วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เมื่อกลุ่มทุนผูกขาดฯไร้เมตตาธรรม ก็จำต้องกำจัดออกจากสังคมฯ


เมื่อกลุ่มทุนผูกขาดฯไร้เมตตาธรรม ก็จำต้องกำจัดออกจากสังคมฯ

ปัญหาของประเทศ  โดยเฉพาะปัญหาการเมือง เกิดขึ้นซ้ำซากจำเจเจจนถึงปัจจุบัน ไม่มีใครคนไหนสามารถที่จะแก้ไขด้วยวิธีทางการเมืองหรือด้วยวิธีใดๆได้ 


 แม้จะผ่านการเลือกตั้งมาปีเศษแล้ว อำนาจของประชาชนที่แท้จริง ก็ไม่อาจทำให้ปัญหาต่างๆยุติลงได้ เมื่อแก้ปัญหาปัจจุบันได้ก็จะมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นมาให้แก้ไขกันต่อไป เหตุใดปัญหาทั้งหลายดังกล่าวยังคงดำเนินต่ออย่างไม่จบไม่สิ้น ทำให้ประชาชนทั่วไปเบื่อหน่ายการเมืองของประเทศนี้สุดที่จะทนได้ เหตุเพราะประชาชนในส่วนนี้ขาดความเข้าใจว่าปัญหาต่างๆ ว่ามีสาเหตุมาจากอะไร

 การขาดความเข้าใจของประชาชนกลุ่มนี้  เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ และยังจะทำให้ปัญหาต่างๆแก้ไขให้จบสิ้นลงได้ยากยิ่งต่อไป
วิธีการที่จะแก้ปัญหาของประเทศที่รุมเร้ากันไม่สิ้นสุดนี้ จำเป็นอย่างยิ่งและเป็นเรื่องเร่งด่วน ก็คือจะต้องให้การศึกษาแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง และการให้การศึกษาในเรื่องดังกล่าวจะต้องกระชับที่สุดใช้เวลาสั้นๆ พร้อมทั้งเนื้อหาต้องให้ตรงต่อเป็นความจริงมากที่สุด ให้ประชาชนเกิดสามัญสำนึก และมีอุดมการณ์ด้วยตัวของพวกเขาเอง เพื่อจะได้ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง เช่นต่างประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งหลาย ประชาชนเขามีความสุขอุดมสมบูรณ์อย่างทั่วถึงทุกครัวเรือน ปราศจากความเลื่อมล้ำไม่ว่าในทางใดๆ
เหตุที่ปัญหาต่างๆของประเทศมีอยู่อย่างไม่จบไม่สิ้นนี้  และทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองของประเทศ ดังนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องนำข้อเท็จจริงของปัญหาที่แท้จริงของประเทศนี้แจ้งให้ทราบว่า คืออะไรกันแน่  และเมื่อแก้ปัญหานี้ได้ปัญหาดังกล่าวจะจบโดยสิ้นเชิงหรือสิ้นซากหรือไม่  แล้วปัญหาที่จะกล่าวต่อไปนี้จะแก้ไขได้หรือไม่ และแก้ยากไหม...? เป็นคำถามที่จะต้องมีคำตอบ
ดังนั้นจำเป็นที่จะต้องนำปัญหามาแจ้งให้ท่านผู้อ่าน ได้ทราบข้อเท็จจริงของปัญหานี้ก็คือ เป็นเรื่องของชนชั้นสูงคือกลุ่มของ”นายทุนผูกขาด,อำมาตย์,และศักดินา” กับกลุ่มของ”ทุนนิยมหรือทุนเสรีนิยม” ทั้งสองฝ่ายดังกล่าวนี้ต่างแย่งชิงอำนาจกันอย่างหน้ามืดตามัวไม่สนใจว่าใครจะได้รับผลกระทบจากการแย่งชิงอำนาจกัน กระทำกันทุกวิถีทางเพื่อให้พวกของตัวได้อำนาจมาจะได้มาโดยวิธีใดๆ ก็ทำได้แม้จะต้องเข่นฆ่าประชาชนล้มตาย บาดเจ็บเป็นจำนวนเท่าไร พร้อมทั้งจับเข้าไปขังในคุกเป็นจำมาก มาแล้วกี่ครั้งกี่ยุคเขาทำได้โดยไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้นไม่ว่าบุญ-หรือบาป พวกเขาไม่สนใจหรือ

