วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2554


อภิสิทธิ์ยังไม่ได้รับบทเรียนจากการพ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างราบคาบ

          เป็นเวลาเกือบ 7 อาทิตย์นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีมาร์ค อภิสิทธิ์ และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างราบคาบ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขายังไม่ได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นี้
          แม้จะมีการพูดคุยถึงเรื่องการปรองดองและความสำคัญของการเสริมสร้างเสถียรภาพในช่วงเวลาของภาวะทางการเมืองอันเปราะบาง พรรคประชาธิปัตย์แสดงความสนใจเพียงน้อยนิดที่จะทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ในการช่วยผลักดันนโยบายเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และยังกับใช้กลยุทธ์แบบเก่าๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกปลดเปลื้องความน่าเชื่อถือออกไปอย่างสิ้นเชิงในการลงคะแนนเสียงของประชาชนก็ตาม อภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ยังคงยุ่งอยู่กับการหาทางร้องเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนใหม่ โดยการใช้ข้อกฎหมายที่คลุมเครือ และโดยทั่วไปพวกยังแสดงบทบาททำหน้าที่สกัดกั้น (รัฐบาล)  แทนที่พวกเขาจะพัฒนานโยบายทางการเมืองและประพฤติตัวเป็นฝ่ายค้านที่ดีตามระบบรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ แต่จินตนาการอันจำกัดของพวกเขา ทำให้การหมกมุ่นอยู่กับเรื่องทักษิณอย่างแปลกประหลาดดำเนินต่อไป และแทนที่จะยอมรับเจตจำนงที่ชัดแจ้งของประชาชนชาวไทยอย่างสง่างามและเอาชนะมติมหาชนอย่างแท้จริงผ่านทางแนวความคดที่ดีและการปฏิบัติงานที่สำเร็จ พวกเขากลับพยายามทำลายประชาธิปไตยอีกครั้งโดยการใช้ระบบตุลาการและยังเข้าไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มเคลื่อนไหวขนาดเล็กแต่หัวรุนแรง
          สิ่งที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ล้มเหลวที่จะเข้าใจคือ การเดินตามแนวทางนี้ สิ่งเดียวที่พวกเขาจะได้รับอย่างแน่นอนคือ การรับประกันว่าพวกเขาจะถูกลืมเลือนในการเลือกตั้งอย่างถาวร ประชาชนไทยไม่ต้องการรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ และไม่ต้องการพวกเขามามากกว่า 20 ปีแล้ว
            สิ่งที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ล้มเหลวที่จะเข้าใจคือ ไม่มีบุคคลใดในประชาชาคมโลกถือเอาการดำเนินคดีจอมปลอมที่มีแรงจูงใจทางการเมืองต่อทักษิณของพวกเขาเป็นเรื่องจริงจัง แรงสนับสนุนเพียงน้อยนิดในเรื่องนี้ มาจากกลุ่มนักข่าวต่างชาติกลุ่มเล็กที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น กลุ่มคนที่พูดเรื่องเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า การที่รัฐบาลทักษิณซึ่งถูกเลือกมาตามแนวทางประชาธิปไตยถูกถอกถอนออกจากอำนาจโดยรัฐประหารเถื่อน เพราะกลุ่มอำมาตย์ไทยเชื่อว่าเขาทั้งโกงกินและเป็นภัยต่อประชาธิปไตย เหมือนที่นักข่าวต่างชาติหลายรายเจตนาที่จะพูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างไม่สิ้นสุดนั้นจริงหรือไม่?
นายเฟอร์เกิล คีน นักข่าวที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงและเป็นบุคคลที่วิพากษ์วิจารณ์ทักษิณได้ระบุอย่างชัดเจนในสารคดีบีบีซีล่าสุด เรื่อง ประเทศไทย: ความยุติธรรมอยู่ในภาวะอันตราย ถึงเหตุผลที่กลุ่มอำมาตย์ไทยใช้กำลังถอดถอนอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทยออกจากอำนาจ โดยนายคีนกล่าวว่า
         “[ทักษิณ] ได้สร้างการเคลื่อนไหวทางการเมืองมหาชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศนี้เคยมีมา… อำนาจ [ของเขา]เป็นสิ่งที่ท้าทายกลุ่มอำมาตย์ซึ่งครอบงำวิถีชีวิตคนไทยมาอย่างยาวนานโดยตรง”
          คำแนะนำของผมต่อมาร์ค อภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์คือ มีหลายในประชาคมโลกตอนนี้ที่มองว่า คุณมีความรับชอบโดยตรงต่อการสังหารหมู่คนเสื้อแดงอย่างน่าสยดสยองที่เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้วในกรุงเทพมหานคร คนที่จะต้องกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีอย่างแท้จริงต่อการกระทำอาชญากรรมควรจะเป็นตัวคุณเอง ไม่ว่าคุณจะแต่งเรื่องและใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือต่อต้านรัฐบาลไทยที่มาจากการเลือกตั้งมาตามแนวทางประชาธิปไตย แต่สิ่งหนึ่งที่มีความแน่นอนคือ วันหนึ่งคุณจะถูกนำตัวมาลงโทษเพราะการกระทำอาชญากรรมของคุณ
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น