วันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

คสช. เรียกเพิ่มอีก 6 สั่งระงับธุรกรรมการเงิน 'จารุพงศ์-จาตุรนต์'


24 พ.ค. 2557 เวลาประมาณ 23.43 น คณะรักษาความสงบแห่งชาติออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 13/2557 เรื่องให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม โดยมีเนื้อหาว่าเพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 11.00 – 12.00 น. ตามรายชื่อดังต่อไปนี้
  • 1. นางจรรยา สว่างจิตร


  • 2. นายชเยนทร์ คำนวณ


  • 3. นายพิชิต ชื่นบาน


  • 4. นางกาญจนา หงษ์เหิน


  • 5. นางสาวณัชชานันท์ เครือชัย

  • 6. นางวิมลรัตน์ กุลดิลก
               ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 21.29 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 10/2557 เรื่อง ห้ามมิให้กระทำการใดๆ หรือสั่งให้การทำการใดๆ เกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือ การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของบุคคล เท่าที่จำเป็นแก่การรักษาความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม
             โดยมีรายละเอียดว่าตามที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งที่ 1/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่องให้บุคคลมารายงานตัว นั้น เนื่องจากปรากฎว่า บุคคลที่มีรายชื่อต้องมารายงานตัวบางราย ฝ่าฝืนไม่มารายงานตัวตามคำสั่งดังกล่าว ดังนั้น เพื่อป้องกัน ระงับ มิให้บุคคลทั้งสองกระทำการช่วยเหลือ หรือสนับสนุนด้านการเงินแก่บุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่กระทำการ หรือมีการกระทำที่ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จึงออกคำสั่งดังนี้ 

            ข้อ 1. ห้ามมิให้สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคาร ตามที่ได้มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นโดยเฉพาะ บริษัทหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ บริษัทประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต และบริษัทประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย และสหกรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน นิติบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้บริการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด นิติบุคคลที่เป็นที่ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และนิติบุคคลที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจการซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน และห้ามมิให้บุคคลหรือนิติบุคคลใดรับซื้อหรือรับแลกเปลี่ยนเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน ตั๋วแลก หรือ ตราสารทางการเงินอื่น ๆ ที่สั่งจ่ายให้กับบุคคลดังต่อไปนี้
  • 1. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
  • 2. นายจาตุรนต์ ฉายแสง
        ข้อ 2. ให้สถาบันการเงิน และนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจตามข้อ 1 แจ้งและส่งข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวที่ได้กระทำขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พุทธศักราช 2557 จนถึงวันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 ส่งให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ภายในสามวันนับตั้งแต่วันที่มีคำสั่ง
        ข้อ 3. การขอเพิกถอนคำสั่งห้ามทำนิติกรรมสัญญา หรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินกับบุคคลทั้งสอง เฉพาะรายครั้งแล้วแต่กรณี ให้บุคคลทั้งสองพร้อมด้วยสถาบันการเงิน หรือนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจ ตามข้อ 1 ยื่นคำขอ และแสดงตนต่อหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ พร้อมด้วยหลักฐานที่แสดงว่าการทำนิติกรรม สัญญา หรือการดำเนินการใด ๆ ทางการเงิน ทางธุรกิจ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินตามข้อ 1 ไม่ได้เป็นการกระทำ หรือสนับสนุนการกระทำเพื่อให้เกิดเหตุแห่งความไม่สงบเรียบร้อยของบ้านเมือง
         ข้อ 4. ผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป


รายงานตัวกองทัพ 'สนธิ ลิ้มทองกุล' ระบุอยากกักนานแค่ไหนเป็นเรื่องของเขา


สนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์สื่อในเครือเอเอสทีวี ผู้จัดการ ก่อนเดินทางไปรายงานตัว คสช. ตามคำสั่งฉบับที่ 5/2557 (ที่มา: ASTVManager VDO)

