วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2557

Timeline : ใครทำลายการเลือกตั้ง


เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 2557 สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง ได้เปิดเผยว่า ทางสักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำลังเร่งพิจารณารวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อเรียกค่าเสียหายจากบุคคลที่ทำให้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 เป็นโมฆะ รวมจำนวนกว่า 3 พันล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมากกต.มีจุดยืนว่าเป้าหมายสำคัญของการทำงานคือจะต้องจัดการ เลือกตั้งให้เกิดความคุ้มค่า เกิดความสำเร็จ งบประมาณต้องไปสูญเปล่า ไม่มีการบาดเจ็บล้มตายหรือเกิดความขัดแย้งจนทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย
"การเลือกตั้งครั้งนั้น กกต.พยายามส่งสัญญาณให้รัฐบาลขณะนั้นได้รับทราบทุกวิถีทางว่าถ้าจัดการเลือก ตั้งต่อไปการเลือกตั้งต้องเป็นโมฆะ เนื่องจาก 28 เขตเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ไม่สามารถรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตได้ ดังนั้นการเลือกตั้งจะไม่สามารถเกิดขึ้นภายในวันเดียวกันได้ เพราะตามหลักกฎหมายระบุไว้ชัดเจนว่าการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นภายในวันเดียว จัดไม่พร้อมกันเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ จะส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ แต่รัฐบาลขณะนั้นไม่ฟังเรากลับมองว่ากกต.กำลังจินตนาการ พูดเหตุการณ์ล่วงหน้า" สมชัยกล่าว
ประชาไท รวบรวมเหตุการณ์ ไล่เรียงจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2556 ไปจนถึงวันอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญปมเลือกตั้งโมฆะเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2557 เพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงในการช่วยค้นหาความจริง
000
9 ธ.ค. 2556 – ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภา
“การคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินด้วยการยุบสภาเเละเลือกตั้งใหม่ให้เป็นไปตาม หลักประชาธิปไตยเเละเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ประชาชนต้องตัดสินว่า คนส่วนใหญ่ต้องการเเนวทางใดเเละให้ใครมาบริหารประเทศตามเเนวทางนั้น ขอเชิญทุกกลุ่มเเละทุกพรรคใช้เวทีเลือกตั้งนำเสนอทางเลือกให้คนไทย” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
15 ธ.ค. 2556 - สุเทพขู่ หากรัฐบาลจัดเลือกตั้ง ก็จะ 'เกิดแอคซิเด็นท์' ไม่ราบรื่น บ้านเมืองวุ่นวาย
“พูดภาษาคนแบบนี้เข้าใจไหมยิ่งลักษณ์ แล้วก็ด้านอยู่นั่นแหละ จะชวนให้ไปเลือกตั้งลูกเดียว ก็กูไม่ไป กูไม่ไป จะชวนกูไปไหน ก็บอกแล้วว่าเลือกตั้งสูตรเดิม กติกาเดิม พวกมึงก็โกงอีก มึงก็ซื้อคะแนนอีก แล้วมึงกลับมาเป็นรัฐบาลอีก แล้วโกงอีก พวกกูต้องมาใหม่ ไม่ไหวเว้ยเหนื่อย แล้วก็ประกาศเลยว่าถ้ายังดื้อดึงดันจะจัดการเลือกตั้งให้ได้ ผมบอกเลยคุณยิ่งลักษณ์ไม่มีทางได้เลือกตั้ง และถึงแม้เลือกตั้ง ไม่มีทางราบรื่น ไม่มีทางได้ ส.ส. ครบทุกเขต อย่างน้อยที่สุดกรุงเทพฯ และสุราษฎร์ ไม่มีคนได้รับเลือกตั้งแน่นอน” สุเทพ เทือกสุบรรณ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
20 ธ.ค. 2556 - พรรคประชาธิปัตย์ทำหนังสือชวนทุกพรรค “เลื่อนเลือกตั้ง”
โฆษกประชาธิปัตย์สนับสนุนให้เลื่อนเลือกตั้ง 2 ก.พ. ออกไปก่อน เรียกร้องทุกพรรคการเมืองแสดงเจตนารมณ์ร่วมกัน เพื่อปลดเงื่อนเวลา แล้วหันมาหารือเรื่องการปฏิรูป ยันไม่ปฏิเสธเลือกตั้ง แต่บรรยากาศขณะนี้จัดเลือกตั้งเรียบร้อยไม่ได้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
21 ธ.ค. 2556 - พรรคประชาธิปปัตย์ คว่ำบาตรการเลือกตั้ง 2 ก.พ. 2557
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แถลงประชาธิปัตย์ไม่ส่งผู้สมัครเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 เพื่อหยุดภาวะการเมืองล้มเหลว-กระบวนการประชาธิปไตยบิดเบือนโดยคนบางกลุ่มมา 8-9 ปี โดยพรรคเคยทำแบบนี้สมัย 2495 และ 2549 ซึ่งพิสูจน์ว่าไทยรักไทยแข่งกับตัวเองยังทุจริตถึงขั้นยุบพรรค ท้าพรรคอื่นลงเลือกตั้งให้ประกาศด้วยว่ามาต่ออายุระบอบทักษิณ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
22 ธ.ค. 2556 - สุเทพปราศรัย ถ้ามีการเลือกตั้งจะได้เห็นดีกัน
"ถ้ารัฐบาล และ กกต. ดึงดันให้มีการเลือกตั้ง เท่ากับท้าทายคนไทยทั้งประเทศ จะต้องเห็นดีกัน แล้วไม่ต้องมากล่าวหา ว่าเราต่อต้านการเลือกตั้ง เราไม่ได้ต่อต้านการเลือกตั้ง แต่เราต้องการเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่มีการซื้อเสียง ไม่ต้องการให้พวกอัปรีย์เข้ามาเป็นใหญ่ในบ้านเมืองต่อไป" สุเทพ เทือกสุบรรณ(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
เมื่อเวลา 21.50 น. ที่เวทีย่อยของ กปปส. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมีการยุบเวทีแล้ว และมีการย้ายมาตั้งเวทีใหม่ที่หน้า ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) หรือ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง สถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมี อิสระ สมชัย แกนนำ กปปส. พาผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนมาปักหลักค้างคืน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
23 ธ.ค. 2556 - กปปส. แสดงพลัง หน้าสถานที่รับสมัคร ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อ
05.00 น.แกนนำ กปปส.นำโดย นายอิสสระ สมชัย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายสมศักดิ์ โกสัยสุข พร้อมด้วยกลุ่มมวลชน ได้ทยอยเดินทางไปชุมนุมบริเวณถนนมิตรไมตรี เพื่อปิดล้อมทางเข้าศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร(ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง ซึ่งเป็นสถานที่ในการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ ระหว่างวันที่ 23-27 ธันวาคม  โดยนำรถบรรทุก พร้อมเครื่องขยายเสียง มาจอดไว้ตามประตูทางเข้าเกือบทุกประตู (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
24 ธ.ค. 2556 - กกต. แถลงการรับสมัครวันแรกยังไม่สมบูรณ์ ยันสมัครต่อที่เดิมได้ถึง 27 ธ.ค.
สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า กระบวนการทั้งหมดในวันนี้ ยังไม่ถือเป็นการรับสมัครที่สมบูรณ์ ซึ่งยังอยู่ระหว่างขั้นตอนตรวจสอบหลักฐาน เอกสาร หากเรียบร้อยแล้ว จะนัดจับสลากหมายเลขกันอีกครั้งต่อหน้าสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม สำหรับพรรคที่ไม่สามารถเข้าไปลงสมัครในวันนี้ได้ ยังสมัครได้จนถึงวันที่ 27 ธ.ค. ที่สนามกีฬาเวสน์ ศูนย์กีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
25 ธ.ค. 2556 – คปท. บุกสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง เรียกร้อง กกต. ยุติจัดเลือกตั้ง
