วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

คนเสื้อแดงกับท่านทักษิณ ณ กรุงพนมเปญ


คนเสื้อแดงกับท่านทักษิณ ณ กรุงพนมเปญ รายงานโดย สอาด จันทร์ดี

      คนเสื้อแดงแห่ไปพบ ฯพณฯ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ที่พนมเปญ

      ยอมเสียเงินนั่งเครื่องบินทั้งไปและกลับ นอนโรงแรมราคาแพงอีกต่างหาก

      เป็นคำตอบที่เข้าใจง่ายว่าเหตุไรคนเสื้อแดงจึงลงทุนแพงขนาดนั้น

      คำตอบก็คือ คนเสื้อแดงได้ยินแต่เสียงโฟนอิน และได้รับชมภาพวิดีโอลิงค์ที่ส่งข้ามแดนมาทักทายพี่น้องคนเสื้อแดงในวาระต่างๆ นับครั้งไม่ถ้วน โดยไม่มีโอกาสได้โอบกอดแม้แต่เงา ดังนั้นเมื่อมีข่าวว่าท่านทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางไปแสดงสุนทรพจน์โชว์วิสัยทัศน์เรื่อง “ศตวรรษแห่งอาเชียน :ความท้ายทายและความหวัง” ก็จะได้พบกับคนที่ตนรัก และอาจจะได้โอบกอดตัวเป็นเป็น จึงพากันแห่ไปดักรอท่านที่โรงแรมพนมเปญ [Phnom Penh Hotel] ประเทศกัมพูชา

                ผมกับมหากมล ศรีนอก เห็นว่าในบรรยากาศเช่นนี้ เป็นของหาได้ยาก จึงพากันเดินทางไปทำข่าวให้กับสถาบัน “พีเพิ่ล ออน ไลน์” ของคนเสื้อแดง เพื่อจะได้เก็บข่าวในหลายแง่มุมเอามารายงานให้พ่อแม่พี่น้องที่ไม่ได้ไปกับเขา จะได้สัมผัสกับภาพนอกพื้นที่/ที่อยู่ในประเทศอื่น และจะได้รู้ว่าพลังของคนเสื้อแดงมีความพร้อมทั้งในทางการเมืองและในทาง “รุกรบ” อย่างไร

                ต่อไปนี้เป็นรายงานข่าว

                วันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๕๔ พวกเรานั่งเครื่องบินสาย แอร์ เอเชีย เที่ยวบิน FD 3616 บินลัดฟ้าถึงกรุงพนมเปญ แล้วนั่งแท็กซี่ต่อไปโรงแรมตามที่ได้นัดหมายกันไว้ด้วยความรู้สึกร่าเริงอย่างยิ่ง แม้แต่คนไปทำข่าวก็พลอยตื่นเต้นไปกับเขาด้วย

                โรงแรมพนมเปญ เป็นโรงแรม ๕ ดาวที่โอ่อ่าที่สุดของกัมพูชา ราคาห้องอย่างต่ำคืนละ ๗๕ เหรียญ แต่เนื่องจากห้องไม่พอกับแขก จึงเพิ่มเตียงอีกต่างหาก ราคาก็แพงขึ้นเตียงละ ๒๕ เหรียญ

                คนเสื้อแดงไม่รู้มาจากไหนบ้าง แน่นโรงแรมจนไม่มีที่ยืน

                ได้พบ “ขวัญชัย ไพรพนา” แกนนำ นปช. จังหวัดอุดร อยู่ในโรงแรมก่อนเพื่อน พร้อมกับคนเสื้อแดงจากอุดรธานี ตามด้วย นายแพทย์ เหวง โตจิราการ ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย คุณธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธาน นปช. และคุณสุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตรัฐมนตรีการคลัง ปัจจุบัน เป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  พ.ต.ต. เสงี่ยม สำรัญรัตน์ ชินวัฒน์ หาบุญพาด สนอง การะเกษ เป็นต้น

                ขณะที่ท่านทักษิณ ยังไม่ปรากฏตัว ประดาคนเสื้อแดงต่างพากันถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึกด้วยความสนุกสนาน ได้พบกับทนายเสื้อแดง “คารม พลพรกลาง”ผู้น่ารักของคนเสื้อแดง รวมทั้งเป็นทนายที่ได้รับความศรัทธาจากมวลชนอย่างยิ่ง

                พวกเราถ่ายรูปกันไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะเมื่อได้พบกับนักการเมือง (ส.ส.) ของคนเสื้อแดง เช่น

พลตำรวจเอก วิรุฬห์ พื้นแสน ส.ส. รัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ส.ส. จตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส. ก่อแก้ว พิกุลทอง และ ส.ส.จ.ส.ต. ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ก็พากันถ่ายรูป ถ่ายแล้วถ่ายอีก

                บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น ได้พบกับนักเศรษฐศาสตร์ใหญ่ เจ้าของโรงพิมพ์ที่ ศอฉ. สั่งปิดแท่นพิมพ์ คือคุณภักดี ธนะปุระ และยังได้พบคุณแม่เสื้อแดงขนานแท้และดั้งเดิม คือ ม.ล. นลินี พัสดินทร หรือ “วัฒนสุข” กับ ผศ. วิไลลักษณ์ ทรัพย์มณี เจ้าของโรงแรมตองบีช ภูเก็ต

                ยังมีอีกมากท่านที่ไม่อาจรายงานได้หมด เช่นคุณทวี สุรบาล มุก เมทะนี “สหายสมตา สุวรรณทิพย์ 
คุณเรือนแก้ว สีหาคิม คุณอรัญญา สกุลโกศล (คุณแม๊บ) เป็นต้น

                เวลาประมาณ ๑๘.๓๐ น. ก็มีข่าวแจ้งเข้ามาว่า ฯพณฯ สมเด็จ ฮุนเซน กับ ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร จะเดินทางมาถึงโรงแรม ดร. อัครเรศน์ คณะทำงานส่วนตัวของท่านทักษิณ จึงรีบนำพาพวกเราเข้าไปในห้องรับรองขนาดใหญ่ ซึ่งได้จัดโต๊ะอาหารเอาไว้ประมาณ ๘๐๐ โต๊ะๆละ ๘ ที่นั่ง

                นาทีต่อมา พี่น้องคนเสื้อแดง พากันเข้าไปอยู่ในห้อง ได้รับฟังโฆษกบนเวที (ส.ส. จสต. ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ) ส.ส. พรรคเพื่อไทย จังหวัดสุรินทร์ แจ้งให้ทราบว่า ขอให้อยู่กันอย่างเป็นระเบียบ โปรดอย่าลุกวิ่งเข้าไปหาท่านทักษิณ เพราะว่าสมเด็จฮุนเซนท่านมากับท่านทักษิณของเราด้วย

                ทุกคนเงียบกริบ บรรยากาศเต็มเปี่ยมไปด้วยความชุ่มฉ่ำ

                เวลา ๑ ทุ่ม (๑๙.๐๐ น.) บุคคลสำคัญทั้งสองก็มาถึง นั่งอยู่ที่โต้ะรอบนอก คนละฝั่งกับเวทีดนตรี  ทุกคนดีใจเป็นที่สุด แต่ไม่มีท่านผู้ใดลุกออกจากที่นั่ง

                ไม่นานก็ได้ยินเสียงของ ส.ส. จ่าประสิทธิ์ ไชยศรี ประกาศให้ทราบว่า บัดนี้บุคคลสำคัญได้มาอยู่ใน ท่ามกลางของพี่น้องคนเสื้อแดงจากประเทศไทยแล้ว เสียงปรบมือดังกระหึ่มไปทั้งห้อง ต่อจากนั้นก็เป็นการกล่าวสุนทรพจน์ของ ฯพณฯ สมเด็จ ฮุนเซน

                ส.ส. จ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ เป็นล่ามในพิธีอันมีเกียรตินี้
                ผมเก็บข่าวโดยย่อได้ความว่า ท่านสมเด็จฮุนเซน เข้าใจในเรื่องราวของประเทศไทย เข้าใจปัญหาทุกอย่าง ท่านรัก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร และพร้อมเสมอที่จะเปิดประเทศต้อนรับเสมือนเป็นพี่กับน้องแล้วก็ได้กล่าวแสดงความรักต่อพี่น้องคนเสื้อแดงที่พากันมาแสดงความรักในประเทศกัมพูชา

                ส.ส. จ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ เป็นล่ามภาษาเขมรได้ยอดเยี่ยม

                หลังจากนั้นก็ได้เป็นล่ามแปลกจากภาษาไทยเป็นภาษาเขมรที่ ฯพณ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ได้กล่าวขอบคุณ สมเด็จฮุนเซน ซึ่งท่านทักษิณ ได้กล่าวว่าผู้นำของ ๒ ประเทศที่รักกันเหมือนพี่น้อง คนที่ ๑ คือสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งประเทศบรูไน คนที่ ๒ คือตัวของท่านทักษิณเอง และคนที่ ๓ คือสมเด็จ ฮุนเซนแห่งประเทศกัมพูชา

