RED IN USA

ชี้ นายมาร์ค ได้ประโยชน์จากสัญชาติอังกฤษ http://www.internetfreedom.us/thread-15442.html เด็จพี่ชี้ นายมาร์ค ได้ประโยชน์จากสัญชาติอังกฤษ นาย พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เปิดเผยต่อข่าวสด เกี่ยวกับกรณีที่นายอภิสิทธิ์ยอมรับกลางสภาว่าถือสองสัญชาติว่า การถือสัญชาติของนายกฯ ตนฟังครั้งแรกก็เชื่อตามนั้น แต่เมื่อพิจารณาให้ดีก็ไม่เชื่ออย่างสนิทใจ และนายกฯ เป็นคนมัธยัสถ์ในความจริงที่พูดความจริงเพียงครึ่งเดียว การถือสองสัญชาติไม่แปลก แต่ไม่เหมาะสม นอกจากนั้น ตนทราบมาว่าในระหว่างที่นายกฯ อยู่ที่ประเทศอังกฤษนั้นมีการใช้ประโยชน์จากการถือสัญชาติอังกฤษ ทั้งนี้ ตนกำลังตรวจสอบและรอข้อมูลบางอย่างจากคนใกล้ชิดที่อยู่ในประเทศอังกฤษ เพื่อนำมาเปิดเผยว่านายกฯ ได้ใช้สิทธิ์ในระหว่างการศึกษาที่ระบุว่าจ่ายเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ เช่น ค่าใช้จ่าย 1 ล้านบาท เมื่อได้สิทธิ์จะจ่ายเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ จะเหลือเพียง 2 แสนบาท ทั้งในระดับมัธยมต้น มัธยมปลาย และระดับมหาวิทยาลัย จริงหรือไม่ หากเป็นจริงก็ไม่ตรงกับสิ่งที่นายกฯ ระบุว่าไม่ได้รับอภิสิทธิ์ด้านการศึกษา ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ไม่ควรจะกั๊กความจริง และพยายามโยงพาดพิงไปถึงบุคคลอื่น หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สำคัญควรจะนำกฎเหล็กมาใช้กับตัวเองด้วย หากยังไม่สละเรื่องสัญชาติก็ควรจะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไป *** โรเบิร์ตเย้ยมาร์คเพิ่งสารภาพ *** ทางด้านนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความกลุ่มนปช. ชาวแคนาดา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์แถลงรับแล้วว่ายังไม่สละสัญชาติอังกฤษว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องการยื่นคำร้องของศาลอาญาระหว่างประเทศ แต่เป็นเรื่องที่โลกได้เห็นแล้วว่านายกรัฐมนตรีไทยเป็นคนอย่างไร หลังจากใช้เวลานานเป็นเดือนกว่าจะพูดออกมา ต้องให้คนอื่นมาตั้งคำถามว่าตัวเองสัญชาติอะไร ทั้งที่เป็นนักการเมือง ควรเปิดเผยความจริงอย่างตรงไปตรงมา ไม่มัวบิดพลิ้ว ความพยายามที่จะปกปิดความจริงเรื่องสัญชาติก็เหมือนที่พยายามปกปิดความจริง ในการสั่งการปราบปรามผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นเรื่องที่จะแก้ตัวใดๆ ไม่ได้ ตนขอให้นายอภิสิทธิ์ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอียิปต์เป็นตัวอย่าง นาย อัมสเตอร์ดัมยังกล่าวโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ กรณีที่กล่าวหาทำรายงานสมุดปกขาว มีเนื้อหาหมิ่นราชวงศ์ไทยว่า ไม่เป็นความจริง ตนไม่เข้าใจว่าทำไมสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต้องพยายามดึงเรื่องนี้ออกมา ทั้งๆ ที่ประเด็นสำคัญอยู่ที่คำสั่งใช้กำลังทหารปราบปรามผู้ชุมนุม ซึ่งยังไม่เคยได้รับคำอธิบายใดๆ ที่ชัดเจน ตนขอบอกว่า ในสัปดาห์นี้จะมีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้พรรคประชาธิปัตย์แน่ พท.เตรียมแฉข้อมูล นายกฯ รับประโยชน์ในฐานะคนอังกฤษ “จิรายุ”ดักคอ ปชป.ทำทีวีส่อขัด รธน.มาตรา 48 เมื่อ วันที่ 28ก.พ. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าไม่ได้สละสัญชาติอังกฤษ ว่า เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีนายกฯถือ 2 สัญชาติ ซึ่งหลังจากที่เบี่ยงเบนประเด็น อ้ำๆอึ้งๆมาตลอด ก็กลับมายอมรับ และการที่นายอภิสิทธิ์ ระบุว่าไม่เคยใช้สิทธิพิเศษ หรือรับประโยชน์จากสัญชาติอังกฤษนั้น ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีหลักฐานใหม่ เกี่ยวกับการรับประโยชน์จากสัญชาติอังกฤษของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงและพร้อมจะส่งข้อมูลให้ทีมอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเชื่อว่าเมื่อเปิดข้อมูลนี้ออกมาจะทำให้นายอภิสิทธิ์เป็นโมฆะบุรุษ “อยาก ถามนายอภิสิทธิ์ว่าหากไม่เคยได้รับประโยชน์จากสัญชาติอังกฤษ แล้วอยู่มาจะ 50 ปีทำไมไม่สละสัญชาติเสีย ผมในฐานะคนไทยไม่ไว้วางใจให้นายอภิสิทธิ์ที่เป็นนายกฯไทย หัวใจอังกฤษ หรือหัวใจนิวคาสเซิ่ลนี้ทำหน้าที่อีก แล้วที่ไปถามว่าคนมาตรวจสอบรักชาติมากแค่ไหน อยากรู้ว่าคนที่ถือ 2 สัญชาติอย่างนี้มีหน้ามาถามคนอื่นว่ารักชาติหรือไม่ ผมที่ถือสัญชาติไทยเพียงสัญชาติเดียว อยากถามนายอภิสิทธิ์ว่ารักชาติหรือไม่ หากรักชาติก็ให้สละสัญชาติอื่นเสีย นอกจากนี้นายอภิสิทธิ์ก็ยังมีปัญหาเรื่องการเกณฑ์ทหารอยู่ แล้วอย่างนี้ถือว่ารักชาติหรือไม่”นายพร้อมพงศ์ กล่าว ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงแนวทางที่พรรคประชาธิปัตย์จะหาสมาชิกระดับวีไอพี และให้บริจาคแบบผ่อนส่งเดือนละ 2 หมื่นบาท เพื่อให้ได้ครบ 1 ล้านบาทภายใน 4 ปี ว่า ถือเป็นการหาเงินเข้าพรรครูปแบบใหม่ เหมือนการทำบุญแบบผ่อนส่ง ซึ่งอยากถามว่าตามกฎหมายทำอย่างนี้ได้จริงหรือไม่ แล้วหากทำสัญญาบริจาคไปแล้ว เมื่อถึงเวลาไม่ได้จ่ายต่อ จะมีทีมทวงหนี้ไปเก็บเงินหรือไม่ นอกจากนี้การที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าจะเปิดทีวีสีฟ้านั้น ขอถามความเหมาะสมในฐานะที่เป็นรัฐบาล มีสื่อทั้งวิทยุ โทรทัศน์อยู่ในมือจำนวนมาก อีกทั้งเป็นการสุ่มเสี่ยงการกระทำที่ผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 48 อีกด้วย