วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ตบปาก คนประชาธิปัตย์


ตบปาก ขุดสันดอน ตีแสกหน้า คนประชาธิปัตย์

ตบปาก ขุดสันดอน ตีแสกหน้า คนประชาธิปัตย์
โดย มหากมล

การแถลงนโยบายรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์จาก 2 วัน เป็น 3 วัน

การแถลงนโยบายรัฐบาลของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จะต้องจัดให้มีขึ้นภายใน 15 วัน ตามมาตรา 176 ของรัฐธรรมนูญ นับตั้งแต่วันมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม. ได้กำหนดไว้ 2 วัน คือวันที่ 23 และ 24 สิงหาคม 2554 แต่ก็ไม่เป็นไปตามที่กำหนด เพราะมีปัญหา เพราะสมาชิกพรรคฝ่ายค้านไม่เชื่อฟังคำแนะนำของประธานรัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ที่ขอร้องให้คนพรรคประชาธิปัตย์หยุดพูดถึงสถาบัน โดยไม่จำเป็นเพราะจะเกิดปัญหา การประชุมจะเดินต่อไม่ได้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ดื้อรั้นพยายามพูดและกล่าวหาคนเสื้อแดงและท่านนายกทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นพวกไม่จงรักภักดี ทำให้เกิดการประท้วง และสิ้นสุดลงโดยการปิดประชุมสภา ทำให้ผู้ชม ผู้ฟังทางบ้านได้เห็นสันดานและสันดอนของคนพรรคประชาธิปัตย์ ทันทีทันใดในสมัยประชุมสภาชุดใหม่นี้

นัดประชุมสภาใหม่ในวันที่ 25 สิงหาคม เวลา 13.00 น.

ได้ดูการถ่ายทอดประชุมสภาในคืนวันที่ 24 สิงหาคม จนกระทั่งปิดประชุม ผมพยายามโทรศัพท์ถึงนักกฎหมายหลายคนเพื่อจะถามว่ากรณีอย่างนี้จะต้องมีประชุมสภากันอีกหรือไม่หรือจะถือว่าการแถลงนโยบายของรับบาลสมบูรณ์แล้ว กลับถึงบ้าน หลังเที่ยงคืนเปิดวิทยุฟังข่าวหาคำตอบจนหลับไป ตื่นขึ้นมาเปิดวิทยุฟัง จึงได้ทราบว่าจะมีการประชุมสภาต่อในวันที่ 25 สิงหาคม 2554 เวลา 13.00 น. โล่งอก หายข้องใจและดีใจ ยังไง ๆ ก็จะต้องรอฟังท่านนายกหญิงยิ่งลักษณ์กล่าวเปิดใจก่อนปิดประชุมสภาว่าด้วยการแถลงนโยบายของรัฐบาลและท่านนายกหญิงยิ่งลักษณ์จะได้ทำงานแสดงฝีมือเสียที

สันดาน สันดอน คนประชาธิปัตย์

คนพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่รู้กันว่าเก่งในการใช้วาทกรรมทำลายคู่แข่งทางการเมือง พูดได้ โกหกได้ทุกเรื่องโดยไม่คำนึงถึงคนที่ถูกพูดถึงจะเสียหายหรือประเทศชาติจะเสียหาย หายนะ ขอเพียงพวกเขาได้ประโยชน์ ได้ชัยชนะ ได้อำนาจ คงไม่ต้องกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาหลายสิบปีของการทำการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีอายุเก่าแก่เกิน 60 ปี เอาแค่ 2 ปี 7 เดือน ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค เป็นนายก มีสันดานคือดีแต่พูด ตอบโต้ ด่าแฝงความหยิ่งยโสได้ทุกเรื่องโดยไร้เหตุผล ซึ่งมีอคติเป็นที่ตั้ง สันดอนคือความคิดที่ดูถูกเหยียดหยามคนรากหญ้า คนชนบท ว่าเป็นพวกคนโง่ ถูกหลอกได้ง่าย และเป็นกลุ่มคนที่ไม่จงรักภักดี พวกล้มสถาบัน สันดอนของคนพวกนี้ หน้าด้าน ใจแคบ ไม่เคยมองเห็นความดีคนอื่น ตั้งใจจับผิดอย่างเดียว นักปราชญ์ท่านว่า สันดานพอจะแก้ไขได้ แต่สันดอนขุดออกยาก ต่อให้พระเกจิดังที่ไหนมาสอน มาขุด ก็ช่วยไม่ได้ น่าสังเวชครับ

