‘พล.อ.ประวิตร’ สั่งประสานขอตัว ‘สมศักดิ์ เจียมฯ’ ชี้ต่างประเทศไม่มี กม. 112 เป็นอุปสรรคในการตามตัว โฆษกสตช. ยันดำเนินการกับผู้กระทำผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงเด็ดขาด-ต่อเนื่อง พบบางส่วน เกี่ยวข้องกับการปล่อยข่าวลือในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นเหตุให้หุ้นตก
17 ธ.ค.2557 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกะทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 ที่หลบหนีและโพสข้อความทางเฟซบุ๊คไปในทางเสียหายต่อประเทศไทย ว่า กำลังสั่งการแจ้งไปยังประเทศเหล่านั้นให้ช่วยติดตามแล้ว และดูว่ากฎหมายแต่ละประเทศเป็นอย่างไร โดยจะติดตามและดำเนินการตามกฎหมาย และดำเนินการกับทุกคนที่กระทำผิดมาตราดังกล่าว แม้ว่าจะอยู่ต่างประเทศ โดยการทำหนังสือประสานและขอตัว
“เราต้องชี้แจงไปให้ประเทศนั้น ได้เข้าใจว่าเขาเหล่านั้นผิดกฎหมายอย่างไรตามกฎหมายของไทย” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะระบุถึงจำนวนผู้ที่ต้องติดตามและประเทศที่มีการประสานงานไป แต่ยืนยันว่าจะเน้นติดตามบุคคลที่กระทำผิดมาตรา 112 แต่ก็ยอมรับว่า ในบางประเทศที่ไม่มีกฎหมายครอบคลุมการกระทำผิดมาตรา 112 ก็อาจเป็นอุปสรรคในการดำเนินการติดตามตัว
ส่วนการตรวจสอบบุคคลที่ปล่อยข่าวลือที่ทำให้ตลาดหุ้นตก พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอร้องทุกฝ่ายว่าอย่าได้กระทำการเช่นนี้ และไม่ควรเชื่อข่าวลือเหล่านั้น ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่ากลุ่มที่ปล่อยข่าวมุ่งหวังต้องการให้รัฐบาลเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะการปล่อยข่าวลือในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งที่ผ่านมาสร้างความเสียหายให้ประเทศ และสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน
โฆษกสตช. ยันดำเนินการกับผู้กระทำผิดฐานหมิ่นเบื้องสูงเด็ดขาด-ต่อเนื่อง
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวกรณี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้ดำเนินคดีผู้กระทำความผิด ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 112 อย่างเด็ดขาด ว่า ที่ผ่านมา ตำรวจได้มีการดำเนินการคดีลักษณะนี้มาโดยตลอด และมีการประสานให้ปิดเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมไปจำนวนหนึ่ง แต่ยอมรับว่า ในบางเว็บไซต์ มีการจดทะเบียนในต่างประเทศ จึงทำให้การดำเนินการทำได้ยาก
สำหรับการติดตามตัวผู้ถูกออกหมายจับในคดีนี้ และหลบหนีอยู่ภายนอกประเทศ ยอมรับว่า มีปัญหาในเรื่องของข้อกฎหมาย ที่ในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน จึงทำให้การประสานนำตัวกลับมาดำเนินคดีทำได้ยาก และต้องอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นๆ
ส่วนกรณีที่มีการปล่อยข่าวลือในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จนทำให้หุ้นตก นั้น หากพบว่า มีการกระทำผิดปล่อยข่าวลือจริง ตำรวจสามารถดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ได้ จากการตรวจสอบ เบื้องต้น พบการปล่อยข่าวไม่ได้ทำเป็นขบวนการ แต่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ที่กระทำผิดตาม มาตรา 112 ส่วนจะเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยปล่อยข่าวลือในลักษณะนี้ เมื่อปี 2552 หรือไม่ ยังไม่สามารถยืนยันได้