกทั้ง “ไพร่มีเส้น” และ “ก๊วนสะตอ” จุดเรื่องผลประโยชน์ทางทะเล

                 วันนี้ “จำเลย” กลับไม่ใช่ “โดเรแม้ว” และ “เจ๊ปู” แต่เป็น “เทพอมสาก” ที่ “งานเข้า” เต็มๆ เพราะ “องค์การปิโตรเลียมขะแมร์” เล่นออกแถลงการณ์แฉจะจะว่า “ไอโม่ง” ที่ “ดอด” เจรจาลับกับ “บิ๊กซก” ของขะแมร์หลายครั้ง ทั้งที่ฮ่องกงและคุนหมิง เพื่อเคลียร์ “ขุมทรัพย์ดำ” หรือผลประโยชน์ทับซ้อนในทะเลให้จบในยุค “ดีแต่พูด” คือ “เทพอมสาก” กับ “บิ๊กป้อม”

                  แต่ “ขะแมร์” ไม่เล่นด้วย เพราะข้องใจว่าทำไมต้องทำแบบลับๆล่อๆ ตรงข้ามกับครั้ง “โดเรแม้ว” ที่เจรจาอย่างเปิดเผย แต่ “ขะแมร์” ก็พร้อมจะถกกับ “เจ๊ปู” “เสี่ยสุนัย” จึงฉวยโอกาสตั้ง 5 คำถามว่า

                 1.ทำไมจึงต้องลับๆล่อๆ
                 2.ทำไม “หล่อหลักลอย” จึงให้ “เทพอมสาก” เป็นหัวแถวเจรจา
                 3.ทำไม “บิ๊กป้อม” เกี่ยวข้อง
                 4.ฉีกเอ็มโอยูเพราะโต๊ะเจรจาลับล่มใช่หรือไม่ และ
                5.ใครใส่ร้ายใคร?

               เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ “ขุมทรัพย์ดำ” มหาศาล ซึ่งครั้ง “โดเรแม้ว” ได้ทำบันทึกและเจรจาเรื่อง “ขุมทรัพย์ดำ” เพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทเรื่องเส้นไหล่ทวีปที่ต่างถือเป็นอำนาจอธิปไตยที่ทับซ้อนกันอยู่ โดยเจรจาให้เป็นการแบ่งปันผลประโยชน์ “ขุมทรัพย์ดำ” จนเกือบจะได้ข้อยุติแล้ว แต่ “โดเรแม้ว” ถูกพิษ “อีแอบ” ก่อน

              จึงต้องถามกลับไปที่ “ไพร่มีเส้น” ที่เป็นตัวชูโรงถล่มเรื่อง “ขุมทรัพย์ดำ” มาขับไล่ “โดเรแม้ว” วันนี้ทำไมจึง “เอามือซุกหีบ” หรือ “ตาบอด-หูหนวก-เป็นใบ้”

              หรือกลัวจะถูก “ฉีกหน้า” เพราะรู้เรื่องมุดใต้โต๊ะเจรจาลับนี้มาตลอด!

              ที่สำคัญครั้งนั้น “บิ๊กทัพเรือ” เคยท้วงติงการฉีกบันทึกนี้ว่าทำให้สารขัณฑ์เสียผลประโยชน์ที่ควรจะได้ไปมากมาย ทั้งที่อุตส่าห์เจรจามาถึง 2 ปี จน “บิ๊กฮุน” ยอมขยับเส้นไหล่ทวีปที่เคยลากผ่าน “เกาะกูด” ลงไปทางด้านใต้ ซึ่งทำให้พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนเล็กลง
สรุปชัดๆคือฝ่ายทำให้สารขัณฑ์เสียดินแดนและสิทธิผลประโยชน์คือ “ไพร่มีเส้น” และ “หล่อหลักลอย” แต่กลับโกหกตอแหลและตะแบงปกปิดความผิดของตัวเอง นอกจากนี้ยังยัดเยียด “ขายชาติ-ขายแผ่นดิน” ให้ “โดเรแม้ว”

นี่คือหน้า “เน่าๆ” ของขบวนการ “อีแอบ” ที่ “เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ผู้อื่น”!

**************************************

http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น