พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (ที่มา: วิกิพีเดีย/แฟ้มภาพ)
ตามที่เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการกองทัพบก แสดงความไม่เห็นด้วยกับการนำเสนอข่าวของ นสพ.เอเอสทีวีผู้จัดการ หลังจากถูกผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับการชุมนุมเพื่อทวงคืนปราสาทพระวิหาร และ พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวว่า "ไอ้หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ผมบอกได้เลยว่า มันเขียนห่วย ด่าผมอย่างโน้นอย่างนี้ เอาอะไรมาด่าผม เอาศักดิ์ศรีอะไรมาด่าผม ทำไมรักประเทศชาติอยู่คนเดียวหรืออย่างไร ไปดูพฤติกรรมตัวเองเป็นอย่างไรกันบ้าง ผมทนมานานพอสมควรแล้ว" และต่อมาเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ได้เขียนแถลงการณ์ "ไอ้ผู้จัดการห่วย หรือ ไอ้ ผบ.ทบ.ชื่อประยุทธ์ จันทร์โอชา ห่วยกันแน่" ตอบโต้ จนนำมาสู่การที่ทหารสังกัดกองทัพบกออกมาชุมนุมหน้าสำนักงานเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ถ.พระอาทิตย์ ในวันที่ 11 และ 12 ม.ค. เพื่อเรียกร้องให้สื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการขอโทษ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น
ล่าสุดวันนี้ (14 ม.ค.) มติชนออนไลน์ รายงานว่า ในระหว่างวันสถาปนากองทัพภาคที่ 1 ครบรอบ 103 ปี ที่กองทัพภาคที่ 1 ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปเป็นประธาน ในระหว่างกล่าวให้โอวาทกำลังพล เขายังกล่าวขอโทษสังคมและสื่อมวลชน ที่ได้ใช้คำพูดรุนแรง แสดงกิริยาหงุดหงิด ที่อาจทำให้หลายฝ่ายเสียความรู้สึก และยอมรับว่าตัวเองเป็นทหารก็แบบนี้ มีลักษณะพูดไม่เพราะ ส่วนกรณีที่ทหารไปชุมนุมหน้าสำนักงานเอเอสทีวีผู้จัดการ ยืนยันว่าทหารเหล่านั้นไปกันเอง ไม่มีใครสั่งให้ไป และเป็นการไปนอกเวลา ได้ฟังเหตุผลว่า ไปเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพ และผู้บังคับบัญชา โดยมองว่า ไม่สามารถห้ามจิตใจคนได้ ทั้งนี้ไม่ได้เป็นศัตรูใคร
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นการคุกคามสื่อ เพราะเป็นเพียงการไปแสดงออกถึงความรู้สึกต่อการเสนอข่าวที่ไม่ถูกต้อง ทำให้จนทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ เสียกำลังใจเพียงเท่านั้น แต่ก็ต้องขอโทษแทนนายทหารในฐานะลูกน้อง ซึ่งได้กำชับไปแล้วว่าไม่ให้ไปเคลื่อนไหวเช่นนี้อีก
ทั้งนี้ ผบ.ทบ. ปฏิเสธไม่ขอกล่าวถึง การออกมาตอบโต้ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยบอกว่า ตนไม่มีการทะเลาะกับใคร แต่ยอมรับว่า กรณีดังกล่าว ทำให้รู้สึกโกรธและเสียกำลังใจบ้าง แต่ต้องอดทนอดกลั้น และพยาพยามควบคุมอารมณ์ให้มากขึ้น “คนไทยด้วยกันทั้งนั้น ถ้าคิดว่าเหยียดหยามดูถูก ผมก็ขอโทษ” ข่าวในมติชนระบุ
ขณะเดียวกัน ในเวลา 14.35 น. หลังการแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ได้เผยแพร่“หมายเหตุ ASTVผู้จัดการ” มีเนื้อหาตอบคำแถลงของ พล.อ.ประยุทธ์ดังนี้
หมายเหตุ ASTVผู้จัดการ
“เอเอสทีวีผู้จัดการ” ขอแสดงความขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกที่ออกมาขอโทษต่อสังคม กรณีที่ทหารใต้บังคับบัญชานำกำลังพลมาแสดงพลังและคุกคามการทำงานของเราที่หน้าบ้านพระอาทิตย์ ถึง 2 ครั้ง 2 วัน เพราะการกระทำเช่นนั้นไม่มีประโยชน์อันใด และที่สำคัญ นี่เป็นบทพิสูจน์อันเป็นสัจธรรม ว่า ทางออกของการคลี่คลายปมปัญหานั้นไม่อาจแก้ไขด้วยการสำแดงพลังหรือการใช้กำลัง ทั้งยังไม่สามารถทำให้เราหวาดหวั่นในการทำหน้าที่ต่อการคุกคามนั้นเลย
