วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554


การพูดคุยด้วยเหตุผลจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่มั่นคงและถาวร
          ในขณะนี้เราเดินทางเข้าสู่อาทิตย์ที่สาม นับตั้งแต่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามแนวทางประชาธิปไตยเข้ามาบริหารประเทศไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาแรกในรอบสามปีที่เรามีประชาธิปไตยอย่างแท้จริงนับตั้งแต่รัฐประหารปี พ.ศ.2549
         แม้ว่าจะมีการแสดงความกังวลจากกลุ่มบุคคลที่ร้อนใจอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง แต่เราต้องตื่นจากมายาคติและรับรู้ว่า นี่คือช่วงเวลาที่สำคัญอย่างลกซึ้งสำหรับประเทศ ประชาชนชาวไทยได้ตัดสินอย่างชัดเจนในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 3 กรกฎาคม แล้วว่าพวกเขาต้องการรัฐบาลพรรคเพื่อไทยและต้องการให้ยิ่งลักษณ์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
          เมื่อเราลองมองกลับไปเมื่อปีที่แล้ว แกนนำเสื้อแดง ( ซึ่งตอนนี้หลายคนได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร) ถูกจองจำ คนเสื้อแดงยังคงนั่งนับศพของคนรักของตนเอง และภายใต้การปกครองของกลุ่มอันธพาลพรรคพวกนายอภิสิทธิ์ มีเรื่องราวการทรมานและการข่มขู่ปรากฏให้เห็นตามสื่อเกือบทุกวัน ความหวังของกลุ่มคนที่ปรารถนาจะเห็นประชาธิปไตยและความรับผิดต่อการกระทำผิดในประเทศไทยดูเหมือนจะพังทลาย
         แกนนำเสื้อแดงถูกตีตราว่าเป็น “ผู้ก่อการร้าย” นายทหารที่ให้ความร่วมมือในเหตุการณ์สังหารหมู่ได้รับการชื่นชมดุจวีรบุรุษ ทหารผู้น้อยและคนรากหญ้าเสื้อแดงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว
        ระยะทางที่เราเดินทางมานับตั้งแต่คืนวันอันความมืดมิดในปี พ.ศ. 2553 นั้นมหาศาล และยังเป็นหลักฐานแห่งความอดทนอันน่าอัศจรรย์ ความกล้าหาญ และจิตวิญญาณที่ไม่สามารถถูกทำลายได้ของประชาชนชาวไทย แม้จะเผชิญกับการยั่วยุและความรุนแรงที่ยากจะทานทน ประชาชนชาวไทยยังคงรักษาศรัทธาที่มีต่อประชาธิปไตย และเดินทางไปลงคะแนนเสียงสิบล้านคะแนนเสียงให้กับยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทย
         การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงและถาวรจะใช้ความพยายามอย่างมหาศาลเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องไม่ง่ายและยังต้องใช้ความอดทน
         ผมเชื่ออย่างหนักแน่นว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันจะสามารถเริ่มเปลี่ยนแปลงที่จำเป็นต้องทำในประเทศไทย แต่นั้นจะไม่เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน รัฐบาลต้องการระยะเวลาที่จะทำให้ความเปลี่ยนแปลงนั้นบรรลุผลเช่นกัน
         ในขณะที่กลุ่มบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างเต็มที่ไม่ควรจะถูกเพิกเฉยหรือมองข้าม แต่พวกเขาจำเป็นที่ต้องรับรู้ว่าไม่ว่าสิ่งพวกเขาเรียกร้องจะสมเหตุสมผลเยงใด แต่การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างจะต้องค่อยเป็นค่อยไป ยังคงมีกระบวนการทางรัฐสภาและประชาธิปไตยที่เราจะเข้าร่วม และรัฐบาลใหม่จำเป็นต้องใช้เวลาเพื่อหาหนทางที่จะเพิ่มประสบการณ์ในการใช้อำนาจและเริ่มเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
        ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ เป็นสิ่งจำเป็นที่คนเสื้อแดง ผู้สนับสนุนและกลุ่มคนผู้รักประชาธิปไตยทุกคนในประเทศไทยจะเข้าร่วมและถกเถียงอภิปรายอย่างสุขุมรอบคอบ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนให้เกิดบรรยากาศดังกล่าวและหวังว่ากลุ่มคนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างยิ่งยวดจะให้ความร่วมมือกับผม
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น