07.00 น.ที่ผ่านมา ปีกหนึ่งของ กปปส. คือเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) ที่ชุมนุมอยู่ที่สะพานชมัยมรุเชฐ ใกล้ทำเนียบรัฐบาล ได้ตั้งขบวนออกเดินทางไปที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง สถานที่รับสมัครลงเลือกตั้งเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง โดยไปถึงเมื่อเวลาประมาณ 08.10 น.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้เข้าปิดล้อมอาคารกีฬาเวสน์ 2 ไม่ให้นักการเมืองเข้าไปยื่นใบสมัครได้  ต่อมาเวลา 08.30 น.กลุ่ม คปท. ได้บุกเข้าไปในบริเวณสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง พร้อมนำธงชาติขนาดใหญ่ขึงรอบอาคารกีฬาเวสน์ 2 เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ กกต.รับสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ และตั้งเวทีย่อย บนรถขยายเสียงและปราศรัยให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ กกต. ทหาร ตำรวจ หยุดทำหน้าที่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
25 ธ.ค. 2556 – สุเทพลั่น “ปฏิวัติประชาชน” ต้องจบก่อนเลือกตั้ง
"ผมอยากนัดหมายคร่าวๆ กับพี่น้องทั้งหลาย ต้องเอาให้จบในเดือนมกราคม ไม่ต้องรอถึงวันเลือกตั้ง เพราะขืนรอถึงวันเลือกตั้ง มันชนะแหงๆ เพราะไม่มีคู่แข่ง มีแต่พรรคกะเฬวรากที่ไปเข้าด้วยเป็นตัวประกอบ พรรคเพื่อไทยก็ชนะมาระเบิดเถิดเทิง คนเลวทั้งหลายก็ตบเท้าเข้าสภา ถ้าเราไปทำช้ากว่านั้น มันก็อ้างอีกว่า "ดิฉันมาจากการเลือกตั้ง" เสร็จมันอีก ต้องจบ ก่อนวันที่ 2 ก.พ. เพราะฉะนั้นต้องจบให้ได้ในเดือนมกราคม ฟิตร่างกายเอาไว้ พี่น้อง" สุเทพ เทือกสุบรรณ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
26 ธ.ค. 2556 – 5 เสือ กกต. เสนอรัฐบาล เลื่อนเลือกตั้ง
ปรากฏการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ กกต.เคยส่งสัญญาณต่อผู้มีส่วนรับผิดชอบแล้วว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ และยิ่งจะทวีความรุนแรงหากเดินหน้าจัดการเลือกตั้งต่อไป จนอาจเป็นต้นเหตุของความไม่สงบ ความโกลาหล การจลาจลและการสูญเสียเลือดเนื้อของพี่น้องประชาชน
กกต.ขอส่งข่าวสารผ่านแถลงการณ์ฉบับนี้ถึงรัฐบาล คู่ขัดแย้ง และทุกภาคส่วนในสังคม ว่าการเลือกตั้งวันที่ 6 ก.พ.57 จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากไม่มีการทำความเข้าใจและสร้างข้อตกลงร่วมกันเพื่อความสงบสุขในสังคม ระหว่างฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น กกต.จึงขอให้รัฐบาลพิจารณาเลื่อนการเลือกตั้งออกไป จนกว่าจะมีข้อตกลงร่วมกันดังกล่าว ทั้งนี้ กกต.พร้อมที่จะทำหน้าที่เป็นคนกลางในการหาข้อยุติร่วมกัน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
27 ธ.ค. 2556 – เครือข่ายแพทย์ฯ 9 สถาบัน แนะยกเลิกการเลือกตั้ง 2 ก.พ.
เครือข่ายแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ 9 สถาบันเพื่อการปฏิรูปประเทศขอให้รัฐบาลยกเลิกกำหนดการเลือกตั้งในวันที่  2 ก.พ. 2556 เนื่องจากจะเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้มีมวลมหาประชาชนออกมาต่อต้านรัฐบาล และก่อให้ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่อาจลุกลามบานปลาย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
29 ธ.ค. 2556 – กปปส. สงขลารื้อสถานที่ รับสมัคร ส.ส. แบ่งเขต (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
30 ธ.ค. 2556 – สองผู้สมัครสงขลาแจ้งความถูกขัดขวางสมัครรับเลือกตั้ง  (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
1 ม.ค. 2557 - สรุปยอดผู้สมัคร ส.ส. 28 เขต ภาคใต้ไร้ผู้สมัคร เหตุถูกขัดขวาง (อ่านที่เกี่ยวข้อง)
16 ม.ค. 2557 – สมชัย ส่งหนังสือเชิญยิ่งลักษณ์คุยเรื่อง เลื่อนการเลือกตั้ง ชี้สถานการณ์ไม่ปกติถ้าดึงดันให้มีเลือกตั้งจะเห็นนรกอยู่ตรงหน้า
“หากเลื่อนการเลือกตั้งออกไปช่วงเดือน พ.ค. ช่วงเวลา 2-3 เดือนนี้ ก็พอมีเวลาปฏิรูปหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎหมาย และทุกคนจะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง โดยทุกคนพร้อมใจกันช่วยอย่างสันติ แต่รัฐบาลกลับเลือกสงครามที่ดึงดันเดินหน้าให้มีการเลือกตั้งต่อไป
กปปส.เป็นกลุ่มคนจำนวนมากในสังคมที่มีความปารถนาที่จะเปลี่ยนแปลงสภาพสังคม ไปในทางที่ดีขึ้น รวมทั้งเป็นพวกที่หมดความศรัทธาต่อการเมืองและนักการเมืองในปัจจุบัน แต่ความคิดนี้อาจจะเร็วและค่อนข้างอยู่นอกกรอบกฎหมาย รูปแบบแนวคิดสภาประชาชนยังไม่น่าจะเป็นที่ยอมรับได้จากสังคม ต้องตั้งคำถามว่าข้อเสนอของกปปส.มันสามารถสะท้อนเสียงประชาชนได้จริงหรือไม่ แต่ดูแล้วมันยังไม่เป็นประชาธิปไตย นี่เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าถ้าต้องมีการปฏิรูปต้อง ต้องดูตั้งแต่องค์กรที่คิดปฏิรูป ซึ่งการปฏิรูปไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นใหม่ ส่วนจะสำเร็จหรือไม่นั้นคืออยู่ที่ฝ่ายการเมืองต้องมองเรื่องการปฏิรูปอย่างถูกต้อง” สมชัย ศรีสุทธิยากร (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
18 ธ.ค. 2557 – กปปส. บุกโรงพิมพ์คุรุสภา สั่งหยุดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง
ผู้ชุมนุม กปปส. ประมาณ 100 คน นำโดยนายถาวร เสนเนียม ได้ออกเดินทางจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปที่โรงพิมพ์คุรุสภา เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านในยุติการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง
ทั้งนี้ข่าวสดรายงาน ว่า ผู้ชุมนุม กปปส. ได้ตัดน้ำตัดไฟไม่ให้เครื่องพิมพ์ใช้งานได้ จากนั้นเดินตรวจภายในโรงพิมพ์ พร้อมบอกให้เจ้าหน้าที่ขององค์การค้าของคุรุสภา เก็บของกลับบ้าน ขณะเดียวกัน ทางผู้บริหารโรงพิมพ์คุรุสภา ได้ประกาศสั่งปิดทำการชั่วคราว และให้พนักงานทุกคนกลับบ้านเพื่อความปลอดภัย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
20 ม.ค. 2557 – สุเทพ ลั่นไม่เอาเลือกตั้ง 2 ก.พ. จะเดินหน้าปฏิรูปการเมืองก่อน
“ไม่ต้องไปเพ้อเจ้อตามไอ้ยิ่งลักษณ์ มันบอกมันไม่สน มันจะเดินหน้าจะเลือกตั้ง ส่วนพวกเราไม่สน เราจะเดินหน้าปฏิรูปประเทศ และยืนยันว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. ไม่เกิดขึ้นแน่นอน” (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
23 ม.ค. 2557 - ศาล รธน. รับคำร้อง กกต. เรื่องอำนาจเลือนการเลือกตั้ง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
24 ม.ค. 2557 – ศาล รธน. วินิจฉัย เลื่อนเลือกตั้งทำได้ ให้นายก – ประธาน กกต. ไปคุยกัน (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
24 ม.ค. 2557 – กปปส. ยันไม่ขัดขวางเลือกตั้งล่วงหน้า แต่ถ้ามวลชนไปคัดค้านเอง ถือเป็นสิทธิ์ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
26 ม.ค. 2557 – กปปส. กทม. และภาคใต้ ออกคัดค้านเลือกตั้งล่วงหน้า หลายจังหวัดจัดการเลือกตั้งไม่ได้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
27 ม.ค. 2557 – กกต. เตรียมเสนอ เลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
28 ม.ค. 2557 - สุเทพสั่ง กปปส. ทุกจังหวัด เตรียมล้มการเลือกตั้ง 2 ก.พ.
"วันนี้เมื่อยิ่งลักษณ์และสมุนบริวาร ยังดึงดันให้มีเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์อีก ก็เป็นหน้าที่ของเหล่าพลเมืองดี ต้องลุกขึ้นมาต่อต้าน คัดค้านการเลือกตั้งครั้งนี้ จึงขอประกาศไปยัง กปปส.ทุกจังหวัด ทุกพื้นที่เตรียมการทุกอย่าง เพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ และเราจำเป็นต้องเร่งรัดยกระดับการต่อสู้ เพื่อขจัดระบอบทักษิณ ขับไล่ยิ่งลักษณ์และบรรดาสมุนบริวารให้หมดอำนาจ ถ้าทำได้ก่อนวันที่ 2 กุมภาพันธ์จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ซึ่งเราต้องร่วมมือกัน ปฏิบัติการยึดกรุงเทพฯ ของมวลมหาประชาชนเพื่อป้องกัน ไม่ให้ข้าราชการทำงานเป็นเครื่องมือรับใช้ระบอบทักษิณ จึงเป็นการกระทำที่ถูกต้อง และเราต้องปิดให้สนิท ไม่ให้กระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ทำงานเป็นเครื่องมือระบอบทักษิณอีกต่อไป" สุเทพ เทือกสุบรรณ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