“เอเอสทีวีผู้จัดการ” เป็นสื่อมวลชนที่ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงของสังคม บอกเล่าความเป็นไปในสังคม เป็นตะเกียงส่องทางให้สังคมก้าวเดินไปในวิถีทางที่ถูกต้องยามที่สังคมอยู่ในความมืดมน เราผ่านการพิสูจน์ตัวตนด้วยการกระทำทั้งในนามของผู้นำองค์กรและองค์กร ว่า เรามีจุดยืนในการปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของเรา และไม่เคยลังเลที่จะออกมาต่อสู้กับนักการเมืองที่โกงชาติ และเป็นศัตรูของบ้านเมือง
เช่นเดียวกัน เราซาบซึ้งในการทำหน้าที่ของกองทัพในการปกป้องชาติบ้านเมือง ทั้งภัยคุกคามจากลัทธิอุดมการณ์ทางการเมืองและปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และการร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพี่น้องประชาชนเมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ และเราตระหนักเสมอมาว่า กองทัพยังเป็นองค์กรหลักในการปกป้องชาติบ้านเมือง
แต่เรายังคงยืนยันว่า เราจะทำหน้าที่ตรวจสอบและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกองทัพ และผู้บังคับบัญชาของกองทัพต่อไปด้วยความตรงไปตรงมา และซื่อตรงต่อวิชาชีพ หากการทำงานของเรา มีความผิดพลาดบกพร่องและไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เราก็พร้อมจะน้อมรับคำชี้แจงจากกองทัพ ทั้งนี้ ต้องอยู่บนพื้นฐานการเคารพในการทำหน้าที่ของกันและกัน และตระหนักว่า ไม่เพียงแต่อาชีพของทหารที่มีศักดิ์ศรีเท่านั้น ความเป็นสื่อมวลชนก็มีศักดิ์ศรีเช่นเดียวกัน หรือถ้าพูดให้ถูกต้อง ก็คือ มนุษย์ทุกคนล้วนแล้วแต่มีศักดิ์ศรีที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าเขาผู้นั้นจะเป็นผู้บัญชาการทหารบก สื่อมวลชน หรือคนที่มีอาชีพต่ำต้อย
ไม่เพียงแต่เราพร้อมรับคำชี้แจงแล้ว เราขอยืนยันว่า ถ้าการทำงานของเราบกพร่อง และคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเราและสื่อในเครือเอเอสทีวีผู้จัดการ กองทัพและผู้บัญชาการทหารบกหรือใครก็ตามยังมีช่องทางในกระบวนการยุติธรรมและการร้องเรียนต่อองค์กรวิชาชีพ สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นวิถีทางอารยะในสังคมประชาธิปไตย
เราขอให้ผู้บัญชาการทหารบกทำหน้าที่ของท่านอย่างตรงไปตรงมาในการปกป้องชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ตราบใดที่ท่านยังมีจุดยืนในหน้าที่ของตัวเอง และปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากพระมหากษัตริย์อย่างเที่ยงตรง และตระหนักต่อภาระหน้าที่กระทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยคำนึงถึงชาติบ้านเมืองมากกว่าจะเป็นเครื่องมือของนักการเมือง หากเป็นเช่นนั้นแล้วเราขอยืนยันว่า ผู้บัญชาการทหารบกกับเรามีอุดมการณ์เดียวกัน
เราอยากส่งสารไปยังกำลังพลในกองทัพ ว่า เอเอสทีวีผู้จัดการไม่ใช่ศัตรูของกองทัพและชาติบ้านเมือง แต่ข้าศึกที่รุกล้ำอธิปไตยของชาติ นักการเมืองที่โกงกินชาติบ้านเมืองต่างหาก ลัทธิอุดมการณ์ทางการเมืองที่ต้องการจะล้มล้างเปลี่ยนแปลงการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขต่างหากที่เป็นศัตรูของกองทัพ ประชาชน และชาติบ้านเมือง เราเชื่อว่าประชาชนก็พร้อมที่จะเป็นกำลังหนุนเนื่องของกองทัพในการต่อสู้กับภัยของชาติบ้านเมืองเหล่านั้น
สุดท้ายนี้เราขอขอบคุณอีกครั้งต่อผู้บัญชาการทหารบกที่ได้ออกมาขอโทษสังคมต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป เราขอให้ท่านได้กระทำหน้าที่ของท่านอย่างซื่อตรงเต็มกำลัง และเราก็จะกระทำหน้าที่ของเราในฐานะสื่อมวลชนอย่างตรงไปตรงมาเช่นเดียวกัน