                เสียงปรบมือดังกึกก้องในห้องประชุมอันโอ่อ่า
                หลังจากนั้น ก็มีการเสิร์ฟอาหาร ไวน์แดง และเครื่องดื่ม
                โดยมีรอช้า...ผมถือโอกาสเดินเก็บภาพทุกโต๊ะเอาไว้ด้วยความดีใจอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสได้เห็นท่านทักษิณ นั่งอยู่กับสมเด็จฮุนเซน โดยมี่บุคคลสำคัญร่วมโต๊ะอาหารอยู่ด้วย ๕ ท่านด้วยกัน

                ผมเดินไปเก็บภาพเอาไว้ แต่ไม่ได้เข้าไปใกล้

                การบริหารข้าวปลาอาหาร กินเวลาประมาณ ๑ ชั่วโมง ท่านสมเด็จฮุนเซนก็อำลากลับพร้อมกับท่านทักษิณของเรา...ต่อจากนั้น...พวกเราก็พากันหันหน้าไปทางเวทีดนตรีโดยมีนักร้องคนเก่งของคนเสื้อแดงมาขับกล่อมประเดิม คือ “วันชนะ เกิดดี”  กับมุก เมทะนี

                ขณะจากเวทีดนตรีกำลังขับกล่อมกันอยู่นั้น บรรยากาศอันไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น ปรากฏว่า ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง ทำให้พี่น้องเสื้อแดงตื้นเต้นดีใจยิ่งนัก ใครเห็นก็อยากเข้าไปกอด ใครอยู่ใกล้ก็อยากถ่ายรูปด้วย

                ส.ส. จ่าประสิทธิ์ ไชยศรีษะ จึงประกาศขอให้อยู่แต่ในที่ อย่าลุกออกมา แล้วเชิญท่านอดีตนายกขึ้นเวที กล่าวคำปราศรัย แสดงความชื่นชมในการเสียสละอันยิ่งใหญ่ของคนเสื้อแดงทั้งประเทศ ตัวของท่านเองจะไม่มีวันลืมบุญคุณของประชาชน

                หลังจากนั้นท่านทักษิณก็ได้ร่วมร้องเพลงบนเวทีอย่างสนุกสนาน

            นักร้องของเรา แห่ขึ้นไปบนเวทีด้วยความอิ่มเอิบอย่างยิ่ง “คุณดารณี” แกนนำหญิงที่หายหน้าไปจากประเทศไทย โผล่เข้ามาในงาน รวมทั้งกีร์ (อริสมันตร์ พงศ์เรืองรอง) ก็ยืนดีดกีต้าร์ ขับกล่อมคนเสื้อแดงราวกับอยู่ในท่ามกลางของสโมสรสันติภาพ ที่เพิ่งจะเสร็จสิ้นภารกิจจากสนามรบ

                เพลงแล้วเพลงเล่าที่ท่านทักษิณร่วมขับกล่อมกับพวกเรา ผมเฝ้าสังเกตอยู่ตรงนั้น เข้าใจได้เลยว่าท่านเต็มใจที่จะอยู่กับมวลมหาประชาชน และจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับมวลมหาประชาชนอย่างไม่มีวันพลัดพรากจากกัน การแสดงออกที่ประเทศกัมพูชาในคืนนี้ ที่จะมีคลิปเผยแพร่ออกสู่สายตาของพ่อแม่พี่น้อง คงจะเป็นเสมือนความรัก และความอาลัยอาวรณ์ที่มีต่อพี่น้องคนไทยทุกคน

                ใจของผมในฐานะคนที่ไปทำข่าว เห็นแล้วก็สุดแสนจะหวังเหวิด 

                มันหวังเหวิดต่อชะตากรรมของคนไทยที่ต้องอาศัยแผ่นดินของประเทศอื่นเพื่อการพบปะสังสรรค์ในขณะแผ่นดินแม่ของเราแท้ๆกลับเป็นดินแดนต้องห้าม ?!

                ความสนุกบนเวทีผ่านไปจนถึง ๒๒.๓๐ น. จึงได้ปิดฉากลง

                โดยมีการนัดหมายว่าในวันรุ่งขึ้น...๑๘ กันยายน ๒๕๕๔ ท่านจะกลับมาพบปะคนเสื้อแดงอีกครั้งหนึ่งไม่เกิน ๑๐.๐๐ น. ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น กล่าวคือท่านทักษิณ ได้พูดจาหลายเรื่อง (ผมไม่ขอนำเอามาเสนอ เพราะเสนอแล้วไม่ครบ) จะขอรายงานแต่เพียงว่า พี่น้องเสื้อแดงได้ถ่ายรูปร่วม คนแล้วคนเล่า จนกระทั่งคนสุดท้าย กินเวลา ๒ ชั่วโมงเต็ม

                ท่านอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ยิ้มด้วยใบหน้าสมหวัง มั่นใจว่าไม่นานคงได้กลับประเทศไทย
                                                                                                “สอาด จันทร์ดี”
http://redusala.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น