วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ประเทศไทย กับ “ระบอบประธานาธิบดี” ?!

ประเทศไทย กับ “ระบอบประธานาธิบดี”  ?!
โดย...สอาด จันทร์ดี

          เป็น เพราะโลกมนุษย์ได้พัฒนามาอย่างใหญ่หลวง ได้ทำให้โครงสร้างเก่าๆของทุกประเทศมีการเปลี่ยนแปลงทางวัตถุอย่างไม่มีทาง เลี่ยง ดังจะเห็นได้จากกรุงโรม มหานครอียิปต์ นครวัด นครธม เขาพนมรุ้ง  กรุงสุโขทัย พระนครศรีอยุธยา ต่างตกอยู่ในสภาวะแห่งการเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น 
 
          ใน ขณะเดียวกันก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง “การปกครอง” อย่างใหญ่หลวงมากกว่า150 ประเทศ กล่าวคือได้เปลี่ยนจากระบอบกษัตริย์ไปสู่ไปสู่ระบอบประธานาธิบดี  ซึ่งขณะนี้มีประเทศที่ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์เพียง 1 ใน 5 เท่านั้น
 
 
          ประเทศ ไทยเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบกษัตริย์สืบต่อกันมานับเป็นพันปีโดยไม่เคย มีการถกเถียงมาก่อนเลย แต่แล้วจู่ๆก็มีการกล่าวตู่พี่น้องคนเสื้อแดงว่ากำลังจะล้มเจ้า แล้วกล่าวตู่ไปว่าพวกเสื้อแดงทั้งหมด เป็นภัยต่อสถาบัน  
 
         ซึ่งเป็นการกล่าวตู่ที่ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมอย่างไม่เคยมีมาก่อน การกล่าวตู่ดังกล่าวนี้ได้ทำให้เกิดความบาดหมางอย่างใหญ่หลวงระหว่างคนไทยต่อคันไทยด้วยกัน
 
       ตัวผมกับมิตรสหายมากมายต่างมีคำถามแก่ตนเองว่าเหตุไรจึงมีการกล่าวตู่อย่างร้าย แรงเกิดขึ้น พวกผมอยากรู้เหลือเกินว่าพวกผมเรียกร้องประชาธิปไตย ต้องการให้ประเทศไทยมีความยุติธรรม ไม่อยากให้มี 2 มาตรฐาน ไม่ต้องการให้เกิดการยึดอำนาจด้วยกำลังทหาร พวกผมอยากให้ใช้ระบบ “เลือกตั้ง” เป็นแนวทางแก้ปัญหาข้อขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเป็นความต้องการที่บริสุทธิ์ งดงาม ไม่ได้ใช้อาวุธข่มขู่คุกคามแต่ประการใด  พวกผมและประชาชนชาวเสื้อแดง แสดงออกด้วยแนวทางสันติวิธี ส่งเสียงดังฟังชัดว่าอย่าทำรัฐประหารเป็นอันขาด  อย่าเข่นฆ่าประชาชน อย่าใช้อำนาจเผด็จการปกครองบ้านเมือง ถ้ามีปัญหาทางการเมืองในรัฐสภา ให้ประกาศยุบสภา เลือกตั้งใหม่ พรรคไหนชนะการเลือกตั้ง ให้พรรคนั้นบริหารประเทศชาติตามความต้องการของประชาชน พวกผมแสดงออกถึงความต้องการมีความชัดเจนถึงเพียงนี้
 
        เหตุไร จึงกลายเป็นการ “ล้มเจ้า” ไปได้ ?
 
         สิ่ง ที่น่าพิศวงสำหรับประเทศไทยในขณะนี้ก็คือประชาชนไม่ได้เรียกร้องให้มีการ เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแต่อย่างใด  แตกลับกลายเป็นว่าได้มีคนอยู่กลุ่มหนึ่ง คือพรรคประชาธิปัตย์ กับพวกพันธมิตร – สันติอโศกพากันขย่มอยู่ตลอดเวลาด้วยการกล่าวหาว่ามีคนคิดจะล้มล้างระบอบการ ปกครอง แล้วโยนความผิดมาที่คนเสื้อแดง โดยได้เข่นฆ่า ทำลายชีวิต จับกุม คุมขัง ล่ามโซ่ ตีตรวน ตั้งข้อหาร้ายแรงว่าเป็นพวก “ผู้ก่อการร้าย” อันเป็นข้อหาที่ไม่มีมูลความจริง
 
      กรณีที่เกิดขึ้นในประเทศนี้  มันมาของมันแบบคนไร้สติ ไล่ฟันผู้คนดะไปทั้งหมู่บ้าน แล้วตะโกนเสียงดังลั่นว่าชาวบ้านกำลังจะทำลายองค์พระมหากษัตริย์ พวกเขาจำเป็นต้องถืออาวุธออกมาไล่ยิงไม่เลือกหน้า อ้างว่าทำไปเพื่อปกป้องสถาบัน 
 
        ข้ออ้างนี้ได้ทำให้มีคนตาย 99 ศพ บาดเจ็บอีก 2,000 กว่าคน ?!
 
