ศาลสั่งจำคุก 'เจ๋ง ดอกจิก' 3 ปี คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษเหลือจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ศาลให้ประกันด้วยเงิน 5 แสนบาท
วันนี้ (17 ม.ค. 56) เวลา 9.40 น. ห้อง 804 ศาลอาญา รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2740/2553 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก ที่ปรึกษา รมช.กระทรวงพาณิชย์ และแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการขึ้นเวทีปราศรัยบนเวที นปช. เชิงสะพานมัฆวาน เมื่อวันที่ 29 มี.ค.53 ต่อหน้าประชาชนที่เข้าร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก และยังมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์
โดยจำเลยให้การในชั้นศาลว่า จำเลยเพียงต้องการปราศรัยเพื่อให้รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา และโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เพื่อให้ลาออกจากตำแหน่งองคมนตรีเท่านั้น เนื่องจากตนเองเชื่อว่า พล.อ.เปรม เป็นผู้ให้ความช่วยเหลืออภิสิทธิ์จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร และการกล่าวถึง "อำมาตย์" มีเป้าหมายเพียงการล้อเลียน พล.อ.เปรม เท่านั้น และกล่าวต่อไปว่าตนเองเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ ไม่เคยคิดอาฆาตมาดร้ายแต่อย่างใด นอกจากนี้ตนเองยังเป็นกรรมการอยู่ในมูลนิธิ 5 ธันวา และยังทำงานการกุศลเพื่อเฉลิมพระเกียรติของพระเจ้าอยู่หัวมาอย่างยาวนาน
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่จะพิจารณาว่าคำพูดดังกล่าวหมายถึงใครนั้นจำเป็นต้องพิจารณาจากท่าทางประกอบด้วย แม้จำเลยจะบอกว่า ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นใคร แต่การที่จำเลยแสดงท่าทางด้วยการเอามือปิดปากตนเองนั้น เป็นการสื่อให้เห็นว่าเป็นบุคคลที่สูงส่งยิ่ง เพราะแม้จำเลยจะกล่าวปราศรัยโจมตีอภิสิทธิ์ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่มีการแสดงท่าทางดังกล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.เปรม ยังเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระเจ้าอยู่หัว ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของนิติบัญญัติ บริหาร หรือตุลาการแต่อย่างใด คำพูดที่ว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลังเปรมนั้นจึงไม่อาจมองได้ว่าหมายถึงบุคคลอื่นได้ การที่จำเลยแสดงท่าทางไม่กล้าพูดนั้น ไม่สามารถมองเป็นบุคคลอื่นใดได้ นอกจากพระเจ้าอยู่หัว เป็นการแสดงให้เห็นว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงไม่ประสงค์ให้อภิสิทธิ์ยุบสภา ซึ่งทำให้พระเจ้าอยู่หัวทรงเสื่อมเสีย คำอ้างของจำเลยจึงไม่มีน้ำหนักพอให้รับฟัง อีกทั้งในการปราศรัยดังกล่าวไม่มีการปราศรัยเรื่องเพศ หรือเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.เปรม แต่อย่างใด
ศาลจึงพิพากษาในลงโทษจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง โดยลงโทษจำคุก 3 ปี แต่เนื่องจากคำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี มีเหตุให้บรรเทาโทษ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา
หลังจากศาลอ่านคำพิพากษาทนายความจำเลย ธำรงค์ หลักแดง ได้เตรียมยื่นหลักทรัพย์ โดยเป็นหลักทรัพย์เดิมที่ใช้ประกันตัวเป็นเงินสดจำนวน 500,000 บาท และใช้ตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในการยื่นขอการประกันตัว
ต่อมาเวลาประมาณ 14.00 น. ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคดีนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้นจำเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมาแล้วโดยไม่มีพฤติการณ์จะหลบหนี ศาลจึงมีคำสั่งให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยระหว่างอุทธรณ์โดยตีราคาประกัน 500,000 บาท
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น