กล่าวหาผู้เลือกพรรคเพื่อไทย 15.7 ล้านคนถูกหลอก

คนพรรคประชาธิปัตย์ได้อภิปรายโจมตีนโยบายพรรคเพื่อไทย ในเรื่องให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน และให้เงินเดือนผู้จบปริญญาตรี 15,000 บาท เป็นนโยบายแก้บน ทำไม่ได้ ที่ได้ ส.ส. มา 265 คน เพราะชาวเหนือ ชาวอีสานหลงเชื่อว่าจะทำได้จริง จึงลงคะแนนให้ คนพรรคประชาธิปัตย์มีสันดอนดูถูกประชาชนชาวเหนือ ชาวอีสาน และคนภาคอื่นที่เลือกพรรคเพื่อไทยว่าเป็นพวกโง่เง่า ถูกจูงง่าย อยากได้ จึงถูกหลอก เลยเถิดไปถึงจะฟ้องร้องให้ยุบพรรค ผู้เขียนนั่งฟัง ส.ส. พรรคนี้อภิปรายแต่ละคนมีปริญญาจากเมืองนอก ตรี โท และเอก เกือบทั้งนั้น แต่มีความเข้าใจประชาธิปไตย เข้าใจคนรากหญ้าเหมือนคนบ้าอำนาจ ไร้สติ คิดว่าคนรากหญ้าคิดไม่เป็น คนพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นเป็นคนฉลาด ที่แท้ พวกนี้โง่ เง่า เต่า ตุ่น มืดบอดยิ่งกว่าพวกแท็กซี่ กรรมกร คนรับจ้าง พ่อใหญ่มา แม่ใหญ่ลี ของผู้เขียนเสียอีก ขอบอกให้คนพรรคประชาธิปัตย์รู้และแหกตาให้สว่างเสียตั้งแต่บัดนี้ว่า เขาไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพวกคุณดีแต่พูด ทำไม่เป็น ไม่มีผลงาน ชาวบ้านเดือดร้อน ยากจนยั่งยืน ขอให้พวกคุณจงจำใส่ใจไว้ เชื่อแน่ว่าความคิดพฤติกรรมของคนพรรคประชาธิปัตย์ก็จะเป็นอย่างนี้ต่อไปอย่างถาวร เพราะได้หัวหน้าพรรคคนเดิมที่แสดงให้เห็นว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ

พรรคเก่าแก่เป็น ส.ส. หลายสมัย ก็ยังคงสันดานเดิม

ก่อนที่ท่านประธานรัฐสภาจะปิดอภิปราย การแถลงนโยบายของรัฐบาลประมาณเวลา 16.10 น. ของวันที่ 25 สิงหาคม 2554 พรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ อภิปรายปิดในนามพรรคฝ่ายค้าน เขาบอกว่านโยบายของรัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทยคือนโยบายแก้บน พูดแล้ว ทำไม่ได้เป็นนโยบายที่หลอกประชาชนให้ได้ ส.ส. มาก ได้จัดตั้งรัฐบาล เขาลืมไปว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ยังไม่บริหารบ้านเมืองเลย เพราะยังไม่ได้แถลงนโยบายแต่กล่าวหาว่าประชาชนถูกหลอก พวกเขามองอย่าง คนพรรคประชาธิปัตย์ที่มีสันดอนดูถูกชาวบ้านว่าโง่ เห็นแก่เงิน แต่ไม่ได้ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเอง เป็นพรรคเก่าแก่ เป็น ส.ส. นับสิบสมัย ไม่เคยมีผลงาน เป็นพวกชอบเผด็จการ มองเห็นชาวบ้านมือเปล่าเป็นผู้ก่อการร้าย ฆ่าได้ ฆ่าเอา ยัดเยียด ความไม่เป็นธรรมให้ ใจแคบ มองเห็นคนไม่ใช่คน ชาวบ้านเลือกพรรคเพื่อไทย ไม่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างนี้ไม่ใช่ถูกหลอก เขาตาสว่างกันแล้ว