        พวกเขาฆ่าคนตายแบบไม่ยีหระว่ามันเป็นอาชญากรรมร้ายแรง  ตรงกันข้าม พวกเขากลับพากันชูคอตะโกนโหวกเหวก ประกาศแบบอหังการว่าพวกเขาทำตามกฎหมาย  ทำเพื่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งเป็นการกล่าวเท็จทั้งสิ้น 
 
         ท่านครับ  เรื่องที่ผมเขียนวันนี้เกี่ยวข้องกับปัญหาของประเทศชาติ ซึ่งผมได้จั่วหัวเอาไว้ว่าประเทศไทยกับระบอบประธานาธิบดี อันเป็นชื่อเรื่องที่ผมอยากเขียนถึงมานานแล้ว แต่รอจังหวะอยู่ว่าจะเหมาะแก่การนำเอาขึ้นมาเขียนได้แล้วหรือยัง
 
         ผมว่าน่าจะเขียนถึงได้แล้ว ทั้งนี้เนื่องจากพวกพันธมิตรพากันไปเปิดเวที ASTV ที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2555 โดยมีการถ่ายทอดสด เผยแพร่ภาพให้ได้ชม ผมจึงได้เห็น “บทบาท” ของพวกพันธมิตรในวันดังกล่าวนั้น ผมเปิดชม ASTV ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
 
      โฆษกบนเวที ผมรู้จักดี...เพราะเราเคยเดินงานมวลชนด้วยกันมาก่อน
 
      โฆษก คนนั้น ตะโกนเสียงดังฟังชัดว่าจะใช้ไม้กวาด 1,000,000 อัน (หนึ่งล้านไม้กวาด) ให้พี่น้องผู้รักสถาบันที่เป็นพันธมิตรถือไปคนละ 1 ไม้กวาด  พากันไปกวาดล้างรัฐบาลโจรให้หมดไปจากแผ่นดินไทย ว่าแล้วก็พูดปลุกใจดังสนั่นหวั่นไหว
ผม รับฟังเรื่องราวจากปากของโฆษกที่พ่นผ่าน ASTV ด้วยความเข้าใจเป็นอย่างดี แต่ผมไม่เข้าใจในเรื่องที่พวกเขากล่าวว่ารัฐบาล น.ส. ยิงลักษณ์ ชินวัตร เป็นรัฐบาลโจร  ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่แปลกแหวกแนวอย่างยิ่ง ผมบอกกับตนเองว่า  พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งมาจากประชาชนโดยแท้ ไม่ใช่ได้อำนาจมาจากปลายกระบอกปืน แล้วจะเป็นรัฐบาลโจรได้อย่างไร
 
ผมคิดถึงเรื่องนี้แล้ว พลันให้คิดไปถึงเรื่องข้อกลาวหาที่คนเสื้อแดงถูกป้ายสีว่าเป็นพวกล้มเจ้า อันเป็น ข้อกล่าวหาที่ปล้ำผีลุกปลุกผีนั่ง จะเอาให้เป็นจริงให้ได้  ดังจะเห็นได้จากปากของพวกโฆษกที่ไปพูดบนเวทีพันธมิตร ล้วนแต่แสดงออกในทางเดียวกัน  พวกมวลชนที่นั่งสลอนอยู่หน้าเวที ต่างมีอาการกระเหี้ยนกระหือรือแทบว่าจะกระโดดตัวลอยที่ได้รับฟังการปราศรัย ในวันนั้น
ผม นั่งสังเวชอยู่คนเดียว คิดแล้วคิดอีกว่าจะต้องเขียนถึงปัญหาประเทศไทยกับระบอบการปกครองใหม่ ซึ่งคนไทยไม่เคยมีใครเรียกร้องหามาก่อนเลย มีแต่พวกพันธมิตร กับพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่โยนข้อหาให้โดยที่คนเสื้อแดงไม่เคยกระทำการ ใดๆอันจะส่อไปในทางอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง  สิ่งที่มือยู่ในขณะนี้ได้แก่การเรียกร้องให้สร้างประชาธิปไตย
 

     ผม อยากบอกให้พวกพันธมิตรโปรดรับทราบว่า  ระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริง จะทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ตั้งอยู่ได้อย่างมั่นคงตลอดไปชั่วนิจนิรันดร แต่ระบอบ “เผด็จการ” ต่างหากเล่า จะทำให้สถาบันของชาติอับปางลง ?!
 
