วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

แมลงสาปจอมลวงโลก


กล้องCCTVกทม.มีแต่กล่องเปล่า ใต้ป้าย"CCTV ครบแล้ว 10,000 ตัว"
        เว็บดังแฉ พบกล้องCCTVกทม.มีแต่กล่องเปล่า ใต้ป้าย"CCTV ครบแล้ว 10,000 ตัว" ด้าน มรว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร แจง กำลังไล่ติดเพิ่ม
        จากกรณีที่เว็บไซต์พันทิป ห้องรัชดา ได้มีผู้ใช้นามแฝงว่า "50 first date" ตั้งกระทู้ในหัวข้อ "เกิดอะไรขึ้นกับกล้องวงจรปิดของ กทม.ครับ" เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า "วันก่อนเดินขึ้นสะพานลอยเห็นกล้องวงจรปิดตั้งสี่ตัวก็รู้สึกอุ่นใจมากเลย แต่พอสังเกตดี ๆ ดูมันแปลก ๆ เดินเข้าไปดูใกล้ ๆ อ้าวมีแต่กล่องนี่นา นึกว่า มีใครขโมยไป พอไปดูอีกหลาย ๆ แห่งก็ไม่มีกล้องเหมือนกัน แล้วอย่างนี้จะดูแลกันยังไงครับ" พร้อมรูปถ่ายภาพกล้องวงจรปิด ที่มีแต่กล่องเปล่า โดยระบุว่า เป็นภาพที่ถ่ายมาจากกล้องวงจรปิด บนถนนสาทร โดยโคนเสาที่ติดตั้งกล้องดังกล่าว มีป้ายโฆษณาของ กทม. เขียนข้อความว่า "CCTV ครบแล้ว 10,000 ตัว" ขณะที่กล้องวงจรปิด CCTV ที่อยู่บนเสาดังกล่าว มีแต่กล่องเปล่า ไม่มีกล้องอยู่ภายใน
         ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (19 ก.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เมื่อวันที่ 17 ก.ย.54 เวลา 19.40 น. ผ่านเฟซบุ๊ค "The Bangkok Governor" โดยตั้งหัวเรื่องว่า "กล้อง CCTV เปล่า" ว่า "กรณีกล้อง CCTV ที่เป็นประเด็นใน pantip.com ในขณะนี้ ผมขออธิบายอีกครั้งนะครับว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องการโกงกินหรือการโกหกผลงาน แต่เดิมนั้น ได้มีการติดตั้งกล้องเปล่าในบางจุดเพื่อความปลอดภัย พอมาสมัยผม ผมได้ผลักดันตามคำสัญญาของผมว่า ผมจะทำให้กล้อง CCTV ในกรุงเทพฯมีให้ครบ10,000ตัว ซึ่งผมก็ได้ทำตามนั้นแล้วคือมีกล้องCCTVจริง ทำงานได้จริงครบ10,000ตัว
        ต่อมา ผมเห็นว่า เป็นเรื่องที่มีประโยชน์ทั้งด้านความปลอดภัย หลักฐานการสืบค้น และจราจร ผมเลยผลักดันให้มีการติดกล้อง CCTV ให้ถึง 20,000 ตัว ก่อนผมจะหมดวาระ ในอีก 14 เดือน
         ณ วันนี้ กทม.กำลังดำเนินการติดกล้องเพิ่มเติมตามนโยบาย แต่ยังมีกล้องเปล่าอยู่ประมาณ 500 จุด (จากการติดกล้องเปล่าแต่เดิม) ที่เรากำลังไล่ติดกล้องเข้าไปในกล้องเปล่าที่มี และเพิ่มในจุดต่าง ๆ จากงบประมาณที่ได้จัดสรรเพิ่มเติมไป การติดป้ายผลงานตามนโยบาย ทางผู้ติดคงบังเอิญไปติดใต้กล้องที่เป็นกล้องเปล่า
        ขออนุญาตเรียนอธิบายต่อพี่น้องชาวกทม.มาดังนี้นะครับ และขอขอบพระคุณที่ช่วยดูแลการทำงานของกทม. หากพบเรื่องใดหรือพบกล้องเปล่าเพิ่มเติมอีก โปรดกรุณาแจ้งผมทราบด้วยครับ เพราะผมไม่ได้มีนโยบายการมีกล้องเปล่าในกทม.ครับ"