แม้กระทั่งสายตาของประชาชนจะมองว่าเป็นการกระทำแบบป่าเถื่อนที่สุด ก็ไม่อาจสะกิดต่อมสำนึกอะไรของคนกลุ่มนี้ได้ ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วนั้น เขากระทำไปเพื่อผลประโยชน์กลุ่มเขาเท่านั้นเอง และเหตุการณ์ร้ายๆดังกล่าวแล้ว ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของประชาชนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เปรียบการกระทำของคนกลุ่มนี้เป็นการกระทำของพวก”มัจจุราช”ก็ยังไม่อาจเทียบได้ แล้วคนกลุ่มนี้เป็นพวกไหนกันแน่ ทั้งหมดที่อธิบายมาเสียมากมาย 

 ผู้อ่านก็คงอยากทราบว่าพวกนี้มันคือกลุ่มคนพวกไหนก็ขอตอบแบบฟันธงว่า ก็”กลุ่มพวกนายทุนผูกขาด,อำมาตย์และศักดินา” ที่เป็นต้นเหตุหรือเป็นตัวการก่อเหตุการณ์รุนแรง จนประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้ เดือดร้อนทุกข์ยากลำบากยากจนเป็นจำนวนมาก  ซึ่งถึงกับประชาชนที่ไม่ทราบหรือเข้าใจว่าผลที่เขาได้รับนั้น เป็นเรื่องของเวรของกรรมที่ตนเองทำไว้  เป็นเรื่องน่าเศร้าเสียจริงๆ  แต่แท้จริงมิใช่เรื่องเวรเรื่องกรรมอะไรหรอก แต่เป็นเรื่องความโลภของมนุษย์ที่ไม่ยอมพอต่างหาก หยุดโทษเวรโทษกรรมเถิดพี่น้อง เริ่มต้นตั้งสติดีๆแล้วค่อยๆตรวจสอบข้อเท็จจริงในแต่ละเรื่อง โดยใช้เหตุผลวิเคราะห์เรื่องต่าง และที่สำคัญพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆคนที่ชอบพอกัน พร้อมกับผู้คนทั่วไปที่ได้พบได้คุยด้วย เพียงแต่ว่าอย่าเพิ่งเชื่อคนเหล่านั้นทันที่ และที่สำคัญอย่าให้เกิด” อคติ”ในตัวตนของเราเองโดยเด็ดขาด(อคติ 4 คือ รัก โกรธ กลัว หลง) 