'สนธิ ลิ้มทองกุล' โพสต์คลิปก่อนเข้ารายงานตัว คสช. โดยแจ้งผู้สนับสนุนว่าไม่ต้องกังวล เรื่องเล็กแค่เปลี่ยนที่นอน กองทัพจะกักนานแค่ไหนเป็นเรื่องของเขา มั่นใจไม่ได้ทำผิดอะไร เพราะเอาธรรมนำหน้า จะไม่มีวันเป็นอะไร
25 พ.ค. 2557 - เมื่อเวลา 10.30 น. ของวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมา โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย แพร่ภาพ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. อ่านคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 5/2557 เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ณ หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ในวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 13.00 น. โดยมีทั้งหมด 35 คน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง) โดยในจำนวนนี้มีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และผู้บริหารเครือเอเอสทีวี ผู้จัดการด้วยนั้น
ทั้งนี้ในวิดีโอให้สัมภาษณ์ที่เผยแพร่ทาง ASTVManager VDO นายสนธิ กล่าวว่า "ไม่ต้องกังวลนะครับพี่น้อง ไม่มีอะไรน่าตกใจ ของอยู่ในนี้หมดแล้ว ผ้าเช็ดตัว เสื้อยืดตัวหนึ่ง พิมพ์คำว่า "แล้วยังไง" เสียดายที่ไม่มีเสื้อยืดที่พิมพ์ว่า "กูว่าแล้ว" นะฮะ แล้วก็มีเสื้อเอเอสทีวีตัวหนึ่ง ยาสีฟัน แปรงสีฟัน หนังสือเล่มหนึ่ง แล้วก็หนังสือสวดมนต์เท่านั้นเอง ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้นครับ เรื่องเล็ก แค่เปลี่ยนที่นอนเท่านั้นเอง ส่วนเขาจะกักผมนานแค่ไหน ก็เรื่องของเขา เพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่นิดเดียว ยืนอยู่บนหลักการของธรรม คนที่เอาธรรมนำหน้า จะไม่มีวันเป็นอะไร พี่น้องนอนหลับให้สบาย กลับมาแล้วค่อยคุยกัน"


ระเบิดหลายจุดทั่วเมืองปัตตานี เบื้องต้นตาย 3 เจ็บกว่า 50 คน



ที่มาของภาพสำนักข่าวไทย
เมื่อเวลาประมาณ 19.25 น. วันที่ 24 พ.ค.2557 เกิดเหตุระเบิดขึ้นหลายจุดในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับ เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย ได้รับบาดเจ็บ 52 คน นอกจากนี้ยังมีรายงานเหตุก่อกวนและการปะทะกันอีกหลายจุด และยังเกิดเหตุระเบิดอีก 2 จุดในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
อ.เมืองปัตตานี
  • 1.ระเบิดปั๊ม ปตท. ถ.นาเกลือ
  • 2.ระเบิดร้านสะดวกซื้อ 7-11 ถ.มะกรูด
  • 3.ระเบิดปั๊มเชล บ.พิธาน ถ.นาเกลือ
  • 4.ระเบิดร้าน7-11 วิทยาลัยการอาชีพปัตตานี ถ.หนองจิก
  • 5.ระเบิดร้าน7-11 ถ.เจริญประดิษฐ์ (สายม.อ.) ข้างร้านเบอเกอร์ควีน
  • 6.ระเบิดร้าน7-11 ปัตตานีคอนกรีต
  • 7.ระเบิดร้าน 7-11 หน้า ร.ร.แหลมทอง อ.เมืองปัตตานี
  • 8.ระเบิดเสาไฟฟ้าริมทางหลวงหมายเลข 42 หน้าบริษัท TOT
  • 9.โรยตะปูเรือใบบริเวณสะพานตะลุโบะ ต.ตะลุโบะ
  • 10.เกิดเหตุยิงระเบิด เอ็ม79 เข้า สภ.เมืองปัตตานี และเกิดการปะทะ
  • 11.ระเบิดปั้ม ปตท.ใกล้วงเยหอนาฬิกา
  • 12.ระเบิดปั้มเชล ถ.ปากน้ำ
  • 13.ระเบิดสถานีไฟฟ้า ต.ตะลุโบะ และมีการปะทะที่ฐานทหารที่สถานีไฟฟ้าตะลุโบะ
  • 14.ระเบิดบริเวณสะพานปลา