กทม.ฉาว! ถูกแฉกล้องCCTVมีแต่กล่อง        ด้าน นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า โครงการดังกล่าวได้เกิดขึ้นในสมัยที่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. โดยสำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อดูแลพื้นที่กทม. โดยเฉพาะช่วงที่มีการชุมนุมทางการเมือง เดือนเม.ย. 2552 เป็นต้นมา แต่ปรากฏว่าทางกทม.ในขณะนั้นไม่มีงบประมาณเพียงพอ จึงได้มีแนวคิดให้ติดตั้งกล้องหลอกหรือกล้องดัมมี่ ในการเฝ้าระวังพื้นที่เพื่อให้ผู้ชุมนุมเกรงกลัวในการกระทำความผิดต่อชีวิตและทรัพย์สิน
      "ในยุค ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. มีโครงการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (ซีวีทีวี) ในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามนโยบายประชาวิวัฒน์ของรัฐบาล 2 หมื่นตัว ทั่วกทม. และมีการตั้งป้ายประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง  แต่เจ้าหน้าที่นำป้ายประชาสัมพันธ์ไปติดที่เสาของกล้องดัมมี่ จึงทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด จึงได้สั่งการให้ สจส. เร่งแก้ไขและชี้แจงประชาชนโดยเร็วที่สุด"นายธีระชน กล่าว


4สัญญาCCTVฉาวกทม.โต้ใช้งานได้

กทม.โร่แจงกล้อง CCTV ปี’53 ใช้งานได้จริง ยันต่อสายไฟเรียบร้อย ด้าน ปลัดกทม. สั่งตั้งกก.สอบทีโออาร์ ถกนัดแรก 27 ก.ย.นี้ เผย 4 สัญญา 'กล้องดัมมี่' ฉาว กทม.สั่งรื้อถอนเร่งด่วน

          นายสุธน อาณากุล ผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบจราจร สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ออกมาระบุได้ตรวจสัญญาจ้างเหมาซื้อกล้องซีซีทีวีของกทม.ในสัญญาปี 2553 วงเงิน 126 ล้านบาท แต่เมื่อมีการสุ่มตรวจกลับพบกล้องบางตัวไม่ได้บรรจุไฟ ว่า ในปี 2553 กทม.มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีตามนโยบายไทยเข็มแข็ง3


         โดยโครงการแรกที่เป็นข่าวคือ โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี เพื่อรายงานตรวจวัดและรายงานสภาพจราจร วงเงินทั้งสิ้น 126,800,000 บาท โดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. อนุมัติจ้าง บ.เอเอ็มอาร์ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2553 ลงนามสัญญาวันที่ 30 มี.ย.2553 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 27 ธ.ค.2553
          ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ยืนยันว่า โครงการนี้การไฟฟ้านครหลวงได้มาดำเนินการติดตั้งสายไฟเป็นที่เรียบร้อยครบหมดแล้วเมื่อต้นปี 2554 ซึ่งสามารถดูการจราจรได้จากกล้องทั้งหมด 86 ตัว ติดตั้งตามแยกสำคัญๆ 50 จุดในกทม. ซึ่งขณะนี้สามารถเปิดให้ประชาชนเข้าไปดูการใช้งานได้ที่เว็บไซด์สำนักการจราจรและขนส่ง www.bmatraffic.com