1 ก.พ. 2557 - กปปส. เคลื่อนพลยึดเขตเลือกตั้งหลักสี่ เกิดเหตุปะทะกัน ด้าน กกต. ประกาศยกเลิกเลือกทั้งทั้งเขตหลักสี่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
2 ก.พ. 2557 - 5 จังหวัดภาคใต้ ไม่มีการเลือกตั้ง เพราะกปปส.สงขลา ยึดบัตรไว้หมดแล้ว
ล่าสุดในเพจ กปปส.สงขลา ได้เผยแพร่ภาพภายในไปรษณีย์หาดใหญ่ ซึ่งภายในมีบัตรเลือกตั้งสำหรับ 5 จังหวัด โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นใน 5 จังหวัดภาคใต้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
2 ก.พ. 2557 – สรุปเขตที่สามารถเปิดการเลือกตั้งได้ตามปกติ 89.2%
เมื่อเวลา 16.00 น. นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง แถลงสรุปสถานการณ์การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ว่า  จากจำนวนหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 93,952 หน่วย สามารถเปิดลงคะแนนได้ 83,813 หน่วย คิดเป็น 89.2% จาก 77 จังหวัด งดลงคะแนน 18 จังหวัด โดยงดทั้งจังหวัด 9 จังหวัด งดบางส่วน 9 จังหวัด รวม 69 เขต แบ่งเป็นงดทั้งหมด 37 เขต งดบางหน่วย 32 หน่วย ขณะที่อีก 28 เขตไม่มีผู้ลงสมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
3 ก.พ. 2557 – ประชาธิปัตย์ เตรียมฟ้อง รัฐบาล ฐานจัดการเลือกตั้งมิชอบ
“แต่ถ้ารัฐบาลบอกว่าจะพยายามทำอย่างอื่นเช่น จะขอผลักดัน 28 เขตโดยการตราพระราชกฤษฎีกาใหม่ แล้วถ้า กกต. เขาเห็นว่ามันไม่ควรทำอย่างนั้น ก็คงจะต้องเป็นเรื่องกลับไปที่ศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดี เพราะเป็นความขัดแย้งกันในการใช้อำนาจระหว่างองค์กร เพราะฉะนั้นผมดูแล้วยังไง แนวโน้มที่เรื่องนี้จะต้องไปสู่ศาลหลายทางนั้นมีมากครับ มีมาก แล้วก็อย่างที่บอกก็คือว่า ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องเดินมาสู่จุดนี้ เราเสียเงิน เราเสียเวลา เราเสียอะไรอีกหลายต่อหลายอย่างไปเพื่ออะไร” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
18 ก.พ. 2557 – อาจารย์ธรรมศาสตร์ ยื่นคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ตรวจสอบการเลือกตั้งมิชอบ
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา นายกิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้พิจารณาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 244 (1) (ค) ประกอบมาตรา 245 เสนอเรื่องพร้อมความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การจัดการเลือกตั้ง 2 ก.พ.ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นโมฆะ เนื่องจากเห็นว่ามีการดำเนินการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ (อ่านข่านที่เกี่ยวข้อง)
19 ก.พ. 2557 –  กกต. มีมติจัดกการเลือกตั้งทดแทน 5 จังหวัด พร้อมเปิดรับสมัคร ส.ส 28 เขตทางไปรษณีย์
สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารงานเลือกตั้ง แถลงหลังการประชุมว่า ได้พิจารณาข้อเสนอที่สัมมนาร่วมกับ รัฐบาล ฝ่ายการเมือง ฝ่ายการเมือง และนักวิชาการ กรณีการรับสมัคร ส.ส. 28 เขต ภาคใต้ ที่ไม่มีผู้สมัคร ในสัปดาห์หน้า กกต.จะออกประกาศให้รับสมัคร ส.ส.ทางไปรษณีย์ได้ ส่วนการแก้ไขปัญหาจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้ง กกต.จะหาโรงพิมพ์เพิ่มเติม กรณีไม่มีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งจะใช้วิธีตั้งกรรมการประจำหน่วยสำรอง ทั้งที่มีภูมิลำเนาและไม่มีภูมิลำเนาในเขตเลือกตั้ง แต่ กกต.ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีบัตรเลือกตั้งสำรอง เพราะจะเกิดปัญหาพิมพ์บัตรเกินและอาจถูกมองว่าไม่สุจริต
นอกจากนี้ กกต.ยังระบุว่า การเสนอให้ประกาศรายชื่อ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ โดยคำนวณเฉพาะส่วนที่มีการเลือกตั้งไปแล้วนั้น ไม่สามารถทำได้ เพราะอาจขัดต่อกฎหมาย
ส่วน การเลือกตั้งใน 28 เขตภาคใต้ ที่ไม่มีผู้สมัคร และการเลือกตั้งล่วงหน้า 26 มกราคม ที่มีปัญหา กกต. มีมติให้จัดการเลือกตั้งทดแทน วันที่ 2 มีนาคม ใน 5 จังหวัดที่มีความพร้อม โดยเป็นการเลือกตั้งแบบเขต ทดแทนวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ จ.เพชรบุรี จำนวน 74 หน่วยเลือกตั้ง และระยอง 21 หน่วยเลือกตั้ง ส่วนอีก 3 จังหวัด เป็นการเลือกตั้งทดแทนเลือกตั้งล่วงหน้า ที่ จ.เพชรบูรณ์ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ส่วนที่เหลือ และอีก 28 เขตในภาคใต้ กกต.จะจัดการเลือกตั้งโดยเร็ว(อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
3 มี.ค. 2557 –  เลือกตั้งทดแทน 5 จังหวัด ราบรื่น
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้งด้านการบริหารจัดการการเลือกตั้ง กล่าวถึงสถานการณ์การจัดการเลือกตั้ง ใน 5 จังหวัดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่า โดยรวมมีความเรียบร้อยเป็นที่น่าพอใจ ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะทหารและตำรวจในพื้นที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่มีปัญหาในส่วนของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ ที่มาใช้สิทธิ์เพียงร้อยละ 10.2 โดยปัญหาอาจเป็นเพราะการประชาสัมพันธ์ที่มีน้อยเกินไป และบรรยากาศทางการเมืองที่ยังไม่ดีพอ หรืออาจมองว่าการเลือกตั้งยังไม่ใช่ทางออก ซึ่งกกต.เองก็ยังไม่พอใจจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
6 มี.ค. 2557 – ผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติ ส่งคำสั่งให้ศาล รธน. ชี้ขาด เลือกตั้ง 2 ก.พ. เป็นโมฆะหรือไม่
คณะผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาสตราจารย์ศรีราชา เจริญพานิช และศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้มีการประชุมเพื่อพิจารณาคำร้องของ นายกิตติพงศ์ และมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ส่งคำร้องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ขาดว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557 ที่ผ่านมา เป็นโมฆะหรือไม่ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
21 มี.ค. 2557 - หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญแถลงมติ ศาล รธน. 6 ต่อ 3 ตัดสินให้การเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นโมฆะ 
"เมื่อได้ดำเนินการเลือกตั้งเป็นการทั่วไป ในวันที่ 2 ก.พ. 2557 ไปแล้ว ปรากฏยังไม่มีการจัดการเลือกตั้ง สำหรับ 28 เขตเลือกตั้ง ซึ่งยังไม่เคยมีการรับสมัครการเลือกตั้งมาก่อนเลย จึงถือได้ว่า ในวันที่ 2 ก.พ. 2557 มิได้มีการเลือกตั้ง วันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ส่วนการที่จะดำเนินการจัดการเลือกตั้ง สำหรับ 28 เขตเลือกตั้ง หลังวันที่ 2 ก.พ.2557 ก็ไม่สามารถกระทำได้ เพราะจะมีผลทำให้การเลือกตั้งมิได้เป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักรเช่นเดียว กัน เป็นผลให้ พ.ร.ฎ.ยุบสภา พ.ศ. 2556 เฉพาะในส่วนที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งเป็นการทั่วไปในวันที่ 2 ก.พ. ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 108 วรรค 2" (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)

