วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

นายกฯยิ่งลักษณ์ประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง 3 เขต วันที่22พย.55



แถลงการณ์ นายกฯยิ่งลักษณ์ประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง 3 เขต วันที่22พย.55

กราบเรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพ

วันนี้ ดิฉันขอใช้เวลาของพี่น้องประชาชน  เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในประเด็นที่รัฐบาลได้ตัดสินใจประกาศใช้มาตรการ ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ในพื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ถึงวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

ดิฉัน ขอเริ่มด้วยการเน้นย้ำว่า รัฐบาลยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  เชื่อมั่นในเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและเชื่อมั่นว่าการใช้เวทีรัฐสภาที่ ประกอบด้วยตัวแทนที่มาจากประชาชนมีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหา ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันและความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเป็นวิถีทางที่ถูกต้องตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย  ทั้งนี้ รัฐสภายังมีหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล  ดังที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในอีกไม่กี่วันนี้ ซึ่งดิฉันก็พร้อมที่จะรับฟังและชี้แจงตามวิถีทางประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา

และ ด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาโดยการเลือกตั้งจากประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ดิฉันยืนยันว่าทุกเรื่องที่ดิฉันและรัฐบาลได้ตัดสินใจ จะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง ทั้งจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่ง สถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน

อย่างไรก็ตาม ความเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่การมีสิทธิเสรีภาพเพียงเท่านั้น แต่ต้องมีระบบระเบียบความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม และการที่สังคมจะอยู่ร่วมกันได้  ย่อมมีกฎกติกาขอบเขตของสิทธิเสรีภาพโดยไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น  ทั้งยังมีหน้าที่จะต้องช่วยกันรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยไม่ให้ถูกคุก คาม

สำหรับการชุมนุม ประท้วง เรียกร้องใด ๆ ก็ตาม โดยเฉพาะที่มีพื้นฐานมาจากความเดือดร้อนของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดนั้น สามารถทำได้เป็นสิทธิเสรีภาพที่รับประกันไว้ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ โดยที่การชุมนุมต้องเป็นไปอย่างสงบสันติปราศจากอาวุธ และอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย  ซึ่งดิฉันก็พร้อมที่จะรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเรียกร้อง และพร้อมที่จะร่วมแก้ปัญหาความเดือดร้อนนั้นๆ ให้หมดสิ้นไป

แต่ หากการรวมตัวชุมนุมกัน  ซึ่งจากรายงานของฝ่ายความมั่นคง เป็นการระดมผู้คนจำนวนมากภายใต้แกนนำที่มีท่าทีที่ต้องการจะล้มล้างรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้ง ล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ทั้งพร้อมที่จะใช้ความรุนแรง มีแนวคิดที่จะบุกรุกสถานที่สำคัญ และสร้างความวุ่นวายกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นปกติของสาธารณชนเพื่อ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ซึ่งเมื่อเป็นภัยต่อความมั่นคงและสันติสุขของประชาชน   ซึ่งดิฉันไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น แต่รัฐบาลย่อมต้องมีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นของบุคคลใด ทั้งผู้ที่มาชุมนุมและประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญรัฐบาลจะต้องรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว กลไกการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตามปกติไม่สามารถรองรับได้  จึงเป็นที่มาของมติคณะรัฐมนตรีในวันนี้

มาตรการตามกฎหมาย ที่กำหนดนั้น ก็เพื่อให้สามารถป้องกันและระงับภัยที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและมี ประสิทธิภาพ ซึ่งการมีหน่วยปฏิบัติงานหลักก็เพื่อรับผิดชอบบูรณาการและประสานการปฏิบัติ ร่วมกับทุกส่วนราชการในยามที่เกิดสถานการณ์อันเป็นภัยต่อประชาชนในพื้นที่ใด พื้นที่หนึ่ง  การปฏิบัติการต่างๆ จะเป็นไปอย่างรอบคอบ ปราศจากอาวุธและเป็นไปตามมาตรฐานสากล  ทั้งนี้ดิฉันต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางและ บริเวณการชุมนุม เพื่อความสงบเรียบร้อย ความสะดวกและความปลอดภัยของท่านเอง

