วันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ภาคเอกชนขอบคุณนายกรัฐมนตรี หนุนธุรกิจไทย ขยายการลงทุนที่ยุโรป

ภาคเอกชนขอบคุณ "ยิ่งลักษณ์" 

หนุนธุรกิจไทย ขยายการลงทุนที่ยุโรป



       วันที่ 4 กรกฎาคม 2556 (go6TV) -  เวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้ารับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับประสบการณ์การลงทุนของภาคเอกชนไทยในโปแลนด์ โดยบริษัท ส. ขอนแก่น และ บริษัท Thai Union Group จำกัด ของไทย ณ โรงแรมเชอราตัน วอร์ซอ พร้อมสรุปภาพรวมการลงทุนของภาคเอกชนไทยในโปแลนด์ สรุปดังนี้

        ปัจจุบันมีภาคเอกชนไทยไปลงทุนในโปแลนด์ 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท Lucky Union Foods-Euro (ปูเทียมอัดแท่ง) บริษัท ส.   ขอนแก่นฟู้ดส์ (ไส้กรอก หมูยอ) บริษัท DHA Siamwall บริษัท Indorama  (พีอีที โพลีเมอร์) บริษัท SCT (ธุรกิจ outsourcing) ซึ่งกลุ่มบริษัทเหล่านี้ ทำให้สินค้าไทยในปัจจุบันสามารถเข้าสู่ตลาดยุโรปได้อย่างเป็นทางการตามมาตรฐานของสหภาพยุโรป

        สำหรับบริษัท ส. ขอนแก่น จากข้อจำกัดของกฎระเบียบมาตรฐานของสหภาพยุโรปในเรื่อง Food Safety  ที่ห้ามนำเข้าเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์  บริษัท ส. ขอนแก่นจึงประสบอุปสรรคเรื่องการส่งออกผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ จำพวกเนื้อหมู เช่น ลูกชิ้น แหนม หมูยอ ฯลฯ เพื่อจัดจำหน่ายในตลาดยุโรป แต่เนื่องด้วยตลาดการบริโภคในภูมิภาคยุโรปเป็นตลาดที่มีศักยภาพ บริษัทฯ จึงเล็งเห็นว่าการสร้างฐานการผลิตในยุโรปจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าในภูมิภาค ซึ่งมีประชากรทั้งไทยและอาเซียนเป็นจำนวนมาก และเพื่อลดความยุ่งยากจากการส่งออกสินค้าประเภทอาหารบางประเภท ไปตลาดยุโรปที่จำเป็นต้องผ่านมาตรฐานและกฎเกณฑ์ที่ซับซ้อนและเข้มงวดจากสหภาพยุโรป ซึ่งจากการที่โปแลนด์มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่มีความเหมาะสม เอื้ออำนวยต่อการกระจายสินค้าไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคยุโรปได้ดี  และมีค่าจ้างแรงงานถูกเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในสหภาพยุโรป ทำให้การดำเนินธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างมาก สำหรับบริษัท Thai Union Group จำกัด ก็ถือเป็นอีกกรณีตัวอย่างที่ดีของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในโปแลนด์ โดยได้ร่วมทุนกับบริษัท LG ก่อตั้งบริษัท Lucky Union Foods Euro ผลิตปูอัดแช่แข็ง ที่เมืองเชชิน ประเทศโปแลนด์ ลเห็นว่าตลาดอาหารแช่แข็งในยุโรปยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสของภาคเอกชนไทยในรายอื่นๆด้วย

        ที่สำคัญภาคเอกชนไทย ต่างขอบคุณและยินดีที่นายกรัฐมนตรีเยือนโปแลนด์ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจต่อนักลงทุนไทยเป็นอย่างมากในการดำเนินธุรกิจในโปแลนด์ และเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะดูแลและสนับสนุนภาคเอกชนไทยในการดำเนินธุรกิจที่โปแลนด์ หลังจากที่ไม่มีการเยือนของผู้นำไทยมาก่อน

       โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สอบถามผู้แทนภาคเอกชนทั้งสองถึงปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ โดยจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสนับสนุนและช่วยเหลือแก้ไขปัญหาในการดำเนินธุรกิจด้วย  เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปลงทุนในโปแลนด์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น เส้นทางคมนาคมจะช่วงเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจและอำนวยความสะดวกในการขนส่งด้วย

      หลังจากนั้น เวลา 11.25 น. นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและคณะ เดินทางออกจากโรงแรมไปยังทำเนียบนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ เพื่อร่วมหารือกับนายโดนัล ทุสค์ นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐโปแลนด์ และร่วมเป็นประธานในการลงนามความตกลงและบันทึกความเข้าใจ 6 ฉบับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น