ผู้เรียกร้อง ปชต.ในฮ่องกงกลับมาประท้วงอีกครั้ง มีคนถูกจับ 37 คน


หลังจากที่การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงดูเหมือนจะปิดฉากลงแล้วจากการสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ดูเหมือนว่าผู้ชุมนุมยังคงพยายามรวมตัวแสดงออกอีกครั้งในย่านมงก๊ก จนมีผู้ถูกจับกุม 37 คน ตั้งแต่ช่วงคืนวันพฤหัสฯ ข้อหาก่อความไม่สงบและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน
26 ธ.ค. 2557 เจ้าหน้าที่ตำรวจในฮ่องกงจับกุมผู้ประท้วงเพื่ม 37 คน ในคืนที่สองของกระแสการประท้วงรอบใหม่ของกลุ่มประชาชนที่เรียกร้องให้ทางการจีนเปิดทางแก่ผู้สมัครลงชิงชัยในการเลือกตั้งผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษแทนการให้จีนเป็นผู้คัดเลือกผู้มีสิทธิลงชิงชัยในปี 2560
แม้ว่าการประท้วงของกลุ่มยืดครองย่านใจกลางหรือ 'Occupy Central' จะหยุดลงในช่วงราว 3 สัปดาห์ที่แล้ว แต่เมื่อสองวันที่ผ่านมา ประชาชนก็กลับมาชุมนุมประท้วงในย่านมงก๊ก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 ธ.ค. ว่า มีการจับกุมผู้ชุมนุมเป็นชาย 26 คน เป็นหญิง 11 คน ประกอบด้วยเยาวชนไปจนถึงผู้สูงอายุ ในข้อหาสร้างความไม่สงบในพื้นที่สาธารณะและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน
สำนักข่าวเซาธ์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ระบุว่าเกิดความวุ่นวายขึ้นตั้งแต่ช่วงคืนวันที่ 25 ธ.ค. จนถึงช่วงเช้าของวันที่ 26 ธ.ค. ในย่านมงก๊ก จากการที่ผู้ชุมนุมราว 300 คน ยืนประจันหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกส่งเข้าไปจากคำกล่าวอ้างของทางการว่าเพื่อไปควบคุม "การชุมนุมที่ผิดกฎหมาย" มีบางขณะที่ตำรวจพยายามโบกธงเตือนให้ผู้ประท้วงที่กำลังโกรธสงบลง นอกจากนี้ยังมีผู้ชุมนุมบางส่วนสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินหรือเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้จับกุมผู้ประท้วง 12 คนในช่วงเช้าวันที่ 25 ธ.ค. จากการที่พวกเขาถือสิ่งของสีเหลืองออกมารวมตัวกันตะโกนคำขวัญเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งตามหลักสากลในย่านมงก๊ก และในช่วงเย็นก็มีผู้ประท้วงอีกจำนวนหนึ่งมาตะโกนคำขวัญในรูปแบบเดียวกัน จนกระทั่งเกิดการปิดล้อมที่ถนนท๊งฉ่อยโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อควบคุมการชุมนุมและเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมแสดงบัตรประชาชนเพื่อลงบันทึกถึงจะปล่อยตัวให้ออกจากการปิดล้อม
แต่ก็มีผู้คนแสดงความไม่พอใจการปิดล้อมของตำรวจในครั้งนี้ โดยบางคนบอกว่าพวกเขาถูกกักตัวไปถึง 3 ชั่วโมง ทางด้านอิริค เจิ้ง ตั๊ดหมิง สมาชิกของคณะกรรมการอิสระด้านการร้องเรียนเกี่ยวกับตำรวจกล่าวถึงปฏิบัติการของตำรวจในครั้งนี้ว่าส่งผลให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาติดร่างแหไปด้วย และตำรวจควรจะปฏิบัติการโดยคำนึงถึงเรื่องนี้
มีพนักงานฝ่ายบุคคลอายุ 24 ปีที่เป็นหนึ่งในผู้สัญจรไปมาบอกว่าเธอรู้สึกโกรธมากที่ต้องติดร่างแหการปิดล้อมของตำรวจไปด้วยโดยไม่มีเหตุผล เธอกล่าวอีกว่าตำรวจตรวจบัตรประชาชนแล้วหาว่าพวกเขาประท้วงอย่างผิดกฎหมายทั้งๆ ที่เธอคิดว่าในฮ่องกงมีการคุ้มครองสิทธิในการชุมนุม
ในหน้าเพจของกลุ่มนักกิจกรรมสนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงระบุว่าในการชุมนุมตั้งแต่สองคืนที่ผ่านมา ผู้ชุมนุมพากันร้องเพลงการเมืองและถือร่มซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีบางคนสวมหมวกซานตาคลอสสีแดงแล้วตะโกนว่า "เราต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริง"

