ใหญ่จริงๆ ศอ.รส ประกาศห้ามชาวบ้าน ใช้ถนนรอบบ้านนายก! ศอ.รส ประกาศ ห้ามใช้ถนนรอบบ้านนายก อ้างรักษาความปลอดภัยประมุขฝ่ายบริหาร ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) ในวันนี้(8 มี.ค.) ที่ประชุม ศอ.รส.ได้ออกประกาศ ศอ.รส.ฉบับที่ 4/2554 เรื่อง ห้ามการใช้เส้นทางการคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ(เพิ่มเติม) รายละเอียดในประกาศ ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ในเส้นทางถนนสุขุมวิท จากปากซอยสุขุมวิท 39 ถึงปลายซอยสุขุมวิท 39 ตัดถนนเพชรบุรี บริเวณถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 33 ถนนสุขุมวิท ซอยสุขุมวิท 31 ตั้งแต่ปากซอยถึงปลายซอยสวัสดี และทางลัดซอยสุขุมวิท 39 ตั้งแต่แยกพร้อมศรี ถึงแยกโรงเรียนสวัสดี โดยให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้สื่อข่าวถามว่า ศอ.รส.จะมีประกาศห้ามบุคคลเข้าถึงตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญและนายกรัฐมนตรี ทาง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งกำชับให้ตำรวจในพื้นที่ ที่นายกฯจะเดินทางไปเพิ่มความเข้มงวด ส่วนจะสามารถเข้าถึงตัวนายกฯ ได้หรือไม่นั้น จะมีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เช่น รปภ.นายกฯ และทีมงานเลขานุการทำหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง ในส่วนตำรวจได้เพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัย โดยในทำเนียบรัฐบาลได้สั่งการให้ตำรวจสันติบาลเพิ่มความเข้มงวดตรวจตราบุคคลเข้าออกและการดูแลรักษาความปลอดภัย ส่วนกรณีมีประชาชนถือป้ายแสดงความคิดไม่เห็นด้วยกับนายกฯนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการพิจารณาว่าเป็นข้อความที่หยาบคายและเหมาะสมหรือไม่ เมื่อถามอีกว่า การประกาศห้ามใช้พื้นที่รอบบ้านนายกฯ จะกระทบกับภาคเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประขาชนโดยรวมหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวยืนยันว่า รถทุกคันยังสามารถวิ่งผ่านเข้าออกบริเวณดังกล่าวได้ ทาง ศอ.รส.ไม่ได้ห้าม แต่จะกั้นและจำกัดพื้นที่ในบางโอกาส เช่น กรณีมีบุคคลต้องสงสัยอาจจะเข้ามาก่อความไม่สงบ หรือมีมูลเหตุไม่น่าไว้วางใจ กรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่จะใข้ดุลยพินิจพิจารณาอีกครั้ง เมื่อถามต่อว่า ในอนาคตหากนายกฯจะเดินทางไปที่ใด จะต้องประกาศเป็นพื้นที่หวงห้าม ไว้รองรับใช่หรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า ไม่ใช่อย่างนั้น ประกาศฉบับดังกล่าวเป็นเพียงการควบคุมพื้นที่บ้านพักของนายกฯ ในฐานะประมุขฝ่ายบริหารของประเทศเท่านั้น ประกอบกับทางเข้าบ้านพักของนายกฯเป็นซอยที่มีขนาดเล็ก ถ้าหากมีบุคคลเข้าไปก่อกวนหรือสร้างความวุนวายก็อาจกระทบกับบุคคลที่พักอาศัย ดังนั้นจึงต้องมีการออกประกาศเพิ่มเติมดังกล่าว พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงซึ่งเป็นการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ ซึ่งจะมีการรวมพลประชาชนจากต่างจังหวัดเข้ามาด้วย ทางตร.ได้ตั้งศูนย์ติดตามความเคลื่อนไหวตั้งแต่เวลา 24.00น. ของวันที่ 12 มี.ค. และใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 26 กองร้อย ซึ่งเพิ่มเติมจากปกติอีก 6กองร้อย ซึ่งนำมาจาก บช.ภ. 1,2และ7 โดยทั้งหมดจะกระจากกำลังดูแลพื้นที่รอบอนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา และพื้นที่รอบการชุมนุมกลุ่มพธม. ยืนยันว่า เจ้าหน้าหน่วยควบคุมฝูงชนไม่มีอาวุธ มีเพียงแต่อุปกรณ์ป้องกันตัวเช่นโล่ สนับแข้งและสนับขา สำหรับการชุมนุมที่อาจจะขยายพื้นที่ออกไป จะมีตำรวจจราจร สายสืบ คอยดูแล พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ประชาชนที่ใช้เส้นทางการจราจรทราบ ดูแลความปลอดภัยและเหตุกระทบกระทั่งต่าง ๆ เมื่อถามว่า การชุมนุมในวันดังกล่าวจะการตรวจสอบการปราศรัยของแกนนำที่ได้รับการประกันตัวออกมาว่าอาจจะขัดเงื่อนไขการประกันตัวหรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า หลังจากแกนนำคนเสื้อแดงได้รับการประกันตัวออกมา ก็ไม่มีพฤติกรรมที่จะส่อไปในทางรุนแรง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงจับตาดูอยู่ เมื่อถามว่า มีการขอคืนพื้นที่จากกลุ่มพธม.ก่อนงานกาชาดจะเริ่มวันที่ 30มี.ค. นี่หรือไม่ พล.ต.ต.ประวุฒิ กล่าวว่า สำหรับงานกาชาดที่จะมีขึ้น เราจะให้เวลาเจ้าหน้าทีในการจับซุ้มและร้านค้า ซึ่งคงต้องใช้เวลาก่อนงานจะเริ่ม2สัปดาห์ ส่วนกรณีที่กลุ่มพธม. กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้งบประมาณ 800 ล้านบาท ในการดูแลการชุมนุมของกลุ่มพธม.นั้น ขอยืนยันว่างบที่ได้มาทั้งหมดเป็นงบประมาณที่ให้เบี้ยเลี้ยงตำรวจวันละ 400 บาท เท่านั้น ซึ่งคงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณมากขนาดนั้น http://www.bangkokbiznews.com/home/detai...B8%99.html |
ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น