 ตัว”อคติ”นี่จะทำให้เราสำคัญผิดในข้อเท็จจริง ตามที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า เห็นผิดเป็นถูกนั่นแหละ อันนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่งกับตัวของเรา กล่าวคือเราจะตกเป็นทาสของผู้อื่นทันที ที่เขาเรียกกันว่า”ทาสทางความคิด”นั่นไง เมื่อไรก็ตามหากเราเป็นตัวของเราอย่างแท้จริง นั่นก็คือ เราก็จะมีอิสระที่จะคิดหาเหตุผลมีปัญญา ซึ่งโดยปกติจะมีอยู่อย่างท่วมท้นในตัวของเราเองแล้ว และเมื่อนำมาใช้ ก็จะไหลพรั่งพรูออกมาเห็นความจริงที่เป็นจริง เรียกได้ว่าท่านจะเห็นธรรมชาติที่แท้จริงของมัน สมองจะปลอดโปร่งตัวเบามีความสุข และเป็นความสุขที่ท่านจะไม่เคยได้รับจากที่ใดๆมาก่อนในชีวิตท่านเลยทีเดียว และเมื่อท่านมีสมองปลอดโปร่งเมื่อใด เมื่อนั้นเป็นปัญญาที่เป็นของตนเองจริงๆแล้ว บรรดาสื่อหลัก สื่อรอง หรือสื่อเข้าข้างทุกชนิดก็ไม่อาจจะทำให้เราหลงเชื่อได้โดยง่ายต่อไป รวมทั้งรูปภาพหรือวาทะกรรมต่างๆนานา ก็จะไร้ความหมายใดๆแก่เราโดยเด็ดขาด ทุนผูกขาดฯหรือเรียกอีกชื่อก็ทุนโบราณนั่นเองก็ไม่อาจจะหลอกเรากระทำใดๆได้อีกต่อไป
“ทุนเสรีหรือทุนเสรีนิยม”เป็นทุนที่เรียกกันว่าใครใคร่ซื้อใครใคร่ขายทุกคนสามารถทำได้ในทุกที่ทุกแห่งไม่ว่าที่ไหนๆ เพียงแต่อย่ากระทำในสิ่งที่ละเมิดกฎหมายเท่านั้น และทุนดังกล่าวนี้เกิดขึ้นมาพร้อมกับโลกใบนี้ นานมาก แต่เมื่อมนุษย์ได้รับการพัฒนาด้านการศึกษามีประสบการณ์สะสมวัตถุหรือทุนก็เริ่มนำวิธีการใช้ระบบทุนผูกขาดมาใช้กดขี่ขูดรีดต่างๆนานาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพียงเพื่อสร้างความร่ำรวยอย่างไม่สิ้นสุดให้กับกลุ่มของพวกตัวเองเลวร้ายสิ้นดีและยังแพร่ขยายออกไปเกือบค่อนโลก จึงทำให้หลายๆประเทศในโลกใบนี้ทำการขัดขวางต่อสู้กับ พวกทุนผูกขาดกว่าจะเอาชนะทำลายล้างพวกทุนโบราณนี้ได้ ต้องต่อสู้เอาเลือดเอาเนื้อ เอาอิสรภาพช่วงชิงมาทั้งนั้น 