ส่วนที่โรงพยาบาลปัตตานี เจ้าหน้าที่ได้เขียนรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลปัตตานี ล่าสุดมีทั้งหมด 40 คน เป็นเด็ก 6 คน
ส่วนที่ อ.รือเสาะ เกิดเหตุปะทะกันบริเวณหลังวัดราษฎร์สโมสรระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับคนร้ายห่างจากกองร้อยอส.รือเสาะ ประมาน 1 กิโลเมตร และยังเกิดเหตุระเบิดบริเวณสามแยกทางไปอ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เลยโรงงานยางพาราเต็กบีห้างประมาณ 5 - 10 เมตร



ประมวลภาพ ปชช.นับพันต้านรัฐประหาร ขอเลือกตั้ง อนุสาวรีย์ฯ และเผชิญหน้าที่สนามเป้า


24 พ.ค.2557 เวลา 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประชาชนประมาณ 1,000 คน รวมตัวประท้วงการทำรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว ขณะที่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมสถานการณ์โดยรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวผู้ประท้วง 2 ราย ทราบชื่อคือนายนพพร นามเชียงใต้ หรือ เต้ มดแดง ซึ่งถูกควบคุมตัว ก่อนผู้ชุมนุมเข้าแย่งตัวกลับ ขณะที่อีกรายคือนายทนงศักดิ์ พัฒนพงษ์ไพบูลย์ ถูกเจ้าหน้าที่ทหารรวบตัว หลังชูป้ายกระดาษ A4 ข้อความว่า “ประชาชนอยู่ไหน” บริเวณหน้าประตูทางเข้ากองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2.รอ.) สนามเป้า
ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้กดดันและเจรจากับเจ้าหน้าที่ทหารให้ปล่อยตัวนายทนงศักดิ์ออกมา จนกระทั่งเวลา 18.40 น. หรือ 10 นาทีหลังถูกจับทหารจึงปล่อยตัวออกมา โดยนายทนงศักดิ์ได้เขามาโพสต์แจ้งในเฟซบุ๊กแฟนเพจประชาไทด้วยว่า “ผมยืนถือป้าย ประชาชนอยู่ไหน อยู่หน้ากรมทหารสนามเป้า ผมไม่ได้ตะโกน ผมอยู่อย่างสงบ ทหารพุ่งเข้าชาร์คตัวผม ชกผม แล้วกดผมลงให้หน้าแนบพื้น เอามือไขว้หลัง แล้วลากผมเข้าในบวิเวณที่กั้นม่านไว้ แล้วก็รุมกระทืบผม เสร็จแล้วก็อุ้มผมคว่ำหน้าขึ้นท้ายกระบะหน้าผมแนบพื้น มีทหารนั่งอยู่ขอบกระบะบังอยู่เกือบ 10 คน”
ข้อความที่นายทนงศักดิ์โพสต์เล่าเหตุการณ์ที่ตนเองประสบ
ภาพนายทนงศักดิ์ หลังถูกปล่อยตัวออกจาก พล.ม.2 รอ.

.............................................................


ลำดับเวลาเหตุชุมนุมคัดค้านรัฐประหาร บริเวณถนนพหลโยธินและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (





             เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 พ.ค. 2557 ที่ถนนพหลโยธิน ใกล้โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ รัชโยธิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดการรวมตัวของกลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ท่ามกลางการควบคุมสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ที่เข้าเจรจาและดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมในบรรยากาศที่ไม่เคร่งเครียดมากนัก

12.45 ทหารหลายนายช่วยประชาชนคนหนึ่งกลับขึ้นรถตู้อย่างปลอดภัย หลังจากถูกผู้ชุมนุมตะโกนขับไล่เพราะประชาชนรายนั้นเดินทางมาแสดงจุดยืนคัดค้านข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วง

14.00 หลังจากกลุ่มผู้ชุมนุมพักรับประทานอาหารกลางวันจึงเริ่มทยอยเดินออกจากถนนพหลโยธินมุ่งหน้าสู่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

15.00 กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนจากเมเจอร์รัชโยธินเดินเท้ามาหยุดบริเวณหน้าสน.บางซื่อ พบกองกำลังทหารเข้าเจราจา มีการปิดแยกหลายแยกใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอารีย์ ถึงสถานีสะพานควาย

16.00 กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเดินขึ้นบีทีเอส

16.10 กลุ่มผู้ชุมนุมมารวมตัวที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ชูป้าย พร้อมติดป้ายไวนิลบริเวณรั้วกั้นอนุสาวรีย์ชัยฯ มีข้อความว่า “นกพิราบของฉันหายไปไหน” และ “I want election” ขณะที่สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

