วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

แฉ แผนชั่ว อพส.(องค์กรพิทักษ์สยาม)

แฉ  แผนชั่ว อพส.(องค์กรพิทักษ์สยาม)
โดย...สอาด จันทร์ดี

ผมกำลังจะแฉแผนชั่วของ “อพส.” ภายใต้การนำของ “พลเอก บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์”
        เปิดเผยต่อพ่อแม่พี่น้องให้ได้รับทราบ แต่ก่อนจะแฉแผนชั่ว ผมขอเขียนเกริ่นด้วยการขึ้นต้นว่า 
        “นึกว่าอำมาตย์” จะมีใจร่วมมือกับประชาชน ช่วยกันแก้ปัญหาของชาติให้รอดพ้นสันดอนปาก อ่าวไปได้ ผมเข้าใจผิดถนัด เพราะว่าเอาเข้าจริง กลับมีแต่เสียงกู่ก้องจะ “โค่นล้ม” รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลโจร  เป็น “หุ่นเชิด” ของ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร แล้วจะพากัน “ขย่ม” เอาให้พังไปเลย ดังที่ได้ตกเป็นข่าวไปทั่วประเทศ
ผมเกริ่นอย่างนี้ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่าเอาเข้าจริงนั้นพวกอำมาตย์ไม่ได้มีใจอยากปรองดองและไม่มีใจที่จะนำความสงบกลับมาสู่ประเทศไทย เหตุที่เชื่ออย่างนี้ก็เพราะว่าพวกเขาได้พากัน “เป่า นกหวีด” อีกแล้วโดยได้เริ่มทดสอบฝีมือกันเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ ณ บริเวณสนามม้านางเลิ้ง ซึ่งก็ได้ผลสมใจนึกเขาละ เพราะว่าได้มีจำนวนมวลชนแห่กันมาหลายหมื่นคน คน ที่มาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน มีแต่พวกเสื้อเหลือง บวกกับพวกสันติอโศก และ “สลิ่ม” พากันแห่มาร่วมชุมนุมด้วยอาการกระเหี้ยนกระหือรือ ทำให้ “เจ้าภาพ”  ถึงกับหน้าบาน เต็มปลื้มไปเลย แล้วก็พากันให้สัมภาษณ์อย่างเปิดเผยต่อสื่อทั้งหลายด้วยอาการปลื้มจิตปลื้ม ใจ
ปลื้มใจที่สามารถระดมคนให้เข้าร่วมได้หลายหมื่นคน
เจ้าภาพตัวจริงคือใคร...ไผเป็นไผกันหนอ ? เดี๋ยวจะเขียนถามแล้วตอบ
  คำ ตอบก็คือ “อพส.” หรือในชื่อเต็มว่า “องค์กรพิทักษ์สยาม” ซึ่งมีพลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เป็นประธาน  องค์กรนี้เป็นองค์กรตั้งขึ้นใหม่ เรียกเสียโก้หรูว่า “องค์กรพิทักษ์สยาม” อันหมายถึงการปกป้องคุ้มครองประเทศสยาม (ประเทศไทย) ให้รอดปลอดภัย โดยมีเครือข่ายแวดล้อมมากหน้าหลายตา ประกอบด้วย “หมอตุลย์ สิทธิสมวงศ์”  หัวหน้าสลิ่ม  ร้อยตรีแซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานของสันติอโศก(ตัวแทนโพธิรักษ์) นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน  ตัวแทนโรงสีข้าวแห่งประเทศไทย นายสมบูรณ์ ทองบุราณ  ตัวแทนอาจารย์มหาวิทยาลัยจุฬาฯ
และยังมีตัวแทนอีกหลายเครือข่าย เช่น นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ คนสนิทของพล.ต. มนูญ รูปขจร  ดร.เสรี วงษ์มณฑา พลเอกปฐมพงษ์ เกสรศุกร์ สามีของท่านสุพัตรา มาศดิตถ์ ในฐานะตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์  น.ต. ประสงค์ สุ่นศิริ เจ้าของสมยานาม “หน้าแหลมฟันดำ” ผู้ทรงอิทธิพลในกลุ่มอำมาตย์ใหญ่ 
ในงานนี้ ยังมีอีกหลายเครือข่ายที่ยังไม่เปิดเผยตัว
ผม ว่าเอาเพียงเท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว เพราะว่าที่ได้เอ่ยนามมานี้ก็นับว่า “ใหญ่คับฟ้า” น่าตื่นเต้นมิใช่น้อยโดยเฉพาะได้แก่เจ้าของสมยานาม“หน้าแหลมฟันดำ” มีความน่าประทับใจในหลายเรื่องหลายกรณี  
ก่อน จะมีการชุมนุมที่สนามม้านางเลิ้ง  ผมได้เฝ้าหาข่าวความเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนี้มาก่อน ด้วยการติดตามดูการประชุมในที่ต่างๆบ้าง  รับฟังจากรายงานของเครือข่ายที่เป็นศูนย์ข่าว พีเพิ่ลแชนเนิ่ลบ้าง รวมทั้งรับฟังและรับชมข่าวจากโทรทัศน์ดาวเทียม ASTV บ้าง ทำให้ผมได้รู้ว่าคนกลุ่มนี้จะไม่ยอมสงบศึกกับคนเสื้อแดง ไม่ว่ากรณีใดๆ กล่าวโดยสรุปพวกเขายังคงตั้งหน้าตั้งตาที่จะเข่นฆ่าราวีคนเสื้อแดง เพื่อจะหาทางเอาชนะให้ได้ 
เรื่องมันแปลกตรงที่ว่าพวกเขาไม่คิดหวังที่จะใช้แนวทาง “เลือกตั้ง” เพื่อจะเอาชนะทางการเมือง หากแต่ได้ตั้งหน้าตั้งตาที่จะเอาชนะด้วยการใช้กำลังบังคับขู่เข็น แต่ว่าการบังคับขู่เข็นที่ว่านั้น พวกเขา “จะไม่เอาทหาร” มาทำ เพราะพวกเขาเชื่อว่าถ้าทหารทำ จะทำให้เกิดการต่อต้านไปทั่วโลก
ตรงนี้แหละครับที่ผมกำลังเขียนแฉแผนชั่วให้พ่อแม่พี่น้องไทยได้อ่าน
ขอให้อ่านแล้วช่วยกันทำความเข้าใจกับเรื่องนี้โดยด่วน อย่าได้ชักช้า  เพราะว่าหากแต่มัวไม่ยอมทำความเข้าใจ หรือว่าไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้  แล้วพากัน “ชักช้าอยู่” นั้นแหละจะเป็นเหตุทำให้เกิดความวิบัติย่อยยับกับประเทศไทย
เรื่อง มีอยู่ว่าคนกลุ่มนี้ได้สรุปปัญหาความพ่ายแพ้ของพวกเขา พบทางตันไม่มีช่องทางไหนที่จะกู้คืนได้  มีอยู่เพียงทางเดียวคือต้องใช้กำลัง “ทหาร” ทำการยึดอำนาจคืนด้วยปลายกระบอกปืน ?
แต่พวกเขาก็ตระหนักแก่ใจว่าถ้าจะใช้กำลังทหาร ทำรัฐประหาร ก็จะถูกชาวโลกรุมสวดประณาม และยังจะถูก “บอยคอต” อย่างร้ายแรงอีกด้วย  ดังนั้น พวกเขาจึงคิดหาช่องทางใหม่โดยได้หยิบยกเอา “สถาบัน” ขึ้นมาเป็นเครื่องปลุกระดม โดยหวังเอาไว้ว่า ถ้าปลุกให้ประชาชนทั้งประเทศตื่นขึ้นมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการ “โค่นล้ม” พรรคเพื่อไทย แล้วทำการกวาดล้างคนเสื้อแดง  ก็จะเป็นทางออกที่สวยสดงดงาม เพราะจะเป็นการใช้มวลชนปฏิวัติ ถ้าทำสำเร็จ จะได้อำนาจกลับคืนมาสมความปรารถนา
ด้วย เหตุนี้ พวกเขาจึงไปจัดประชุมขึ้น ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้เขาใหญ่ ปากช่อง แล้วเลยไปจัดม็อบที่อำเภอสะตึก จังหวัดบุรีรัมย์ และสุดท้าย ได้ไปจัดม็อบที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่  ๒๓ กันยายน ๒๕๕๕  ประกาศจะใช้กำลังมวลชน ๑,๐๐๐,๐๐๐ คน  ถือไม้กวาดคนละอัน ไปกวาดล้าง “รัฐบาลโจร” (รัฐบาลยิ่งลักษณ์) ให้กระเด็นออกจากประเทศไทย
สุดท้ายของสุดท้าย ได้ทดสอบความสามารถเมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ ณ บริเวณสนามม้านางเลิ้ง  ได้ผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
จาก ผลสำเร็จตรงนี้  คณะบุคคลกลุ่มนี้ได้กำหนดยุทธศาสตร์ “ม้วนเดียวจบ” ประมาณวันพุธที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ หรืออาจเป็นวันจันทร์ที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๕๕  จะเป่านกหวีด “ปรี๊ด-ปรี๊ด” ระดมมวลชนจากทุกสัดส่วนที่ได้เตรียมเอาไว้