เรียบเรียงจาก
Hong Kong police arrest 37 in second night of Christmas protests and clashes, South China Morning Post, 26-12-2014
http://www.scmp.com/news/hong-kong/article/1668617/more-30-protesters-arrested-second-night-christmas-protests-hong-kong
Arrests as Hong Kong protests return, The Guardian, 26-12-2014
http://www.theguardian.com/world/2014/dec/26/more-arrests-as-hong-kong-protests-return

'ประยุทธ์' ห่วงประชาชนช่วงปีใหม่ ตร.เปิดโครงการ 'You’ll never walk alone' เพิ่มช่องทางแจ้งเหตุด่วน


รายการคืนความสุขให้คนในชาติ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ระบุห่วงความปลอดภัยประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ เตรียมมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแบบบูรณาการ ขอความร่วมมือประชาชนระมัดระวังในการเดินทาง สำนักงานตำรวจแห่งชาติเปิดโครงการ “You’ll never walk alone” เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายจากประชาชน ย้ำหน่วยทหารทุกหน่วยที่มีเวรยาม แจ้งได้ทั้งหมด พักรถอะไรก็ได้ ถ้าง่วงจอดนอนก็ได้ ปลอดภัย เตือนอย่าไปจอดในที่ไม่มีคนอยู่อันตราย
 
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 2557 เวลา 20.15 น. โดยมีรายละเอียดทั้งหมดดังต่อไปนี้
 
สวัสดีครับ พี่น้องประชาชนที่รักทุกคน
 
ก่อนอื่นผมขอส่งความปรารถนาดีแด่พี่น้องคริสต์ศาสนิกชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวันคริสต์มาสที่เพิ่งจะผ่านไป สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมพร้อมกับพี่น้องชาวไทยต้องขอแสดงความชื่นชมยินดีกับทีมฟุตบอลชาติไทย ที่สามารถคว้าแชมป์ในรายการ AFF SUZUKI CUP 2014 ซึ่งทีม“ขุนพลช้างศึก” ของไทยนั้น สามารถพลิกสถานการณ์หลังจากได้รับพระราชทานกำลังใจจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ผ่านทางรองราชเลขาธิการ และได้นำชัยมาถวายพ่อหลวง และปวงชนชาวไทยได้ในที่สุด
 
วันนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้ทรงทอดพระเนตรการแข่งขันฟุตบอลร่วมกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ด้วย ผมขอชื่นชมในความเข้มแข็ง เสียสละ และอดทน ของนักกีฬาทุกท่านภายใต้การนำของโค้ช ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ที่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนชาวไทยที่รู้รักสามัคคี มีวินัย รักชาติ รักสถาบัน ถวายพระเกียรติได้อย่างสมภาคภูมิ รัฐบาลได้มอบเงินสนับสนุนให้ 5 ล้านบาท และได้ขอความร่วมมือภาคธุรกิจเอกชนโดยบริษัท CP และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ให้เพิ่มอีกบริษัทละ 5 ล้านบาท รวมเป็น 15 ล้านบาท
 
วันนี้ผมได้มีโอกาสเดินทางไปจังหวัดพังงา เพื่อเข้าร่วมงานรำลึกครบรอบ 10 ปีเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิ ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและสูญหายทุกท่าน แม้ว่าเวลาจะผ่านไปถึง 10 ปีแล้วก็ตาม แต่เหตุการณ์นี้ก็ยังคงอยู่ในความทรงจำของพวกเราทุกคน ภัยธรรมชาตินั้น เป็นสิ่งที่เราห้ามไม่ได้ แต่เราทุกคนต้องพยายามอย่างเต็มที่ในการที่จะป้องกันและบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาป่าต้นน้ำ การปลูกป่า การทำช่องทางระบายน้ำเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ พร้อมทั้งการให้ความรู้ในเรื่องของการป้องกันภัยแจ้งเตือนภัยไว้ล่วงหน้าด้วย และในวันนี้เช่นกัน ผมได้มีโอกาสเข้าตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จริง ๆ แล้วหลายจังหวัดในภาคใต้ปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลงมาก และฝนตกไม่หยุดต่อเนื่องกัน ทำให้เกิดการท่วมขังเป็นระยะเวลาที่นานกว่าปกติ และมีระดับน้ำที่ลึกมากพอสมควร ทำให้ประชาชนเดือดร้อน สำหรับพี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วมในทุกพื้นที่นั้น ที่ผมไม่ได้ไปเยี่ยม ทางรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้เร่งสั่งการให้ดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเร่งด่วน
 
ในปีใหม่นี้ ผมเข้าใจดีว่าพี่น้องข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร ข้าราชการท้องถิ่น อาสาสมัคร ต่างต้องเสียสละทำหน้าที่คอยปฏิบัติงานช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน ที่สัญจรไปมา ซึ่งในการปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนนั้น ผมเข้าใจดีว่าในหลาย ๆ เรื่อง มีปัญหา อุปสรรค ทั้งในกฎเกณฑ์ ความพร้อมของเครื่องไม้เครื่องมือ กฎระเบียบที่ต้องแก้ไข ก็ขอให้ท่านได้ทุ่มเท ทำด้วยใจ ด้วยความเสียสละ ให้ทุกท่านตระหนักว่า ข้าราชการ อาสาสมัคร เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละเพื่อให้การบริการแก่ประชาชน ให้ประชาชนมีความสุขและปลอดภัยในช่วงวันหยุดราชการหลายวัน อย่างเช่นในช่วงวันปีใหม่นี้
 
สำหรับการทำงานของรัฐบาลในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นถือได้ว่า ได้ดำเนินการตามนโยบายและยุทธศาสตร์ใหญ่ ที่ได้แถลงไว้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และแจ้งให้กับพี่น้องทราบเมื่อเริ่มเข้ามาบริหารประเทศ ล้วนแต่เป็นการสร้างพื้นฐานการพัฒนาที่นำไปสู่ความยั่งยืนให้กับประเทศชาติในอนาคต ทั้งนี้ พวกเราทุกคนได้พยายามเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนานาประเทศ บนหลักการที่ว่า นโยบายการต่างประเทศเป็นส่วนประกอบสำคัญของนโยบายองค์รวมทั้งหมดในการบริหารราชการแผ่นดิน
 
การประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) 6 ประเทศ ครั้งที่ 5 นับว่าประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ในการเป็นเจ้าภาพการประชุมนานาชาติระดับสุดยอดผู้นำครั้งแรกของรัฐบาลนี้ โดยเราได้รับเกียรติอย่างสูงจากท่านผู้นำทุกประเทศ GMS เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน พร้อมด้วยรัฐมนตรีประจำแผนงาน GMS รัฐมนตรีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่อาวุโส GMS บุคคลสำคัญในภาคธุรกิจและเอกชน GMS รวมทั้งประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย ซึ่งเป็นองค์กรหุ้นส่วนการพัฒนาของ GMS เข้าร่วมการประชุมด้วย
 
หัวข้อหลักของการประชุม คือ “ความมุ่งมั่นลดความเหลื่อมล้ำเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” ก่อนการประชุมระดับผู้นำประเทศ ได้จัดให้มีการประชุมระหว่างภาคีการพัฒนาต่าง ๆ เพื่อเป็นการหารือและเตรียมข้อเสนอต่อผู้นำ ประกอบด้วย การประชุมด้านการลงทุน การประชุมของภาคธุรกิจ การประชุมของหุ้นส่วนการพัฒนา และการประชุมของกลุ่มเยาวชน
 
จากนั้น ผมในฐานะผู้แทนผู้นำทั้งหมด ได้ให้ข้อคิดเห็นต่อข้อเสนอเหล่านั้น และนำไปเป็นประเด็นหารือในการประชุมสุดยอดผู้นำประเทศ GMS ซึ่งได้มีการรับรองแถลงการณ์ร่วมระดับผู้นำ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ผลการประชุมระดับผู้นำประเทศ GMS นั้น ได้แสดงความชื่นชมในความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของประเทศสมาชิก ในอันที่จะผลักดันการดำเนินความร่วมมือให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและน่าพอใจ อาทิ
 
การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การเชื่อมต่อตามแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ – ใต้ ด้วยสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 4 เมืองห้วยทราย สปป.ลาว – อ.เชียงของ ประเทศไทย ขณะนี้ก็กำลังเตรียมขยายการพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก – ตะวันตก ไปยังประเทศเมียนมาร์ และการพิจารณาสถานที่ตั้งของ “ศูนย์ประสานงานการซื้อขายไฟฟ้า” ระหว่างประเทศสมาชิกในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง รวมทั้งการร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเชื่อมโยงประเทศสมาชิก และสนับสนุนเทคโนโลยีสารสนเทศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
 
การพัฒนาด้านกฎระเบียบ เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้า และคมนาคมขนส่งตามแนวระเบียงเศรษฐกิจให้ครอบคลุมเมืองหลวงของแต่ละประเทศสมาชิก อีกทั้งร่วมมือกันผลักดันการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงด้วยกัน
 
ต่อไปเป็นเรื่องของการอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว ลดขั้นตอนในการตรวจลงตรา มีการจัดทำแผนยุทธศาสตร์ด้านการท่องเที่ยวใน GMS สำหรับในปี 2559-2569 จะผลักดันให้เกิด “ศูนย์ประสานการท่องเที่ยวของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” อีกด้วย
 
เรื่องต่อไปการอำนวยความสะดวกด้านการเคลื่อนย้ายแรงงานมีฝีมือ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านแรงงานใน GMS และเรื่องสุดท้ายคือการเสริมสร้างและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และความมั่นคงทางอาหาร น้ำ และพลังงาน ในภูมิภาค โดยเฉพาะประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
 
ทั้งนี้ ประเทศสมาชิกต่าง ๆ นั้น ต่างก็มีความมุ่งมั่นร่วมกันในการพัฒนาอนุภูมิภาค GMS อย่างยั่งยืน เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในอนาคต พร้อม ๆ กัน โดยกำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่าจะร่วมกันที่จะนำไปสู่การค้า การลงทุนในภูมิภาค การร่วมกันพัฒนาแนวเส้นทางคมนาคมใน GMS ให้เป็นแนวระเบียงเศรษฐกิจที่ยั่งยืน ร่วมกันขจัดอุปสรรคด้านกฎระเบียบการคมนาคมขนส่งข้ามพรมแดน เพื่ออำนวยความสะดวกการเคลื่อนย้ายยานพาหนะ สินค้า และคน ทั้งนี้จะมีการประสานความร่วมมือระหว่างกันในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับอนุภูมิภาค และสอดคล้องกันทั้งในระดับคณะทำงาน และกรอบความร่วมมืออื่น ๆ ในภูมิภาค เช่น อาเซียน อาเซียน – จีน และอาเซียนบวกสาม
 
ความร่วมมือไทย – จีน ในการเดินทางไปจีนเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา วันที่ 22 – 23 ธันวาคม 2557 นั้น เป็นการเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรใกล้บ้าน ที่เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก เพื่อส่งเสริมความร่วมมือรอบด้าน ทั้ง 2 ฝ่ายก็มั่นใจว่า จะสามารถผลักดันมูลค่าการค้าการลงทุน ให้ขยายตัว 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2558 ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 40 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – จีน และผมขอแสดงความขอบคุณในการต้อนรับที่อบอุ่นเป็นกันเอง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดี สำหรับทั้งสองประเทศ ในการที่กระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และร่วมกันมองไปข้างหน้า กำหนดวิสัยทัศน์และแนวทางความร่วมมือระหว่างกันในอนาคต เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงของภูมิภาคควบคู่ไปด้วยกับความร่วมมือทวิภาคี
 
อีกประการหนึ่ง ในปีหน้าเป็นปีแห่งการครบรอบสถาปนาความสัมพันธ์ไทย จีน ครบรอบปีที่ 40 และเป็นปีที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 60 พรรษา ซึ่งทางสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น ก็ถวายพระพรมาด้วย เพราะว่า ความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ของไทยกับจีนนั้น มีความแน่นแฟ้นมาโดยตลอด ทั้งผู้นำทุกท่านก็ได้ฝากถวายพระพรไปยังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และทุกพระองค์ด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
 
เรื่องความร่วมมือทวิภาคีในด้านการพัฒนาเส้นทางรถไฟ ที่เราได้ลงนาม MOU ที่ประเทศไทยไปแล้วนั้น ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีคณะกรรมการร่วมเร่งหารือในรายละเอียดของโครงการภายในต้นปีหน้า ซึ่งผมกำหนดไว้แล้วว่าภายในเดือนมกราคม พร้อมที่จะพูดคุยกัน เป็นต้นไป แล้วก็เร่งศึกษาทำความเข้าใจ หากฎกติกาการค้า การร่วมกันลงทุนอะไรต่าง ๆ ก็แล้วแต่ ให้แล้วเสร็จได้โดยเร็ว เพื่อจะได้ดำเนินการก่อสร้างเป็นของขวัญให้กับคนไทย ในประมาณปลายปี 2558 หรือเร็วกว่านั้น ทั้งนี้ ได้ขอให้จีนสนับสนุนให้ไทยเป็น “ศูนย์กลางการคมนาคมของภูมิภาค” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความพร้อมของไทยที่จะเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ควบคุมระบบรถไฟในภูมิภาค รวมทั้งตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกิจการรถไฟ ขณะเดียวกัน ก็มีความร่วมมือในอีกหลายๆ ด้าน ที่สำคัญ ได้แก่
 
ความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การศึกษาดูงานด้านกิจการอวกาศและการวิจัยในประเทศจีน การพัฒนาระบบ GPSสำหรับเรือประมง และใช้ประโยชน์จากดาวเทียมและเทคโนโลยีสำรวจระยะไกล หรือระบบ remote sensing พร้อมทั้งเสนอให้มีการลงนามความร่วมมือด้านอวกาศระหว่างรัฐบาลทั้งสองฝ่าย
 
สำหรับความร่วมมือด้านพลังงาน จีนยินดีกระชับความร่วมมือกับไทยในเรื่องพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าพลังความร้อน โรงงานขยะ ขณะที่เราก็พร้อมเสนอการส่งออกเอทานอลแก่จีน สำหรับความร่วมมือด้านพลังงานนี้นั้น ก็จะหารือกันในการประชุมคณะกรรมการร่วมด้านพลังงานไทย – จีน เพื่อขยายผลความสำเร็จต่อไป
 
เรื่องความร่วมมือด้านเกษตร จีนก็ยินดีที่จะเร่งรัดดำเนินการตามที่ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกัน อีกทั้งจีนจะเร่งรัดการจัดตั้งสถาบันวิจัยยางในไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย ผมได้ขอให้การสนับสนุนในการจัดตั้งสถาบันตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์เรื่องยาง และเรื่องรถยนต์ด้วย ซึ่งท่านก็รับปากว่าจะพิจารณาต่อไป ซึ่งก็เป็นผลดีกับบ้านเรา เราจะได้มีสถาบันวิจัยต่าง ๆ ที่มีมาตรฐาน เมื่อผลิตแล้วต้องมีการรับรองมาตรฐานและส่งออกได้ ไม่ใช่ผลิตออกมาแล้วไม่ต้องรับรองคุณภาพ ส่งไปก็เสียค่าตรวจสอบอีกจากต่างประเทศทำให้มูลค่าสินค้านั้นแพงมากขึ้น
 