16.50 กลุ่มผู้ชุมนุมเผชิญหน้ากับทหารกลุ่มหนึ่งที่คาดว่าเดินลงมาจากสกายวอล์กบริเวณหน้าห้างแฟชั่นมอลล์

17.15 กลุ่มผู้ชุมนุมเดินคัดค้านบนถนนรอบวงเวียน พร้อมชูป้ายไวนิลต่อต้านการรัฐประหาร ร้องเพลงเพื่อมวลชนและรณรงค์ให้มีการจัดเลือกตั้งท่ามกลางคนมุงดูบนสกายวอล์กจำนวนมาก

17.40 ตำรวจขอความร่วมมือให้ผู้ชุมนุมอยู่บนทางเท้า พร้อมมีรถตู้หน่วยรักษาพยาบาลเตรียมพร้อม จอดบริเวณโดยรอบอนุเสาวรีย์

17.45 ผู้ชุมนุมเริ่มกลับขึ้นฟุตบาทบริเวณวงเวียนรอบอนุเสาวรีย์ฯ อีกครั้ง บางส่วนกระจายตัวกลับ ประกอบกับการจราจรหนาแน่นขึ้นในช่วงเย็น แม่ค้าและพ่อค้าหาบเร่แผงลอย และร้านค้ารอบอนุเสาวรีย์ฯ ปิดการค้าขายเพราะเกรงจะเกิดเหตุในช่วงค่ำ

17.50 กลุ่มผู้ชุมนุมยังคงตรึงมวลชนอยู่บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยฯ ฝั่งหันหน้าเข้าสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ขณะที่การจราจรติดขัดหนาแน่น โดยผู้ชุมนุมบางส่วนเริ่มทยอยกลับบ้าน

18.00 บรรยากาศยามค่ำ ทหารเชิญตัวประชาชนคนหนึ่งไปเจรจา ตรงหัวมุมถนนพหลโยธินขาเข้าอนุสารีย์ชัยฯ จากหมอชิต ผู้ชุมนุมบางส่วนทยอยวิ่งเข้าไปช่วยเจรจาและสามารถตกลงกันได้จนประชาชนคนนั้นปลอดภัย

18.20 ทหารเชิญตัวประชาชนอีกคนหนึ่งซึ่งมีอารมณ์ฉุนเฉียวขณะกำลังชูป้ายประท้วงบริเวณหัวมุมถนนใกล้เคียงกับสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ททบ.5 ไปพูดคุย เพื่อให้บรรยากาศคลี่คลายและเข้าสู่ความสงบทหารจึงตั้งแถวหน้ากระดานบริเวณดังกล่าวขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งซึ่งแยกตัวออกมาจากบริเวณอนุเสารีย์ฯ ขอเข้าเจราจากลุ่มทหาร ทำให้ประชาชนที่ถูกควบคุมไว้ได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัย

18.30 บรรยากาศบริเวณวงเวียนอนุเสาวรีย์ฯ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ผู้ชุมนุมราวหนึ่งพันคนค่อยๆเดินทางกลับ


ทหารคุมตัว "ธนาพล บก.ฟ้าเดียวกัน" และชายอีก 2 คน



              เวลาประมาณ 19.20น.วันที่ 23พฤษภาคม บริเวณสะพานหัวช้าง เขตราชเทวี ขณะที่นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการนิตยสารฟ้าเดียวกัน เข้าร่วมกิจกรรมแสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐประหารและเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งโดยเร็ว บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร ปรากฎว่าทหารปฏิบัติหน้าที่ภายใต้คำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ประจำการบริเวณสะพานหัวช้างและห้างสรรพสินค้าสยามดิสคัพเวอรี่เข้าควบคุมตัวนายธนาพลขึ้นรถฮัมวี่ โดยก่อนหน้าที่นายธนาพล จะถูกควบคุมตัว มีชายที่เข้าร่วมกิจกรรมแสดงความไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารคนหนึ่งถูกควบคุมตัว ทราบชื่อภายหลังว่า นายอภิชาติ พงษ์สวัสดิ์

             อย่างไรก็ตาม ในเวลาไล่เลี่ยกัน มีชายอีกคนหนึ่ง ถูกทหารควบคุมตัว ในบริเวณเดียวกันด้วย (ชมคลิปนาทีที่04.04)

            สำหรับการเผชิญหน้าระหว่างประชาชนที่แสดงกิจกรรมไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารและทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าวมีมาเป็นระยะๆตั้งแต่ช่วงเย็นโดยเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและตำรวจพยายามพูดคุยกับตัวแทนจากฝ่ายที่มาทำกิจกรรมดังกล่าวหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายเว้นระยะห่าง อยู่คนละบริเวณกัน ลดการเผชิญหน้า

           นายธนาพล เข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนมาประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในช่วงเย็น ก่อนจะถูกควบคุมตัวในเวลาต่อมา






RED USA ขอประนามการทำรัฐประหารในประเทศไทย​



RED USA

ขอประนามการทำรัฐประหารในประเทศไทย​

  • 1. การทำรัฐประหารนำโดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทรโอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะคือขบถต่อแผ่นดิน
  • 2. การกักขัง หน่วงเหนี่ยว กักบริเวณนักการเมือง พลเรือน และผู้นำมวลชน เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และสิทธิมนุษยชน
  • 3. การปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร และการปิดกั้นช่องทางในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารทางโทรคมนาคม ทางโซเชียลมีเดีย ทางเครือข่ายไอที หรือช่องทางอื่นใด เป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
  • 4. การส่งกองกำลังทหารออกสกัดกั้น ไล่ล่าและตั้งจุดตรวจค้น เป็นการขัดขวาง และคุกคามการดำเนินชีวิตตามปรกติของประชาชน


        
              RED USA เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา และคณะ จงหยุดการกระทำทั้งหมดข้างต้น คืนอำนาจอธิปไตยกลับสู่ประชาชนโดยเร็ว และจัดให้มีการเลือกตั้งเพื่อให้มีรัฐบาลของประชาชนมาบริหารประเทศโดยไม่ชักช้า

            หากข้อเรียกร้องของ RED USA ทั้ง 4 ข้อไม่ได้รับการตอบสนอง RED USA จะร่วมมือกับองค์กรและหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศยกระดับการคัดค้านโดย:


  • 1. ขอความร่วมมือนานาประเทศ ไม่ให้การรับรองรัฐบาลไทยที่แต่งตั้งโดยคณะรัฐประหาร
  • 2. ขอความร่วมมือนานาประเทศ งดการออกวีซ่าให้กับบุคคลและคณะบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ให้การสนับสนุน ร่วมวางแผนและดำเนินการทำรัฐประหาร ตลอดจนคณะรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาลชุดที่คณะรัฐประหารแต่งตั้งทุกคน
  • 3. ขอความร่วมมือนานาประเทศ ยกเลิกความช่วยเหลือทางด้านการทหารและด้านเศรษฐกิจทุกอย่าง
  • 4. ขอความร่วมมือนานาประเทศ ให้ควบคุม (freeze) บัญชีธนาคาร และทรัพย์สินทั้งหมดในต่างประเทศ ของบุคคล คณะบุคคล องค์กร หน่วยงาน ขบวนการ ตลอดจนนิติบุคคลและไม่ใช่นิติบุคคลอื่น ๆ ที่มีส่วนวางแผน มีส่วนเกี่ยวข้อง ให้การสนับสนุน และดำเนินการทำรัฐประหารครั้งนี้ทุกคนทุกองค์กร
  • 5. ขอความร่วมมือนานาประเทศ ให้แทรกแซงทางเศรษฐกิจ (Economic Sanction) เพื่อกดดันให้คณะรัฐประหารและคณะรัฐมนตรี ที่คณะรัฐประหารแต่งตั้งลงจากอำนาจ
  • 6. ขอความร่วมมือนานาประเทศ ให้การสนับสนุนในการจัดตั้งรัฐบาลพลัด ถิ่นของไทย เพื่อจัดการกับคณะรัฐประหารและคณะรัฐมตรีที่คณะรัฐประหารแต่งตั้งที่บังอาจตั้งตัวเป็นขบถ ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญใช้กำลังเข้ายึดครองประเทศขึ้นสู่อำนาจ


    RED USA