มาตรการ และกลไกต่างๆ จะเน้นการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และเมื่อเหตุการณ์พัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น ก็จะมีการยกเลิกการใช้มาตรการเหล่านั้นทันที

ดิฉันขอยืนยัน ว่า เมื่อได้รับการเลือกตั้งและเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปีที่แล้ว ดิฉันมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และพัฒนาประเทศ  อีกทั้งนำความสงบสันติคืนให้กับประเทศไทย  ดิฉันเชื่อว่าการลดความขัดแย้งทางการเมืองและการปรองดอง เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่ น้องประชาชนทุกคนโดยไม่คำนึงถึง เชื้อชาติ ศาสนา ชนชั้น หรือสีเสื้อใด ๆ

ขอ ขอบคุณสำหรับการให้โอกาสดิฉันทำงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และขอขอบคุณผู้ที่สนับสนุนและให้กำลังใจมา ณ ที่นี้  ดิฉันขอให้คำมั่นว่าจะไม่ย่อท้อและจะทำงานอย่างสุดความสามารถดังที่ตั้งใจ และสัญญากับพี่น้องประชาชน

สวัสดีค่ะ

สรุปความระยะ ไอ้พวกแช่แข็ง อำหมาตย์

ผู้ชุมนุมขับรถสิบล้อพุ่งชนด่าน



แกสน้ำตาจากม้อบเสธอ้าย



24 11 55 ข่าวเที่ยงDNN บุญเลิศ อ้าง ตร ทำร้าย ปชช ร้องทหารออกมาร่วม



ภาพเหตุการณ์



ดูกันเอาใครเริ่มก่อนใครโยนแก๊สน้ำตาก่อน 24 11 2012



เส อ้ายแพ้หมดรูป สลายการชุมนุม24-11-55.

 
 
ประมวลภาพ เอวัง เสธ.อ้าย ม็อบกบฎ 

































เส อ้ายแพ้หมดรูป สลายการชุมนุม24-11-55.

 


ศอ.รส. แถลงสรุปสถานการณ์หลัง "เสธ.อ้าย" ปิดจ๊อบ!

ศอ.รส. แถลงสรุปสถานการณ์หลัง "เสธ.อ้าย" ปิดจ๊อบ!


วันที่  24 พฤศจิกายน 2555 (go6TV) ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการ, พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้อำนวยการ, พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้อำนวยการ และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.และ ผบ.กองกำลัง ร่วมกันแถลงข่าวผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เพื่อสรุปผลการปฏิบัติภาพรวมภารกิจของ ศอ.รส.ว่า ทาง ศอ.รส. ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ โดยได้วางกำลังดูแลพื้นที่ ตั้งจุดตรวจตราอย่างเข้มงวดและบูรณการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง 24 หน่วยงาน
ส่วนการใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อเหตุการณ์ที่ผ่านมาก็เป็นไปตามขั้นตอนตามหลักสากล นอกจากนี้ ยังได้กล่าวชมเชยและขอบคุณ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ที่ได้ยุติการชุมนุมโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน

ด้าน พล.ต.อ.วรพงศ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานก่อนการชุมนุม ว่า จะมีกลุ่มผู้ไม่หวังดีอาศัยสถานการณ์เข้ามาก่อเหตุ จึงได้เจรจากับพล.อ.บุญเลิศเพื่อหารือแนวทางป้องกัน โดยตั้งจุดคัดกรองตรวจอาวุธอย่างเข้มงวด โดยเมื่อเวลา 08.00 น.ผู้ชุมนุมจำนวน 5,000 คน ได้เจรจาให้เปิดเส้นทางในจุดที่ประกาศหวงห้าม แต่เห็นว่าพื้นที่ที่จัดให้กลุ่มผู้ชุมนุมสามารถรองรับจำนวนคนได้เป็นจำนวนมาก จึงไม่เปิดเส้นทางให้ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมได้พยายามเข้ามาในุพื้นที่หวงห้าม จึงได้ ใช้แก็สน้ำตายับยั้งสถานการณ์