นอกจากนั้น เรายังยินดีที่จะร่วมมือกันในด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยว การทหาร ยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งในเรื่องการทางด้านป้องกันประเทศและเรื่องของการช่วยเหลือประชาชนบรรเทาภัยพิบัติ ตลอดจนการป้องกันการลักลอบข้ามพรมแดน เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของภูมิภาค ทั้งนี้ ด้านการท่องเที่ยวได้มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องหน่วยงานทั้งสองฝ่ายจะต้องควบคุมในเรื่องของการบิน การสัญจรไปมา โดยต้องหารือกันต่อไปในเรื่องของการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศระหว่างสองประเทศไทย-จีน และความร่วมมือในกรอบอาเซียน ซึ่งจะมีการจัดตั้งประชาคม ประกอบด้วย สามเสาหลักในปี 2558  จีนพร้อมให้ความช่วยเหลือในเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความมั่นคงในภูมิภาค และในส่วนของกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) จีนยินดีเพิ่มการลงทุน สนับสนุนทางด้านเศรษฐกิจการค้าในอนุภูมิภาค ทั้งนี้ ผมได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีจีนสนับสนุนไทยเป็นศูนย์กลางภูมิภาคนี้ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกับทั้งของไทยและของสมาชิกอาเซียนด้วย เราต้องก้าวหน้าไปพร้อม ๆ กัน
 
โอกาสเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรีจีนและผมได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อยกระดับความร่วมมือตลาดทุนและตลาดเงินระหว่างสองประเทศ จำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในประเทศไทย ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยและธนาคารประชาชนจีน  ความตกลงทวิภาคีแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท   บันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและธนาคารแห่งประเทศจีน จำกัด  และบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการทรัพยากรน้ำและการชลประทาน ซึ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้น มีข้อจำกัด เงื่อนไข กฎกติกา พันธะสัญญาระหว่างประเทศต่าง ๆ จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการพูดคุยเจรจาความ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความร่วมมือต่าง ๆ เราจะต้องสร้าง และต้องให้พันธมิตรคู่ค้า ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์นั้นได้ประจักษ์ ก็คือ “ความเชื่อมั่น ความไว้วางใจ” การเป็นผู้เล่นที่เคารพกติกาสากลนั้น จะต้องอยู่บนพื้นฐานของการเป็นตัวของตัวเองที่สำคัญ นั่นก็คือสิ่งที่รัฐบาลนี้กำลังดำเนินการอยู่ เพื่อให้นานาชาติยอมรับ และลดความเหลื่อมล้ำ ให้ความเสมอภาค และเท่าเทียมกันในเวทีต่าง ๆ ของโลก
 
เรื่องการค้ามนุษย์ เป็นสิ่งสำคัญเร่งด่วน เมื่อต้นสัปดาห์ ผมได้เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์และความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ในประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อเป็นการประเมินผลการดำเนินงาน ทบทวนประสิทธิภาพของกลไกการทำงานที่มีอยู่ สำหรับเป็นข้อมูลพื้นฐานในการหารือ และวางแผนการดำเนินงานร่วมกันของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นรายเดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2558 เป็นต้นไป ที่ประชุมรับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคที่หน่วยราชการต่าง ๆ ประสบ ที่จะต้องดำเนินการต่อไปในปี 2558 ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ทั้งในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย การให้ความคุ้มครองแก่เหยื่อการค้ามนุษย์และพยาน การป้องกันการค้ามนุษย์ และการสร้างความเป็นหุ้นส่วนกับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น ภาคเอกชน ภาควิชาการ องค์กรอิสระ และสื่อมวลชน
 
ผมได้มีการสั่งการให้มีการทบทวนกลไกในการทำงาน แก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ระดับชาติ เพื่อให้ทุกหน่วยงานทำงานอย่างมีความบูรณาการมากยิ่งขึ้น ให้มีการขับเคลื่อนการดำเนินการแก้ไขปัญหาในทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ได้อย่างจริงจัง ให้ตั้งคณะอนุกรรมการ 5 คณะ ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการเรื่องค้ามนุษย์ คณะอนุกรรมการเรื่องประมงและ IUU คณะอนุกรรมการเรื่องแรงงานเด็ก แรงงานบังคับและแรงงานต่างชาติ คณะอนุกรรมการสตรี และคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและประชาสัมพันธ์ โดยทุกคณะต้องมีเป้าหมายและแผนงานอย่างชัดเจน พร้อมรายงานผลการดำเนินการให้ผมทราบทุกเดือน ในวันที่ 7 นี้ก็จะเสนอในเรื่องของยุทธศาสตร์ระยะยาวและกำหนด Road Map ในการที่จะเดินหน้าในการแก้ปัญหาในการรับรู้ให้กับองค์ระหว่างประเทศ ให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น มิฉะนั้นแล้วจะมีผลเสียต่อการค้าขาย การเศรษฐกิจ โควตาการส่งออกของเราทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องประมง สินค้าทางประมงทั้งหมดเราจะเป็นปัญหา มีมูลค่ากว่าสองแสนล้านบาท
 
เรื่องเร่งด่วนการจดทะเบียนเรือประมงไทย ต้องขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการต้องจดทะเบียนเรือทุกลำ ติด GPS ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2558 ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่เราจะต้องแสดงให้นานาชาติเขารับรู้ถึงการแก้ไขปัญหา เพื่อจะลดระดับในเรื่องของความเป็น Tier 3 และในเรื่องของกติกา (Illegal Unreported and Unregulated Fishing  : IUU ) เรื่องประมงด้วย จะมีผลต่อเสถียรภาพ ความเป็นอยู่ของคนไทยทุกคน รายได้ของประเทศ ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นมานาน ได้มีการแจ้งเตือนตั้งแต่ปี 2553 มาแล้ว การลดระดับ จัดระดับเราเป็น Tier 2 ปี 53-54-55-56 จนกระทั่งถึงปี 57 เมื่อเราเข้ามานั้น ก็พอดีกับที่เขาปรับเรามาเป็น Tier 3 พอดี เราจะแก้กลับไปให้ได้โดยเร็ว
 
เพราะฉะนั้น เราจะต้องปรับปรุงอย่างจริงจัง ยั่งยืน อาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งราชการ พ่อค้า ประชาชน ขอร้อง และอาจจะต้องสร้างพันธกิจทางด้านการประมงเพิ่มขึ้น ทั้งนี้เพื่อจะได้ลดเรื่องการกระทำผิดกฎหมาย แหล่งจับปลาต่าง ๆ ซึ่งมีน้อยในปัจจุบัน ประเทศไทยเรามีความมั่นคงทางทะเลมาก คือเรือประมง ขีดความสามารถในการจับปลา เราอาจจะเก่งที่สุดก็ได้ในขณะนี้ ต้องร่วมมือกัน วันนี้เราถูกจับอยู่ในน่านน้ำเสรี น่านน้ำต่างประเทศมากพอสมควร แล้วเราต้องไปช่วยเอาเขากลับมา เสียค่าปรับอะไรเสียหายไปหมด ฉะนั้นอาจจะต้องจัดระเบียบมีการพูดคุยหารือกันให้ดีเรื่องประมง และข้อสำคัญก็จะต้องไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์เหล่านี้โดยเด็ดขาด เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำจะต้องถูกไล่ออก ถูกลงโทษอย่างหนักและโดยทันที ขอร้องกัน
 