ตบปาก ตีแสกหน้า ขุดสันดอนให้อย่างเหนือชั้น

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พูดอย่างโอหัง ยิ้มเยาะนายกยิ่งลักษณ์ ก่อนเลือกตั้งก็ท้าทายดีเบท นายกยิ่งลักษณ์ นิ่ง ไม่ตอบ เขาคิดจะโกยคะแนนจึงผิดหวัง คราวนี้นายกยิ่งลักษณ์จะต้องแถลงนโยบาย ท้าอีก นายกยิ่งลักษณ์ต้องพูด ต้องตอบ มิฉะนั้นจะไม่ได้ความ เชื่อมั่น ศรัทธาจากประชาชน ตลอดเวลารับฟังอภิปรายของ ส.ส. ฝ่ายค้าน สมาชิกวุฒิสภา นายกยิ่งลักษณ์รับฟังอย่างสงบนิ่ง ท่านรองนายกเฉลิมชี้แจงแทนทุกประเด็น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์แถลงกล่าวหานโยบายของรัฐบาลด้วยลีลาที่แฝงไว้ด้วยความยิ้มเยาะ เหยียดหยามและสะใจ ได้เวลานายกหญิงยิ่งลักษณ์ได้กล่าวตอบขอบคุณด้วยวาทะสตรีที่อ่อนหวาน นุ่มนวล สงบนิ่ง ใช้ตบปาก ขุดสันดอน ตีแสกหน้า คนพรรคประชาธิปัตย์ให้เกิดจิตสำนึกใน 3 ประเด็นอย่างคาดไม่ถึง โดยชี้แจงว่า

1. นโยบายที่นำเสนอไม่มีบิดเบือน ไม่ได้หลอกลวงอย่างที่กล่าวหา ไม่มีเหตุผลอะไรที่รัฐบาลอันมาจากประชาชนจะไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชน เราต้องทำตามที่หาเสียงไว้ โดยมุ่งถึงผลลัพธ์ที่จะส่งถึงประชาชน แต่ไม่ได้มุ่งไปที่การตีความเป็นลายลักษณ์อักษร เรามุ่งไปที่เป้าหมายไม่ใช่วิธีการ

2. สำหรับนโยบายปรองดองวันนี้ อยากเห็นการปรองดองสมานฉันท์เกิดขึ้นในประเทศไทย เหมือนที่สมาชิกคนหนึ่งระบุว่า อยากเห็นการปรองดองเกิดขึ้นที่นี่ก่อน ดิฉันจะไม่ท้อถอย จะไม่ทำงานเพื่อบริหารการเมือง แต่จะมุ่งมั่นทำงานเพื่อนำความสุข ปรองดองของพี่น้องคืนมา

3. การทำงานเปรียบเหมือนการทำข้อสอบ คงไม่มีใครจะบอกว่าข้อสอบนั้นทุกคนจะต้องถูก 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกวิชา แต่ดิฉันเชื่อมั่นว่าจะสอบผ่านทุกวิชา

พอนายกยิ่งลักษณ์พูดถึงตรงนี้ ได้รับเสียงปรบมือดังกระหึ่มก้องห้องประชุมสภา ได้ทราบว่าคนพรรคประชาธิปัตย์มึนงง ลมออกหู นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะรู้สึกเสมือนถูกตบปาก ตีแสกหน้า เดินหาทางออกห้องประชุมสภาไม่เจอ นี่แค่ครึ่งยกนะ พ่อคุณดีแต่พูด..../
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น