วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ครม.ในสถานการณ์สู้รบ

ครม.ในสถานการณ์สู้รบ : พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์


          คนเสื้อแดงบางส่วนผิดหวังกับการปรับครม.ครั้งนี้มาก เพราะแกนนำเสื้อแดงไม่ได้ตำแหน่งเพิ่ม บางคนหวังจะให้ปรับเป็น "ครม.ในสถานการณ์สู้รบ" เอา "นักรบ" เข้าไปนั่งในครม. เตรียมสู้ศึกใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า พอไม่ได้ ก็ตีโพยตีพายว่า ทักษิณและพรรคเพื่อไทย "ไม่สู้" "เกี้ยเซี้ย" --- เข้าใจผิดครับ

           ปรับครม.ครั้งนี้ เพื่อเอาคนใหม่เข้ามาแก้ปัญหานโยบายเก่า (เช่น จำนำข้าว) และเพื่อสานต่อนโยบาย จึงเอามือบริหารเข้ามา ปรับครั้งนี้ ผมว่า ได้องค์ประกอบที่ดีขึ้นมากจากชุดที่แล้ว ในแง่การบริหาร นายกฯยิ่งลักษณ์ทำถูกแล้วครับ

           ส่วนการเตรียมสู้รบนั้น ให้ดูที่นายกฯยิ่งลักษณ์ควบ รมว.กลาโหม ตรงนี้ไม่ใช่แค่เปลือกนอก แต่เป็นเรื่องใหญ่มาก ถ้าอยากรู้ จะบอกให้ นายกฯยิ่งลักษณ์ลงมาคุมกระทรวงกลาโหมเอง ก็คือคุมทั้งเงินและคุมทั้งคน น้ำหนักฝ่ายการเมืองในสภากลาโภมเป็น 3:4

          ที่สำคัญ การที่นายกฯยิ่งลักษณ์ควบ รมว.กลาโหมด้วยตัวเอง เป็นการเตรียม "ปราบกบฏ" ในกรณีเกิดรัฐประหารครับ ขอให้ดูบทเรียนจากรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

         ผบทบ.คนปัจจุบัน ผมว่า โอเคแล้ว จากผลประโยชน์ส่วนตัวของเขานะ เขาอยากให้รัฐบาลนี้อยู่ต่อไปจนกว่าตัวเขาจะเกษียณครับ สิ่งที่เขากลัวมากที่สุดคือ "ถูกสั่งให้ทำรัฐประหาร" เพราะถ้าเขาลงมือททำ ก็ไม่มีได้ มีแต่จะเสียครับ ทุกวันนี้ก็ "โคตะระสบาย" อยู่แล้ว ทั้งตำแหน่งหน้าที่และการเงิน รอปลดเกษียณไปเป็นประธานบริษัทใหญ่ ๆ สัก 4-5 แห่ง ดีกว่าทำรัฐประหารเยอะ ที่น่ากังวลคือ นายทหารระดับรอง ๆ ลงไปครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกแม่ทัพภาคและเสธ.ที่อยากดันตัวเองขึ้นแบบอาหารจานด่วน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น