วันอังคารที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2554

แม่จ๋า พ่อจ๋า ช่วยหนูด้วย หนู๋หาทางลงไม่เจอ
http://www.siamintelligence.com/pad-to-cease-the-protest/


หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์หน้าหนึ่ง ฉบับวันจันทร์ที่ 28 มีนาคม 2554 ได้รายงานข่าวในหัวข้อ “Poor support could spell death knell for the PAD” ใจความโดยสรุปว่า มีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อาจจะยุติการชุมนุมภายในวันที่ 6 เมษายน นี้  ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้จะมีการประกาศโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล และ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง หลังจากมีการเดินขบวนเพื่อยื่นฎีกากรณีพื้นที่ความขัดแย้งปราสาทพระวิหารต่อสำนักพระราชวังแล้ว

พันธมิตรทำดีที่สุดแล้ว จำลองบอก

บางกอกโพสต์ยังได้อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวซึ่งใกล้ชิดกับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยว่า ทั้งนายสนธิ และ พล.ต. จำลอง จะพยายามโน้มน้าวให้แกนนำพันธมิตรฯ รายอื่นยอมรับการยุติการชุมนุมในครั้งนี้ด้วย โดย พล.ต. จำลอง ได้กล่าวกับแหล่งข่าวว่าพันธมิตรฯ ได้ทำทุกอย่างเต็มที่อย่างดีที่สุดแล้ว แต่พวกเขาจำเป็นต้องยุติการชุมนุม ในขณะที่นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกของกลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงยืนยันว่าพันธมิตรฯ จะยังทำการชุมนุมเพื่อกดดันรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง จนกว่ารัฐบาลจะยอมรับข้อเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯ

พันธมิตรกดดันเดินคู่แนวทางปฏิรูป : พิภพ

ทั้งนี้หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ยังได้ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์นายพิภพ ธงไชย หนึ่งในห้าแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ในชื่อ The bloodless path to overthrowing the status quo ด้วย โดยนายพิภพได้ให้ความเห็นในเชิงบวกต่อการเคลื่อนไหวเรื่องสมัชชาปฏิรูป ที่นำโดย ศ. นพ. ประเวศ วะสี และคณะกรรมการปฏิรูปที่นำโดย นาย อานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเขาได้ให้ความเห็นว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ในข้อเสนอ “No vote” และข้อเสนอการปฏิรูปของสมัชชาปฏิรูป จะเป็นการเคลื่อนไหวที่สามารถเดินคู่ขนานไปด้วยกันได้ และในท้ายที่สุดจะเป็นแรงกดดันต่อนักการเมืองให้ต้องทำการปรับตัว

ชัยอนันต์-พลเดช : พรรคการเมืองจะรับแนวปฏิรูป

บทสัมภาษณ์นายพิภพในข้อนี้ สอดคล้องกับบทวิเคราะห์จากข้อเขียน “อย่าเป็นห่วงการเมืองไทย” ของ ศ.ดร. ชัยอนันต์ สมุทวณิช ในหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ  ซึ่งให้ความเห็นว่าบทบาทของคณะกรรมการปฏิรูป และสมัชชาปฏิรูปจะเป็นสะพานเชื่อมโยงระหว่างภาคการเมืองกับภาคประชาชน ซึ่งจะเป็นเส้นทางการปฏิรูปการเมืองที่สันติ
อนึ่ง นพ. พลเดช ปิ่นประทีป อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็ได้กล่าวในเวที “ผู้นำ-ผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่น 2″ ซึ่งจัดขึ้นโดยมูลนิธิสัมมาชีพ และหนังสือพิมพ์มติชน ว่าการเมืองหลังจากการเลือกตั้ง ต่อแต่นี้ไม่ว่าฝ่ายใดจะขึ้นมาก็ตาม ฝ่ายการเมืองจะเผชิญแรงกดดันจากทั้งปีกมวลชนของฝ่ายเสื้อเหลือง และฝ่ายเสื้อแดง จึงอาจไม่มีทางเลือกมากนัก จำเป็นจะต้องยอมรับข้อเสนอการปฏิรูปการเมืองจาก สมัชชาปฏิรูป ที่นำโดย ศ.นพ. ประเวศ วะสี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น