เรื่องการค้ามนุษย์นั้น รวมความไปถึงเรื่องของ การค้าผู้หญิงเด็ก โสเภณี ขอทานต่าง ๆ ทั้งหมดหลายเรื่อง ทั้งประมง ใช้แรงงานเกินเวลา แรงงานเด็กต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นการผิดกติกาพันธสัญญาต่างประเทศนานาชาติทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นต้องเร่งดำเนินการ ผมขอกำชับทุกหน่วยงาน ทุกภาคส่วน ทุกคณะอนุกรรมการ และคณะกรรมการนโยบายนั้นจะประกอบไปด้วย นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 5 ท่านเป็นรองประธาน และในส่วนของคณะอนุกรรมการก็จะเป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบงานหลัก ๆ และข้างล่างบูรณาการข้าราชการ ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ก็จะเริ่มทำงานได้เต็มที่ต่อเนื่องจากของเดิม เราก็แก้มาตลอด ตั้งแต่เข้ามาควบคุมอำนาจ ก็ต้องพัฒนาต่อไปให้สร้างการรับรู้ ทั้งต่างประเทศ ทั้งในประเทศ ในประเทศร่วมมือกัน ต่างประเทศแสดงให้เขาเห็นว่าเราก็แก้ไขแล้ว แต่ขอเวลาว่าต้องเดินไปตาม Road Map ต้องใช้เวลา เพราะหมักหมมมาเป็นเวลานาน เพราะฉะนั้นประชาชนจะต้องเป็นผู้ที่คอยเฝ้าระวังให้รัฐบาลด้วย ถ้าใครพบเห็นเหตุการณ์ ผู้ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์หรือเกี่ยวข้อง ตลอดจนเบาะแส การทุจริตคอร์รัปชัน สามารถติดต่อหน่วยงานราชการต่าง ๆ ได้ตามหมายเลขที่ปรากฏหน้าจอนี้
 
มาตรการปลอดภัยในการเดินทาง ในห้วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง รัฐบาลมีความเป็นห่วงในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องชาวไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม โดยเฉพาะเยาวชน เด็ก ผู้หญิง เหล่านี้ เพื่อกลับภูมิลำเนาไปหาครอบครัว ไปเยี่ยมญาติ หรือไปท่องเที่ยว รัฐบาลได้กำหนดมาตรการ กำหนดแผนอำนวยความสะดวกป้องกันอันตรายต่าง ๆ ในทุกมิติไว้แล้ว เพื่อจะรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปีนี้หยุดหลายวัน รวมทั้งการให้การบริการขนส่งสาธารณะ การจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกภายในท่าเรือ สถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน อาคารผู้โดยสาร สถานีรถไฟ การอำนวยความสะดวกในด้านข้อมูล การจราจร การลดราคาค่าบริการจุดผ่านทางต่าง ๆ ในช่วงปีใหม่
 
นอกจากนั้น มาตรการป้องกันการลดอุบัติเหตุทางถนน จะเน้นการบูรณาการการป้องกันร่วมกันในลักษณะยึด Area Approach เช่น ให้จังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชน มีมาตรการแก้ไขปัญหา ตั้งจุดตรวจ จุดพักรถ ดูแลการจราจรจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ถนนชำรุด บริเวณจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัย และปรับสภาพสิ่งแวดล้อมอันตรายข้างทาง เพื่อให้มีทัศนวิสัยให้ดีขึ้นในการขับขี่ยานพาหนะ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนเหน็ดเหนื่อยมาก ผมรู้ดีว่าเหนื่อย ก็อยากจะพักผ่อนแต่ก็ไม่ได้ ด้วยความรับผิดชอบในหน้าที่ ขอขอบคุณจากหัวใจ ของนายกรัฐมนตรี ของรัฐบาลด้วย ถึงข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร  อาสาสมัคร ทุก ๆ คนที่ช่วยกัน
 
การขับขี่ยานพาหนะนั้น ผมขอความร่วมมือจากพี่น้องทุกคนด้วย ให้ระมัดระวังในการเดินทาง การเลี้ยงสังสรรค์ การดื่มสุรานั้น ก็อาจจะมีมากในช่วงปีใหม่นี้ ผมถือว่าทุกคนต้องช่วยกันระมัดระวังตนเอง และรับผิดชอบชีวิตผู้อื่นด้วย พลขับรถต้องรับผิดชอบผู้โดยสารภายในรถ ผู้โดยสารภายในรถต้องรับผิดชอบพลขับรถ ต่างคนต่างก็ดูแลกัน ถ้าพลขับดื่มเหล้า ดื่มสุรา ก็ไม่ขึ้นรถกัน ไม่ต้องรีบร้อนกลับมา เดี๋ยวเสียชีวิตเปล่า ๆ ก็แจ้งความดำเนินคดีไป ประมาท อันนี้ผมได้สั่งการไปแล้วว่า ในช่วงปีใหม่จะต้องมีผู้รับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ โดยการดื่มสุราของพลขับหรือทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงในการจัดงานบันเทิงต่าง ๆ ผู้จัดงานต้องรับผิดชอบทั้งหมดในชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนที่มาเที่ยว เขามาเที่ยว ท่านได้เงินเขา ท่านก็ต้องผิดชอบ ดูแลเขาให้ดีด้วย ขอให้ทุกคนได้มีสติ คำนึงถึงความพอดี ช่วยกันดูแลคนที่เรารัก อย่าให้ความสนุกของเรากลายเป็นความทุกข์ของคนอื่น ตัวเองปลอดภัย คนอื่นก็ต้องปลอดภัยด้วย
 
สำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองกำกับการสายตรวจ 191 ได้เปิดโครงการ “You’ll never walk alone” เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายจากประชาชน ซึ่งนอกจาก 191 แล้ว ยังสามารถแจ้งเหตุต่าง ๆ ผ่านช่องทางที่แสดงบนหน้าจอโทรทัศน์ของท่านเวลานี้ ( 061-3850191, 061-3851191, 061-3852191และ 061-3853191 เฟซบุ๊ก “สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191” และไลน์ไอดี “patrolcop0191”) และหน่วยทหารทุกหน่วย กองรักษาการทุกพื้นที่ ประตูทางเข้า - ออก ที่มีเวรยาม แจ้งได้ทั้งหมด พักรถอะไรก็ได้ ถ้าง่วงจอดนอนก็ได้ ปลอดภัย อย่าไปจอดในที่ ๆ ไม่มีคนอยู่ อันตราย
 
ในห้วงเทศกาลปีใหม่นี้ ผมอยากขอให้ทุกท่านช่วยกันส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยในภาคต่าง ๆ ที่กำลังประสบภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมในภาคใต้ จังหวัดพัทลุง – สงขลา – ปัตตานี –นราธิวาส ภัยหนาว – ไฟป่าในเขตภาคเหนือภาคอีสาน รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ จะพยายามช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเหล่านี้ต่อไป ในพื้นที่ประสบภัยนี้ ขอให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตและในการปฏิบัติงานต่าง ๆ ด้วย ภาคเอกชน หรือพี่น้องในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ สามารถร่วมแสดงน้ำใจ ให้ความช่วยเหลือ โดยติดต่อผ่านส่วนราชการใกล้บ้านท่าน ธารน้ำใจของคนไทยนั้นจะส่งไปถึงปลายทางแน่นอน และขอให้คนไทยทุกคน ทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิม ที่มีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาที่มีเหตุการณ์ความรุนแรงอยู่นั้น ก็ขอให้ปลอดภัย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป และผ่านพ้นวันเวลายากลำบากเหล่านี้ไปได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาในเรื่องของความปลอดภัยในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้โดยเร็ว ในทุกมิติ ในทุกมาตรการ วิธีการต่าง ๆ
 
สุดท้ายนี้ ขอให้ประชาชนชาวไทยทุกคนได้ร่วมแรงร่วมใจกัน ในการสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศที่ร่มเย็น น่าอยู่ มั่นคง แข็งแรง อย่างยั่งยืนในทุกมิติ ผมได้กำหนดวิสัยทัศน์ของประเทศไทยไว้แล้วว่าในปี 2558 - 2562 นั้น รัฐบาล ประเทศไทยจะต้องมีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน ตามแนวทางของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอบคุณครับ สวัสดีครับ