        จริงไม่จริง ขอให้ตระหนักแก่ใจเอาไว้ว่า  ประชาชนในทุกประเทศต้องการความรักความเมตตาจากผู้ปกครอง  ต้องการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  ต้องการสวัสดิ์ภาพและสวัสดิการที่ดี  ถึงจะไม่ดีเยี่ยมเท่ากับคนอื่น ก็ขอให้มีเหมือนเขาบ้าง ถ้าเอาแต่ฆ่าแล้วละก็  ประชาชนจะมีความสุขได้หรือ ?
 
       กรณี ประชาชนจำนวนมากที่ประสบชะตากรรมในวัยชรา ได้ค่าเลี้ยงดูจากรัฐเดือนละ ๖๐๐ บาท ถ้าอยากได้เดือนละ 1,000 บาท ต้องรอให้อายุครบ 100 ปี 
 
       นี้หรือคือประชาธิปไตยของประเทศไทย ?
 
       กรณี ประชาชนร้องขอประชาธิปไตยให้กับชาติ ขอความเจริญรุ่งเรือง ขอความยุติธรรม แต่ได้ถูกฝ่ายรัฐบาลใช้อาวุธสงครามไล่ยิงเอา เพื่อจะให้ประชาชนสลายการชุมนุมด้วยการบังคับ ใครไม่เชื่อฟังต้องถูกฆ่าทิ้ง การกระทำดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นการใช้อำนาจเผด็จการ ที่โฉดชั่ว น่าขยะแขยง หากรัฐบาลหรือผู้ปกครองยังคงใช้วิธีการ “ฆ่า” ดังที่ชอบกระทำมาหลายยุคหลายสมัย นั้นแหละคือการบ่อนทำลายความมั่นคงของสถาบันที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
โปรดอย่าลืมว่าโลกในยุคปัจจุบันก้าวหน้าและพัฒนาไปไกลมาก  ไม่มีผู้ใดที่จะปิดบังข้อมูลข่าวสาร ได้อีกแล้ว  
 
       ข้อมูลและข้อเท็จจริงนับวันแต่จะไหลถึงประชาชนรวดเร็วภายในเสี้ยวนาที หรืออย่างมากก็ไม่เกิน 24 ชั่วโมง  เมื่อความเท็จปรากฏ แก่สายตาของประชาชน มันจะเข้าไปแยกใจของประชาชนโดยตัวของมันเอง โดยไม่มีใครจะบังคับขู่เข็นได้
 
        กรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้สั่งฆ่าประชาชน ที่ท่านทั้งสองอ้างว่าทำตามกฎหมาย ท่านก็อ้างของท่านไป  ส่วนข้อเท็จจริงที่ซึมลึกอยู่ในหัวใจของประชาชนนั้น จะถูกสักเอาไว้ในความรู้สึกไม่แตกต่างจากหมึกสีแดงที่สักเอาไว้กลางแผ่นหลัง
 
        ผมอยากบอกว่า  คนเสื้อแดงเขาไม่เคยกระทำการใดๆอันเป็นการล้มเจ้า พวกผมไม่เคยตะโกนหาระบอบการปกครองใหม่  พวกผมไมเคยเรียกหาให้ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นประธานาธิบดี พวกผมต้องการให้ท่านทักษิณ ได้รับความเป็นธรรมต่างหากเล่า
 
        แต่พวกท่าน (พันธมิตรและพรรคประชาธิปัตย์) กลับไม่เคยคิดจะหยิบยื่นความเป็นธรรมให้ มีแต่จะถล่มให้ตายไปข้างหนึ่ง โดยอ้างว่าทักษิณอยากเป็นประธานาธิบดี
 
        ขอโทษ ประธานาธิบดีในประเทศไทย 
        มันจะเป็นได้ง่ายดายเหมือนปอกกล้วยกระนั้นหรือ ?
 
        ผมจึงอยากกล่าวว่าปัญหาประเทศไทยกับระบอบประธานาธิบดี  ที่ถูกพวกหมาบ้าโยนข้อหาให้อยู่ตลอดเวลา ได้ทำให้คนไทยเสื้อเหลืองกับเสื้อแดงมองหน้ากันไม่ติด...ตัวนี้ต่างหากที่จะ เป็น “เสี้ยนหนาม” ให้คนไทยฆ่ากันเอง  
 
         ถ้าพันธมิตรคิดจะใช้คน “หนึ่งล้าน” บุกทำเนียบ เพื่อจะขับไล่รัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผมคิดของผมคนเดียวว่า  ถ้าพวกพันธมิตรทำเช่นนั้นจริง  นั้นแหละคือ “การก่อการร้าย” ตัวจริง ที่จะทำลายทั้งสถาบันและทำลายชาติไทยทั้งชาติอีกด้วย ?!
 
สอาด จันทร์ดี
4 ตุลาคม 2555

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น