สำหรับ โครงการที่สอง คือ โครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี เพื่อตรวจสอบและสั่งการแก้ไขจราจร วงเงินทั้งสิ้น 168,155,000 บาท โดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้อนุมัติจ้าง บ.จีเนียส ทราฟฟิค เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2553 ลงนามสัญญาวันที่ 30 มิ.ย.2553 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 27 พ.ย.2553 ซึ่งโครงการนี้ได้ตรวจรับงานเมื่อวันที่ 25 มี.ค.2554 แต่รอดำเนินการติดสายไฟ และอยู่ระหว่างการประสานงานกับการไฟฟ้านครหลวงเพื่อดำเนินการติดตั้ง
          ขณะที่ โครงการที่สาม คือโครงการติดตั้งกล้องซีซีทีวี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความมั่นคงบนถนนสายหลักและส่งเสริมการท่องเที่ยว วงเงินทั้งสิ้น 188,000,000 บาท โดยโดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ได้อนุมัติจ้าง บ.จีเนียส ทราฟฟิค เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2553 ลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2553 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 27 ธ.ค.2553 ซึ่งโครงการที่สามนี้ก็อยู่ระหว่างการประสานงานกับการไฟฟ้านครหลวงเพื่อดำเนินการติดตั้งเช่นกัน
          นายสุธน กล่าวด้วยว่า กรณีข่าวที่เกิดขึ้น อาจมีการคลาดเคลื่อนในรายละเอียด เพราะยังมีโครงการที่ยังไม่ได้ต่อสายไฟอยู่จริงอีก 2 โครงการ แต่โครงการกล้องซีซีทีวีวงเงิน 126 ล้านบาทนั้นสามารถใช้การได้แล้ว
          อย่างไรก็ตาม 3 โครงการ กทม.ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงินให้ทางเอกชนแต่อย่างใด เพราะอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง และต้องประสานไปกับรัฐบาล เนื่องจากเป็นงบที่รัฐบาลได้สนับสนุน
          ส่วนกรณีที่ สตง.ได้มาตรวจสอบ ก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นหน้าที่และการทำงานของสตง.อยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ นายธีรชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. ต้องการให้กทม.เร่งชี้แจง เรื่องโครงการกล้องซีซีทีวีโดยเร็วที่สุด เพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายว่า กทม.ดำเนินการทุกอย่างโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้จริง
          ด้านนายเจริญรัตน์ ชูติกาญจน์ ปลัดกทม. กล่าวว่า ตามที่ มรว.สุขุมพันธุ์ ได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น เขาได้ตั้งนายสมภพ ระงับทุกข์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนระยะเวลาการสอบข้อเท็จจริง ก็ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง แต่ก็ได้เร่งให้ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงให้รวดเร็ว
          "การสอบข้อเท็จจริง จะสอบตามกรณีที่เป็นข่าว จากนั้นก็จะดูข้อเท็จจริง ซึ่งจะสอบสวนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการประจำ หรือข้าราชการฝ่ายการเมือง อย่างไรก็ตาม อย่าไปสมมุติว่า การสอบนั้นจะพบการทุจริต แต่ขอให้รอดูผลสอบข้อเท็จจริงต่อไป"
          ขณะที่นายสมภพ ระงับทุกข์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กทม. กล่าวถึงการกรณีที่มรว.สุขุมพันธุ์ สั่งให้มีการตั้งคณะกรรมสอบสวน "กล้องดัมมี่" ว่า วันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น.ได้มีการประชุมคณะกรรมการเป็นนัดแรก โดยมีการกำหนดกรอบการทำงานว่า คณะกรรมการชุดนี้ จะตรวจสอบข้อมูลในส่วนใดบ้าง
          อาทิ มีโครงการดังกล่าวจริงหรือไม่ ใช้งบประมาณเท่าไหร่ หรือรายละเอียดการกำหนดคุณสมบัติการประกวดราคา(ทีโออาร์) เป็นอย่างไร มีเอกชนรายใดเข้าร่วมประกวดราคาบ้าง และเอกชนรายใดเป็นผู้ชนะการประกวดราคา กระทั่งในสัญญามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง เป็นต้น
          ทั้งนี้ จะมีการประชุมนัดต่อไปวันที่ 27 ก.ย.นี้ โดยจะเรียกนายอรวิทย์ เหมะจุฑา รองผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง และผู้อำนวยการกองพัฒนาระบบจราจร สจส.เข้าร่วมให้ข้อมูลโครงการ
          อย่างไรก็ตาม ปลัดกทม. ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาการตรวจสอบ แต่เร่งให้ดำเนินการแล้วเสร็จให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง

เปิด 4 สัญญากล้องดัมมี่ฉาว กทม.สั่งเร่งรื้อถอนเร่งด่วน หวั่นปชช.สับสน
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือซีซีทีวี พร้อมอุปกรณ์กล้องดัมมี่ ของกรุงเทพมหานคร(กทม.) จากสัญญาจ้างเหมา 4 โครงการ ประกอบด้วย
          1.โครงการจ้างเหมาติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี พร้อมอุปกรณ์ประกอบและการเชื่อมโยงสัญญาณไปยังสำนักงานเขตพระนคร และสำนักงานดุสิต จำนวนกล้องติดจริง 347 ตัว และจำนวนกล้องดัมมี่ 242 ตัว ราคาตัวละ 2,900 บาท รวมเป็นเงิน 701,800 บาท
          ทั้งนี้ มี นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ เป็นผู้อนุมัติจ้าง โดยเงินงบกลางรายการเงินสำรองทั่วไปกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ในลักษณะหมวดรายจ่ายอื่นลงนามสัญญาวันที่ 25 ธันวาคม 2550 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 23 เมษายน 2551 โดยมีนายรัฐพล มีธนาถาวร เป็นผู้ลงนามสัญญา และบริษัทจีเนียส ทราฟฟิค ซีสเต็ม จำกัด เป็นผู้รับจ้าง มูลค่าสัญญา 106,900,000 บาท
          2.โครงการจ้างเหมาติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี รวมอุปกรณ์การทำงานในพื้นที่ 1 ได้แก่ ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์ จตุจักร บางซื่อ ปทุมวัน ราชเทวี พญาไท ดินแดง ห้วยขวาง และคลองเตย จำนวนกล้องติดจริง 533 ตัว และจำนวนกล้องดัมมี่ 373 ตัว ราคาตัวละ 2,700 บาท รวมเป็นเงิน 1,007,100 บาท
          ทั้งนี้ มี นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ เป็นผู้อนุมัติจ้าง จากเงินอุดหนุนจากรัฐบาลปี 2549 ลงนามสัญญาวันที่ 2 กันยายน 2552 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 1 ธันวาคม 2552 โดยมีนายจุมพล สำเภาพล เป็นผู้ลงนามสัญญา และบริษัทจีเนียส ทราฟฟิค ซีสเต็ม จำกัด เป็นผู้รับจ้าง มูลค่าสัญญา 67,800,000 บาท
          3.โครงการจ้างเหมาติดตั้งกล้องวงจรปิด หรือซีซีทีวี รวมอุปกรณ์การทำงานในพื้นที่ 2 ได้แก่ สาทร บางรัก วัฒนา ยานนาวา บางคอแหลม บางนา คลองสาน ธนบุรี บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย บางพลัด จอมทอง ภาษีเจริญ หลักสี่ ลาดพร้าว สายไหม ดอนเมือง บางกะปิ วังทองหลาง สะพานสูง บึงกุ่ม สวนหลวง ประเวศ มีนบุรี ตลิ่งชัน บางบอน ทุ่งครุ และทวีวัฒนา คลองเตย จำนวนกล้องติดจริง 490 ตัว และจำนวนกล้องดัมมี่ 343 ตัว ราคาตัวละ 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,029,000 บาท
          ทั้งนี้ มี นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ เป็นผู้อนุมัติจ้าง จากเงินอุดหนุนจากรัฐบาลปี 2549 ลงนามสัญญาวันที่ 7 กันยายน 2552 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 6 ธันวาคม 2552 โดยมีนายจุมพล สำเภาพล เป็นผู้ลงนามสัญญา และบริษัทเอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด เป็นผู้รับจ้าง มูลค่าสัญญา 66,240,000 บาท
          4. โครงการจ้างเหมาติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือซีซีทีวี พร้อมอุปกรณ์การทำงาน ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นจำนวนกล้องจริง 676 ตัว จำนวนกล้องดัมมี่ 367 ตัว ราคาตัวละ 2,900 บาท รวมทั้งสิ้น 1,064,300 บาท มีนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ เป็นผู้อนุมัติจ้าง จากเงินอุดหนุนจากรัฐบาลปี 2550 ลงนามสัญญาวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 15 เมษายน 2553
          ทั้งนี้ มี นายวินัย ลิ่มสกุล เป็นผู้ลงนามสัญญา และกิจการค้าร่วม ทีเอ็นบี เป็นผู้รับจ้าง มูลค่าสัญญา 86,664,069.85 บาท
          อนึ่ง รวมจำนวนกล้องจริง 2,046 ตัว และจำนวนกล้องดัมมี่ 1,325 ตัว โดยโครงการที่ 1 และ 3 ได้มีการรื้อย้ายอุปกรณ์หุ้มกล้องดัมมี่ออกแล้วทั้งหมด เพื่อป้องกันการสับสนของประชาชน ส่วนโครงการที่ 2 และ 4 ได้มีการรื้อย้ายอุปกรณ์หุ้มกล้องดัมมี่ออกบางส่วน และมีคงเหลืออยู่ในพื้นที่โครงการประมาณ 500 ชุด เพื่อใช้ในการป้องปรามอาชญากรรมในพื้นที่ดังกล่าว จนกว่าจะมีการติดตั้งกล้องจริง
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น