ไม่เคยมีประเทศไหนหรือประเทศใดได้มาด้วยการร้องขอ เพราะการร้องขอจากพวกทุนผูกขาดฯหรือทุนโบราณ คนกลุ่มนี้เขาไม่ได้ยินแม้ว่าพวกเขาจะได้ยินแต่เสียงร้องขอของพวกทุนเสรีหรือทุนเสรีนิยม คือพวกไพร่เช่นพวกเรา กลับกลายเป็นเสียงพวกเขาได้ยินว่าเป็นเสียงเหล่าสัตว์ร้ายที่จะทำลายพวกของเขา ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาจะมอบให้คือความตาย ความบาดเจ็บ และความหมดสิ้นซึ่งอิสรภาพใดๆทั้งสิ้นนี่คือผลของการร้องขอ
ทั้งหมดทั้งหลายที่ท่านผู้อ่านได้อ่านมาแล้ว การต่อสู้ระหว่างทุนผูกขาดฯหรือทุนโบราณ กับทุนเสรีหรือทุนเสรีนิยมจะต้องดำเนินต่อไปจะเป็นเวลาอีกนานเท่าใดไม่มีใครจะทราบได้ ทางที่เป็นไปได้อย่างสันติ ก็คือทั้งสองฝ่ายจะต้องยอมเสียสละกันบ้าง เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายหรือทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันในสังคมได้ด้วยความสงบ ถ้าหากเป็นเช่นนี้ได้สังคมและประเทศชาติก็จะมีทุกฝ่ายร่วมกันพัฒนาประเทศไทยอันเป็นที่รักของทุกคนจะเป็นพลังที่เข้มแข็งยากที่จะมีอะไรมาทัดทานได้  อันเนื่องจากประเทศไทยของเรายังมีทรัพยากรธรรมขาติเพียงพอ ที่จะสร้างชาติและรวมทั้งทรัพยากรอันสำคัญคือทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งคนไทยมีความเฉียวฉลาดไม่แพ้ชาติใดๆในโลกใบนี้  เพียงแต่ในอดีตถึงปัจจุบันคนไทยจำนวนมากถูกกดทับศักยภาพของพวกเขา โดยทุนผูกขาดฯหรือทุนโบราณมาโดยตลอดเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตามโลกของทุนนิยมหรือทุนเสรีนิยม มีกงล้ออันศักดิ์สิทธิ์จะหมุนทับโลกของทุนผูกขาดฯหรือทุนโบราณจมลงไปในธรณีมาแล้วเกือบทั่วโลก ถ้าจะนับประเทศที่ยังดำรงรักษาไว้ได้ เหลือเพียงไม่กี่ประเทศ และส่วนที่เหลือก็จะมีอยู่ได้ในลักษณะประนีประนอมกัน ระหว่างทุนผูกขาดฯหรือทุนโบราณกับทุนเสรีหรือทุนเสรีนิยมเสียมากกว่า แต่ถ้าจะนับกันแบบทุนผูกขาดฯหรือทุนโบราณที่ยังคงมีอยู่ในโลกใบนี้จริงๆก็จะไม่ถึงสิบหรือสิบห้าประเทศ แม้จะมีเหลืออยู่เพียงแค่นี้ แต่ก็ยังมีทุนผูกขาดฯหรือทุนโบราณในหลายประเทศกำลังปรับตัวกันอย่างวุ่นวาย เพื่อประนีประนอม กันอยู่กับทุนนิยมหรือทุนเสรีนิยม และคาดว่าในอนาคตอันใกล้นี้ทุนผูกขาดฯหรือทุนโบราณ ก็คงจะหมดสิ้นไปจากโลกใบนี้อย่างแน่นอน
กลับมาสู่ประเทศไทยของเราปัจจุบัน ทุนผูกขาดฯหรือทุนโบราณ ยังคงครอบงำประเทศนี้อย่างเข้มแข็ง ไม่มีทีท่าใดๆที่จะโอนอ่อนผ่อนปรนให้กับทุนนิยมหรือทุนเสรีนิยมแม้เพียงน้อยนิด เพียงเพราะความไม่พอของพวกเขาเท่านั้นเอง สมดังที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า”ความโลภของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด แม้จะยกแผ่นดิน แผ่นน้ำ แผ่นฟ้า ให้ทั้งหมดมนุษย์ก็ยังไม่พอ” เป็นสัจธรรมที่แท้เทียว หรือเรียกได้ว่าไม่ยอมถอยแม้เพียงตารางนิ้วเดียวยังคงไล่ล่า ไล่ฆ่า หรือสร้างเรื่องราวอันเป็นเท็จเพื่อกำจัด กลุ่มของพวกทุนนิยมหรือทุนเสรีนิยมอย่างไม่ลดละ หากสถานการณ์ยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไป  ก็ขอทำนายล่วงหน้าได้เลยว่า เหตุการณ์นองเลือดที่ไม่มีใครปรารถนาคงหลีกเลี่ยงกันไม่พ้นเสียแล้ว” กลุ่มทุนผูกขาด,อำมาตย์,และศักดิ์นา”เมื่อพวกท่านขาดเมตตาธรรมพวกท่านมีหน้าที่ จำต้องใช้กรรมที่ได้ทำความชั่วความเลวร้ายไว้แก่ประเทศนี้และจะต้องถูกกำจัดออกจากสังคมของประเทศในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน และเป็นการลงโทษพวกท่านอย่างสาสมที่สุด ตามเวรกรรมที่พวกท่านทำไว้มาอย่างยาวนาน เพราะทุกวันคือปัจจุบันนี้ 


ประชาชนจำนวนมากพอตาสว่างกันแล้ว และอย่าหวังว่าประชาชนจะหลงเชื่อพวกท่านกันอีกต่อไป โปรดจำใส่กะโหลกไว้ และแจ้งให้ทราบอีกครั้ง”สังคมฯมิได้โหดร้ายกับพวกท่านเพียงแค่กำจัดพวกท่านออกจากสังคมฯเท่านั้น

1 ความคิดเห็น: