วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2559

กปปส.นับร้อยแห่เยี่ยมมือปืนป๊อบคอร์น สวมเสื่อชูเป็นซุปเปอร์ฮีโร่



8 มี.ค.2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 9.42 น. ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กชื่อ 'Somwang Treeyakit' โพสต์ภาพ ข้อความในลักษณะสาธารณะและระบุว่าเป็นภาพที่เรือนจำกลางบางขวาง พร้อมกล่าวว่า "จัดไปครับมวลชนมาให้กำลังใจน้องท็อปกันอย่างล้มหลามครับ" 
ที่มา ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กชื่อ 'Somwang Treeyakit
โดย มติชนออนไลน์ รายงานด้วยว่า เมื่อเวลา 10.30 น. บรรยากาศที่บริเวณจุดลงชื่อเยี่ยมญาติฝั่งตรงข้ามหน้าเรือนจำบางขวาง อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้มีกลุ่มชาวบ้านที่มีอุดมการณ์แนวร่วม กปปส.จำนวนกว่า 100 คน มีมาจากหลายจังหวัด อาทิ ปทุมธานี นนทบุรี อยุธยา ปราจีนบุรี พร้อมทั้งได้มีผู้นำเสื้อยืดคอกลมสีขาว สกรีนที่หน้าอกเป็นรูปถุงป๊อบคอร์น ลายเหลืองเขียวและภายในรูปถุงป๊อบคอร์น ได้มีการสกรีนเขียนตัวหนังสือ ภาษาอังกฤษว่า POP CORN SUPER HERO นำมาแจกจ่ายให้แก่ผู้ที่ร่วมอุดมการณ์ 100 ตัว จนหมดและไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยผู้ที่เดินทางมารวมกลุ่มให้กำลังใจเพื่อลงชื่อเข้าเยี่ยมนายวิวัฒน์ หรือท็อป ยอดประสิทธิ์ อายุ 24 ปี มือปืนป๊อปคอร์น ที่ถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำดังกล่าว ซึ่งวันนี้ได้มี น.ส.มนัสนันท์ หรือเก๋ อมรอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นภรรยา เข้าเยี่ยมพร้อมตัวแทน อีก 4 คน โดยทางเรือนจำได้กำหนดให้เข้าเยี่ยม สำหรับ แดน 6 ได้อาทิตย์ละ 2 วัน คือวันอังคารและวันพฤหัสบดี ในช่วงเวลา 10.30- 11.15 น.และ เวลา 11.15-12.00 น. สามารถเข้าเยี่ยมได้รอบครั้งละ 30 นาที เพื่อทางญาติจะได้เข้าถามความเป็นอยู่ของนายท็อป หรือมือปืนป๊อปคอร์น ว่าต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมหรืออยากได้อะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่
สำหรับคดีมือปืนป๊อปคอร์นนั้น เมื่อวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญา รัชดา ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวิวัฒน์ เป็นจำเลย จากเหตุรุนแรงบริเวณไอทีสแควร์หลักสี่ เมื่อครั้ง กปปส.นำมวลชนเดินทางไปขัดขวางการเลือกตั้ง 1 วันก่อนการเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 โดยศาลพิพากษาลงโทษทุกกระทงความผิดรวม 37 ปี 4 เดือน โดยแยกเป็น ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น จากลงโทษจำคุกตลอดชีวิต เหลือจำคุก 33 ปี 4 เดือน ข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน จากลงโทษจำคุก 3 ปี เหลือจำคุก 2 ปี และข้อหาพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะฯ จากลงโทษจำคุก 3 ปี เหลือจำคุก 2 ปี (อ่านรายละเอียด)
ซึ่งคดีดังกล่าว อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2557 สรุปพฤติการณ์จำเลยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557 เวลากลางวัน จำเลยกับพวกได้มีปืนเล็กยาวไม่ทราบชนิดและขนาด ติดตัวไปที่ทางแยกหลักสี่ เขตหลักสี่ พื้นที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และยิงปืนเข้าไปในอาคารศูนย์การค้าไอทีสแควร์ จน น.ส.สมบุญ สักทอง ผู้เสียหายที่ 1 นายอะแกว แซ่ลิ้ว ผู้เสียหายที่ 2 นายนครินทร์ อุตสาหะ ผู้เสียหายที่ 3 และนายพยนต์ คงปรางค์ ผู้เสียหายที่ 4 ได้รับอันตรายสาหัส เเละเป็นเหตุให้นายอะเเกว ผู้เสียหายที่ 2 เสียชีวิตภายในระยะเวลาต่อมา
ทั้งนี้ นายอะแกว แซ่ลิ้ว วัย 72 ปี ผู้เสียหายที่ 2 ในคดีนี้ ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสจนต้องนอนอัมพาต เกือบ 8 เดือน ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

คณะส่องราชภักดิ์ ให้การชี้ 'พล.ต.ธรรมนูญและพวก' กระทำข่มขืนใจ-กักขังให้ปราศจากเสรีภาพ

ภาพขณะจ่านิวถูกควบคุมตัว เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2558 (ที่มา แฟ้มภาพ ประชาไท)

‘จ่านิว’ และคณะนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง ให้การเพิ่มเติมที่กองปราบฯ กล่าวหา พล.ต.ธรรมนูญ วิถี กับพวกรวม 6 คน สั่งการให้ จนท.เข้าจับกุมที่สถานีรถไฟบ้านโป่งก่อนนำตัวไปควบคุมทธมณฑล อันเป็นการกระทำข่มขืนใจ หน่วงเหนี่ยวกักขังให้ปราศจากเสรีภาพ ด้านพล.ต.ธรรมนูญ ยันวันเกิดเหตุไปช่วย 'จ่านิว-ทนายสิทธิ' ออกมาจากพื้นที่
8 ม.ค. 2559 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค. ที่ผ่านมา นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นายกิตติธัช สุมาลย์นพและนายวิศรุต อนุกุล  เข้าให้การเพิ่มเติมต่อ ร.ต.อ.วิชิต สันติสิทธิมนธร รองสารวัตร(สอบสวน) กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม เป็นการให้ข้อเท็จจริงประกอบการแจ้งความเพิ่มเติม หลังวันที่ 6 มี.ค. 2559 จ่านิวและพวกได้เข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีต่อ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผบ.กองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกรณีเจ้าหน้าที่กระทำการข่มขืนใจ กักขังหน่วงเหนี่ยวทำให้ปราศจากเสรีภาพ
โดยเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา ทั้งสามคนได้แจ้งความให้ดำเนินคดีกับ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผบ.พล.ร.9, พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช., นายสุรพล แสวงศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี, นายธวัช สุระบาล รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี, นายสมยศ พุ่มน้อย นายอำเภอบ้านโป่ง, พ.ต.อ.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผกก.สภ.บ้านโป่งและพวกซึ่งยังไม่ทราบชื่อและจำนวน ในข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขังให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และข่มขืนใจ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 และมาตรา 310 โดยมี ร.ต.อ.วิชิต สันติสิทธิมนธร เป็นผู้รับแจ้งความและลงบันทึกประจำวัน โดยมีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตามมาสังเกตการณ์การแจ้งความดำเนินคดีด้วย
นายสิรวิชญ์เปิดเผยว่า สาเหตุที่มาร้องทุกข์ที่กองบังคับการปราบปราม เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองชั้นผู้ใหญ่ในท้องที่เกิดเหตุหรือสถานที่ที่การกระทำความผิดเกิดขึ้น จึงเกรงว่าหากร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งกองบังคับการปราบปรามยังมีอำนาจสอบสวนการกระทำความผิดทางอาญาที่เกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรอีกด้วย
พล.ต.ธรรมนูญ ยันวันเกิดเหตุไปช่วย 'จ่านิว-ทนายสิทธิ' ออกมาจากพื้นที่
มติชนออนไลน์ รายงาน ด้วยว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.59 พล.ต.ธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีกล่าวนี้ด้วยว่า ขณะนี้ทางฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการอยู่ ตนยืนยันว่าทำตามหน้าที่ และไปช่วยจ่านิวออกมาจากพื้นที่ พร้อมทั้งมีทนายสิทธิมนุษยชนที่อยู่ในวันเกิดเหตุ และร่วมพูดคุยกับจ่านิวเป็นพยาน
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รายงานการให้การของทั้ง 3 คนด้วยดังนี้ 
นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ ให้การว่า เมื่อวัน 7 ธ.ค. 2558 ตนนั่งรถไฟโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการท่องเที่ยวและตรวจสอบการทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบทุจริตในโครงการต่างๆของรัฐได้ จึงได้ประกาศเชิญบุคคลที่สนใจนั่งรถไฟไปด้วยผ่านเฟซบุ๊กของตนระหว่างการเดินทางได้ถูกเจ้าหน้าที่ขัดขวางและเข้าจับกุมที่สถานีรถไฟบ้านโป่งโดยไม่แจ้งสิทธิในการเข้าจับกุม และถูกควบคุมตัวที่หน่วยทหารภายในพุทธมณฑล
นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติต่อตนอย่างรุนแรงในระหว่างการจับกุมและควบคุมตัวไปยังพุทธมณฑล ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี และเจ้าหน้าที่ตามที่ตนได้กล่าวหา
นายวิศรุต อนุกุลการย์ ให้การว่า เมื่อวัน 7 ธ.ค. 2558 ตนได้เข้าร่วมกิจกรรมนั่งรถไฟไปราชภักดิ์และเดินทางไปด้วยตนเอง ซึ่งทราบว่าไม่มีการห้ามเดินทาง และเป็นสิทธิที่จะเดินทางไปได้ การเดินทางครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อตรวจสอบการทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ตามที่เป็นข่าวในสื่อมวลชนแต่ขณะที่นั่งรถไฟมาถึงสถานีบ้านโป่ง เจ้าหน้าที่เข้ามาบอกให้ยุติการเดินทาง แต่ตนและพวกไม่ยอมจึงถูกควบคุมตัวไปที่ห้องประชุมของสถานีรถไฟบ้านโป่งก่อนถูกนำตัวไปยังหน่วยทหารที่พุทธมณฑลวิศรุตจำได้ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงและเจ้าหน้าที่ตำรวจชายเข้ามาพูดคุยด้วยที่พุทธมณฑลเพื่อสอบถามว่าชุมนุมกันอย่างไรมากันกี่คนทราบข่าวจากไหน แต่ไม่ได้แจ้งสิทธิใดๆให้ตนทราบ ก่อนนำเอกสารบางอย่างมาและยืนยันให้ลงชื่อ ซึ่งตนยอมลงชื่อแต่ขีดฆ่าในภายหลัง ซึ่งการดำเนินการทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ พล.ต.ธรรมนูญ วิถี และเจ้าหน้าที่ตามที่ตนได้กล่าวหา
‘แชมป์ 1984’ นายกิตติธัช สุมาลย์นพ ให้การว่าตนเห็นว่าการร่วมกิจกรรมนั่งรถไฟไปราชภักดิ์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2558 ไม่มีลักษณะเป็นกิจกรรมทางการเมือง เพราะระหว่างทางนายสิรวิชญ์ได้บรรยายถึงของดีและสถานที่สำคัญของแต่ละท้องที่ตามทางที่รถไฟผ่านมาตลอดทางตนจึงถือโอกาสมาเที่ยวและตรวจสอบสอบทุจริตของโครงการราชภักดิ์ไปในตัว  เนื่องจากโครงการดังกล่าวสร้างมาจากเงินภาษีประชาชนที่ประชาชนควรมีสิทธิตรวจสอบได้  เมื่อรถไฟมาถึงสถานีบ้านโป่ง พล.ต.ธรรมนูญ วิถี เป็นผู้สั่งการที่สถานีรถไฟบ้านโป่งและออกคำสั่งให้จับกุมผู้ร่วมกิจกรรม ก่อนสั่งให้ทหารพาตนออกจากตู้รถไฟไปขังไว้ที่ห้องประชุมสถานีรถไฟบ้านโป่งโดยอ้างว่าเกรงจะมีมวลชนฝั่งตรงข้ามจะเข้ามาทำร้าย แต่ตนสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้จับกุมมวลชนฝั่งตรงข้าม จึงเข้าใจว่าเป็นข้ออ้างของเจ้าหน้าที่เท่านั้น
‘แชมป์ 1984’ ให้การอีกว่า ระหว่างการจับกุม เจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งสิทธิ และนำตัวไปกักขังที่ค่ายพุทธมณฑล ซึ่งมี พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เป็นผู้คุมสถานการณ์ที่พุทธมณฑล และออกคำสั่งให้ทหารควบคุมตัวแชมป์ไว้ในห้องเพียงคนเดียว โดยไม่ให้ทนายเข้าพบกว่า 3 ชั่วโมง
นอกจากนี้กิตติธัชได้มอบภาพถ่ายวันเกิดเหตุ ขณะถูกเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารจับกุมเป็นหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมหลักฐานจากหนังสือพิมพ์ วันที่ 7 ธ.ค. 2558 ยืนยันว่า โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรีอนุญาตให้ตนกับพวกเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ได้
สิรวิชญ์กับพวก ให้การต่ออีกว่า หากพบหลักฐานเพื่มเติม จะนำมาพบพนักงานสอบสวน ภายใน 1 เดือน หลังจากเสร็จสิ้นการให้ปากคำเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนให้นายสิรวิชญ์กับพวกตรวจสอบความถูกต้อง และลงชื่อในเอกสารให้การเพิ่มเติม  ก่อนจะรวบรวมสำนวนเพื่อยื่นต่อผู้บังคับบัญชาต่อไป

ลดแลกแจกแถม สมคิด เผย 'โครงการบ้านประชารัฐ' ได้ข้อสรุปแล้ว 99%


ชงเข้า ครม. สัปดาห์หน้า คนซื้อบ้านหลังแรกคิดอัตราดอกเบี้ยในช่วงแรกต่ำสุดที่ 0%  เอกชนร่วมจ่ายค่าโอน-ค่าจดจำนอง-ค่านิติบุคคลปีแรก-ดอกเบี้ยอีก 2%
เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า บ้านประชารัฐ ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้ว 99% โดยอยู่ระหว่างต่อรอง ว่าให้เอกชนช่วยเรื่องค่าธรรมเนียมการโอน ค่าจดจำนอง และอื่น ๆ เพื่อช่วยประชาชนที่ซื้อบ้าน
"เอกชนเขารับปากแล้ว จะมีค่าโอน ค่าจดจำนอง และค่าอะไรอีกอย่าง รวม ๆแล้วกว่า 3% ก็จะให้เอกชนรับภาระไป แล้วก็ให้เขาลดราคาให้ด้วย ไหนๆ ก็รวยแล้ว ช่วยประชาชนบ้าง ส่วนแบงก์ก็กำลังคุยกันว่าจะทำไงให้ดอกเบี้ยถูกลง เพื่อให้คนมีรายได้น้อยมีบ้านของตัวเองได้" นายสมคิดกล่าว
 
นายสมคิด กล่าวว่า การสนับสนุนให้ผู้มีรายได้น้อยมีบ้านของตัวเอง คงไม่ต้องไปกังวลเรื่องหนี้ เพราะคนเราต้องมีบ้านอยู่ เป็นเรื่องความมั่นคงของชีวิต
 
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมโครงการบ้านประชารัฐ ร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ว่า มีข้อยุติชัดเจนที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาสัปดาห์หน้า เพื่อให้โครงการนี้มีผลในเดือน มี.ค.นี้ “จะยกเลิกเพดานที่กำหนดให้ประชาชนที่จะซื้อบ้านประชารัฐได้ ต้องมีรายได้น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน แต่จะกำหนดเงื่อนไขที่ราคาบ้านแทนคือ ราคาไม่เกิน 1.5 ล้านบาท และต้องเป็นบ้านหลังแรก โดยจะคิดอัตราดอกเบี้ยในช่วงแรกต่ำสุดที่ 0% เพื่อให้ผู้กู้มีภาระผ่อนชำระหนี้ต่องวดน้อยที่สุด และยังขยายออกไปถึงการซ่อมแซมและตกแต่ง รวมถึงการปลูกบ้านบนที่ดินของตนเอง ซึ่งจะครอบคลุมประชาชนทุกระดับ ทั้งในเขตเมืองและต่างจังหวัด”
 
สำหรับโครงการบ้านประชารัฐ มีหลักการคือ  1. บ้านเช่าจะชำระค่าเช่าเป็นรายเดือนหรือรายปีก็ได้ ภายใต้การดูแลของกรมธนารักษ์  2. บ้านเช่าระยะยาว 30 ปี อยู่ภายใต้การดูแลของกรมธนารักษ์ ล่าสุดมีที่ราชพัสดุที่สามารถนำร่องโครงการนี้ได้ 4 แปลง เช่น เชียงใหม่ เชียงราย เป็นต้น 3.บ้านซื้อ เป็นการร่วมมือจากภาคเอกชน 4.การซ่อมแซมและตกแต่ง และ 5.การปลูกบ้านในที่ดินของตนเอง รวมวงปล่อยกู้ 70,000-80,000 บาท
 
ด้าน นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท ระบุว่า ภาคเอกชนทั้ง 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร และสมาคมอาคารชุดไทย พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ทั้งหมดจะให้ความช่วยเหลือในส่วนของค่าโอน ค่าจด จำนอง และการออกค่านิติบุคคลให้เป็นระยะเวลา 1 ปี รวมถึงช่วยสนับสนุนดอกเบี้ยให้แก่ลูกค้าในอัตรา 2% เพื่อให้ธนาคารของรัฐที่เข้าร่วมโครงการ ได้แก่  ธอส. และธนาคารออมสิน มีต้นทุนเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
 
"เอกชนจะรับภาระในส่วนต่างๆ คิดเป็นต้นทุน 4-5% และมองว่าสิ่งที่จะได้กลับมา คือ โอกาสในการขายที่อยู่อาศัยได้มากขึ้น" นายทองมา กล่าว

'จ่านิว' โดนข้อหาเพิ่มคดีเลือกตั้งที่(รัก)ลัก ทนายชี้ขัดหลักกฎหมาย - เลื่อนฟังคำสั่งฟ้องคณะส่องราชภักดิ์



9 มี.ค. 2559 เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'Banrasdr Photo' รายงานว่า สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว กลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ทนายอานนท์ นำภา สมาชิกกลุ่มพลเมืองโต้กลับ กิตติธัช สุมาลย์นพ กรกนก คำตา วิศรุต อนุกูลการย์ และวิจิตร หันหาบุญ เดินทางมาเข้ารับฟังคำสั่งในคดีที่พนักงานสอบสวนสน.รถไฟธนบุรี ทำสำนวนส่งฟ้อง 6 ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน มั่วสุม ชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ขัดประกาศคสช.ฉบับที่ 3/2558 จากที่ทั้งหมด ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม ขึ้นรถไฟ "ส่องแสงหากลโกง" ไปที่อุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.58
 
โดยคดีนี้ทนายจำเลย ได้ยื่นคำร้องต่ออัยการทหาร ขอให้พนักงานสอบสวนสน.รถไฟธนบุรี สอบปากคำพยาน เพิ่มเติมอีก 2 ปาก คือ ชำนาญ จันทร์เรือง ประธานกรรมการองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และ จันจิรา เอี่ยมมยุรา อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อัยการทหารพิจารณาแล้ว จึงเลื่อนการนัดฟังคำสั่งฟ้องไปเป็นวันที่ 25 เม.ย.นี้
 
ทนายชี้ขัดหลักกฎหมาย จ่านิวโดนแจ้งข้อหาเพิ่ม คดีเลือกตั้งที่ (รัก) ลัก
 
ขณะที่ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานด้วยว่า วานนี้ (8 มี.ค.59) เวลา 16.00 น. สิรวิชญ์เดินทางไปยัง สน.ปทุมวัน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา กรณีร่วมกิจกรรม ‘เลือกตั้งที่ (รัก) ลัก’ วันที่ 14 ก.พ. 2558 ณ บริเวณลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ รองผู้กำกับการ สน.ปทุมวัน ในฐานะพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาแก่สิรวิชญ์ว่า ผู้ต้องหามีความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการปล่อยตัวบุคคลที่ถูกกักตัว ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ม.15 ทวิ ซึ่งถือเป็นความผิดตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 40/2557 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
จากบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหา ระบุว่า เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2557 สิรวิชญ์เคยถูกกักตัวไว้ที่สนามกีฬากองทัพบกตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก จากกิจกรรมกินแซนด์วิชที่ห้างสยามพารากอน และได้รับการปล่อยตัว โดยต้องลงชื่อรับรองว่า จะละเว้นการเคลื่อนไหวการชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใด ๆ และหากฝ่าฝืนเงื่อนไขดังกล่าว หรือดำเนินการช่วยเหลือสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง ยินยอมที่จะถูกดำเนินคดีและถูกระงับธุรกรรมทางการเงิน
ต่อมา สิรวิชญ์ได้ไปร่วมกิจกรรมเลือกตั้งที่ (รัก) ลัก ตามคำเชิญชวนในเฟซบุ๊ก ‘อานนท์ นำภา’ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2558 ก่อนถูกจับกุมและดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกับพวกที่หลบหนีตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป มั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใด ๆ อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศ คสช. ที่ 7/2557 ซึ่งการร่วมกิจกรรมในวันดังกล่าวถือเป็นการฝ่าฝืนเงื่อนไขการปล่อยตัวที่สิรวิชญ์เคยลงชื่อไว้เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2557
นอกจากนี้ บันทึกการแจ้งข้อกล่าวหายังระบุอีกว่า การแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ เป็นการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม เนื่องจากอัยการศาลทหารกรุงเทพมีหนังสือด่วนมาก เรื่อง ขอให้สอบสวนเพิ่มเติม มาถึง สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2558
ด้าน สิรวิชญ์ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยไม่ขอให้การในชั้นสอบสวน แต่จะขอให้การโดยละเอียดในชั้นพิจารณาของศาลเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม  ภาวิณี ชุมศรี ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมีความเห็นว่า การแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่อัยการศาลทหารกรุงเทพมีความเห็นสั่งฟ้องคดีเลือกตั้งที่ (รัก) ลัก ไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2558 ซึ่งหากพิจารณาตามบันทึกแจ้งข้อกล่าวหา จะเห็นได้ว่าเป็นเหตุและการกระทำเดียวกันกับคดีที่ถูกฟ้องให้ศาลทหารดังกล่าว ซึ่งถือว่าการสอบสวนและรวบพยานหลักฐานจากกระทำนั้นได้เสร็จสิ้นลงไปแล้ว หากมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มหลังฟ้องคดี ถือได้ว่าผิดหลักกฎหมายทั่วไปที่ระบุว่า บุคคลไม่อาจถูกลงโทษหลายครั้งสำหรับการกระทำความผิดครั้งเดียวได้
ภาวิณี ยังให้ข้อมูลอีกว่า ปัจจุบันคดีเลือกตั้งที่ (รัก) ลัก อยู่ระหว่างรอคณะกรรมการการแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามประกาศ คสช. ฉบับที่ 40/2557 ในกรณีสิรวิชญ์นี้ ถือเป็นการนำเอาประกาศ คสช. ฉบับที่ 40/2557 มาใช้ดำเนินคดีเป็นคดีแรกจากการติดตามคดีของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนอีกด้วย