ด้านพล.ต.อ.เอก กล่าวถึงการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ทั้งหมด 137 คน เป็นชาย 103 คน หญิง 24 คน นอกจากนี้ ยังควบคุมผู้ต้องหาไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลดุสิตอีก 10 คน ฐานความผิดพกพาอาวุธมีด 8คน ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน 1 คน มีวิทยุไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 1 คน โดยจำแนกตามฐานความผิดพฤติกาณ์ร้ายแรง เช่น แกนนำได้ขับรถบรรทุกชนแนวป้องกันของตำรวจ ส่วนแนวร่วมจะมีแนวความผิดฝ่าฝืนข้อกำหนดเข้าไปพื้นที่หวงห้าม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท การดำเนินคดีจะยึดหลักนิติรัฐ คำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่เข้ามาร่วมชุมนุม โดยญาติผู้ถูกจับสามารถเข้าเยี่ยมและติดต่อทนายความได้ โดยมอบหมายให้พล.ต.อ.ชัชวาล สุขสมจิตร์ ที่ปรึกษา สบ.10 ในฐานะรอง ผอ.ศอ.รส.ดูแลการสอบสวน จากนั้น จะประชุมเพื่อเสนอให้มีการยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

จากนั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านการจราจร พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

"สื่ออังกฤษ" ประจานม็อบ "เสธ.อ้าย" ทั่วโลก! แฉทำระเบิดใส่เศษเหล็กก่อบึ้ม

"สื่ออังกฤษ" ประจานม็อบ "เสธ.อ้าย" ทั่วโลก! แฉทำระเบิดใส่เศษเหล็กก่อบึ้ม



          วัน ที่ 24 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เคต โฮดัล ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียน สื่อสิ่งพิมพ์ชื่อดังของอังกฤษ ซึ่งปฏิบัติงานอยู่ในกรุงเทพฯ โพสต์ข้อมูลในทวิตเตอร์ส่วนตัว http://twitter.com/katehodal ระบุ ว่า ตนเข้าไปติดตามการเคลื่อนไหวของม็อบองค์การพิทักษ์สยามในกรุงเทพฯ พร้อมกับบรรยายว่าตำรวจพยายามป้องกันไม่ให้ฝ่ายม็อบทะลวงแนวกั้นผ่านเข้าไป ยังรัฐสภา และมีการยิงแก๊สน้ำตาเกิดขึ้น 


นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวการ์เดียน ยังโพสต์รูปภาพเป็นกลุ่มคนใส่ชุดดำเดินวนเวียนไปมาในม็อบอย่างน่ากลัว และระบุด้วยว่าชายกลุ่มนี้กำลังเริ่มทำระเบิดใส่เศษเหล็ก (Guys making shrapnel bombs now, these all black dudes wandering around ominously) เตรียมพร้อมก่อสถานการณ์รุนแรง

"เสธ.อ้าย" ยกธงขาว ยุติชุมนุมเก็บเงินทอนเข้ากระเป๋า

"เสธ.อ้าย" ยกธงขาว ยุติชุมนุมเก็บเงินทอนเข้ากระเป๋า




         วันที่ 24 พฤศจิกายน 2555 (go6TV) เวลา 16.30 น. วันที่ 24 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหลังเวทีองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานอพส. กล่าวถึงการประเมินสถานการณ์ว่าจะทำอย่างไรต่อไปนั้น เราคงจะรอให้ประชาชนเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมให้มากกว่านี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสกัดประชาชนไว้ในหลายพื้นที่ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้มาตรการยิงแก๊สน้ำตาอีก เราเองก็ไม่อยากให้คนบาดเจ็บไปมากกว่านี้ ขณะนี้แกนนำอพส.กำลังดำเนินการหลายขั้นตอน ซึ่งถ้าเมื่อใดที่ท้ายขบวนของมวลชนไปอยู่ที่สะพานผ่านฟ้าได้ ตนจะเปิดเผยไม้เด็ดในการชุมนุมครั้งนี้ อย่างไรก็ตามการชุมนุม อพส.ต้องจบลงในวันนี้หรืออย่างช้าในวันพรุ่งนี้เรายังต้องประเมินสถานการณ์เสียก่อน แต่ยืนยันว่าจะไม่ชุมนุมในเดือนธันวาคมเพราะการชุมนุมครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต




"ผมได้เดินเข้าไปหาและพูดคุยกับนายทหารระดับสูงกองทัพภาคที่1ด้วยตนเองซึ่งผมคิดว่าหากตำรวจรังแกประชาชนอีกทหารต้องออกมาช่วยประชาชนแม้เขาจะไม่รับปากผมอย่างเป็นทางการก็ตาม"พล.อ.บุญเลิศ ระบุ

 ผู้สื่อข่าวรายว่า หลังจากที่พล.อ.บุญเลิศ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ได้เข้าไปหารือร่วมกับแกนนำโดยมีมติว่า เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงค่ำอาจจะมีมือที่สามสร้างสถานการณ์ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความไม่ปลอดภัยกับผู้ชุมนุม รวมทั้งพล.อ.บุญเลิศ ได้ต่อสายคุยกับพล.อ.ดาวพงษ์ ว่าแนวทางของอพส.จะยุติการชุมนุม ในเวลา 18.00น. และรับปากว่าจะดูแลความปลอดภัยให้

 อย่างไรก็ตาม เวลาประมาณ 17.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.บุญเลิศขึ้นเวทีปราศรัยลานพระบรมรูปทรงม้า ประกาศขอยุติการชุมนุม พร้อมให้เหตุผลประกอบหลักๆ 4 ข้อ กล่าวคือ รัฐบาลปฏิบัติตามคำสัญญา นอกจากนั้น ยังสกัดกั้นคนจากต่างจังหวัดไม่ให้เข้ามาร่วมชุมนุม ตำรวจไม่น่ากระทำกับประชาชนมือเปล่า ทำร้ายร่างกายบาดเจ็บหลายคน ตนไม่อยากให้ผู้ชุมนุมตายเพราะการกระทำของตำรวจ

เปิดภาพ "ม็อบเสธ.อ้าย" โล่งงงงง จุงเบย!

เปิดภาพ "ม็อบเสธ.อ้าย" โล่งงงงง จุงเบย!

<











วันที่ 24 พฤศจิกายน 2555 (go6TV) ทีมงานได้เดินสำรวจบรรยากาศ การร่วมชุมนุมของกลุ่มพิทักษ์สยาม ในช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา พบกว่า มีผู้เข้าร่วมชุมนุม ตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ จนถึงหน้าเวที จำนวนโดยประมาณ 10000 คน

ในส่วนของลานพระบรมรูปนั้น  ทางตำรวจได้กั้นแท่งปูนพร้อมลวดหนามไว้ประมาณ 2/3 พื้นที่ เหลือพื้นที่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 1/3  และในพื้นที่ดังกล่าว จัดเต้นท์ขนาดใหญ่ 2 เต้นท์ เพื่อรองรับผู้ชุมนุมเข้านั่งฟังการปราศัย ไม่ได้อยู่เต็มพื้นที่แต่อย่างไร

เมื่อเดินสำรวจไปรอบๆ พื้นที่ตลอดถึงสะพานมัฆวาน พื้นที่ตรงกลาง เป็นพื้นที่เดินของผู้เข้าชุมนุม ส่วนด้านข้างสองเลนของทั้งสองฝั่งตลอดถนนไปจนถึงแยกมิสกวัน ปรากฏว่ามีการก่อสร้างห้องน้ำปูนถาวร เต้นท์การชุมนุมของกลุ่มกองทัพธรรม

เมื่อดูบรรยากาศการชุมนุม เป็นไปอย่างเคร่งเครียด เมื่อผู้ปราศัยบนเวทีพยายามปลุกเร้าอารมณ์ผู้ชุมนุมด้วยข้อความแข็งกร้าว หยาบคาาย และมุ่งเน้นทำร้ายบุคคลใดก็ตามที่ไม่จงรักภักดีต่อสถาบันตลอดเวลา