        ผู้คนทั้งหมดที่ถูกนำมา  จะกลายเป็น “กองทัพปฏิวัติ” ทำหน้าที่ปฏิวัติสังคม ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ปลอดภัย  โดยไม่มีอาวุธอยู่ในมือ ไม่ว่ากรณีใดๆ
แต่ช้าแต่...ในห้วงเวลาเดียวกันนี้ จะมี “กองกำลังนักรบศรีวิชัย” และกองกำลังปฏิวัติเพื่อ พิทักษ์สยามเกิดขึ้น (มีอาวุธครบ)โดยจะทำงานให้แล้วเสร็จภายใน ๖ ชั่วโมง แล้วประกาศจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ  ให้คนเสื้อแดง “มอบตัว” หรือถวายตัวเพื่อความมั่นคงของสถาบันต่อไป
ผู้ใดขัดขืน ...จัดการอย่างเด็ดขาด  ใครสวามิภักดิ์ จะรอด
ปัญหา มีอยู่ว่าคณะปฏิวัติจะวางแผนเอาไว้ตามที่ผมรายงานให้ท่านทราบนี้จริงหรือไม่ หรือว่ามันเป็นเพียงการ “ปั้นน้ำให้เป็นตัว” เขียนเสือให้วัวกลัว อะไรทำนองนั้น ?
ท่านผู้อ่านจะมีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรมิทราบ ?
แต่ สำหรับผม...ผมเชื่อว่าเขาทำของเขาแน่ ? ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง ถ้าพวกเขาทำจริงก็อาจจะเกิดสงครามนองเลือดระหว่างคนเสื้อเหลืองกับคนเสื้อ แดง  ปัญหามีอยู่ว่าคนเสื้อแดงจะยอมเชื่อในข้อเขียนของผมหรือไม่ ? 

“สอาด จันทร์ดี”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น