พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้แจงเรื่องจัดซื้อเรือดำน้ำว่าเป็นแผนพัฒนาล่วงหน้าของกองทัพเรือ
- ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ปฏิรูปตัวเองแล้ว ย้อนถามฝ่ายการเมืองจะปฏิรูปตัวเองไหม คิดแต่จะใช้อำนาจ
- ย้ำเรือดำน้ำจำเป็นเพื่อรักษาเส้นทางเดินเรือ ใช้แสดงศักยภาพ ยังไม่ได้ใช้รบ ซื้อมาไม่ได้ใช้วันนี้ แถมต้องผ่อนกันอีกไม่รู้กี่ปี
7 ก.ค. 2558 - หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แถลงข่าวเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (7 ก.ค. 58) โดยมีประเด็นสำคัญต่างๆ ดังนี้
เรื่องการแก้ไขปัญหาการทำประมง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปพิจารณาการประมงทั้ง 3 ประเภท โดยเฉพาะการทำประมงพื้นบ้านที่อาจได้รับผลกระทบ โดยอาจต้องพิจารณามาตรการผ่อนผันที่อาจต้องออกเป็นกฎหมายลูก หรือใช้อำนาจตามมาตรา 44 และไม่กระทบกับกฎของ IUU ทั้ง 15 ข้อ รวมถึงการทำความเข้าใจว่าการเข้มงวดถือเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว หากไม่ดำเนินการ จะทำให้ไทยเสียการส่งออกกับยุโรป ซึ่งเป็นตลาดประมงที่ใหญ่ที่สุดของไทย พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ตรวจสอบสมาคมประมง หรือผู้ที่สั่งไม่ให้เรือประมงที่ถูกกฎหมายออกทำการประมง ว่าเป็นการใช้อิทธิพลหรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้จะเชิญทุกฝ่ายเข้าหารือ และทำความเข้าใจร่วมกัน
มาตรการแก้ปัญหาภัยแล้งในขณะนี้ว่า ได้สั่งการให้เร่งขุดเจาะบ่อบาดาลในกรุงเทพมหานคร และอีก 500 จุดทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินการจะต้องดูพื้นที่ที่เหมาะสม ทั้งนี้ ต้นเหตุปัญหาเกิดจากการทำลายป่าไม้ โดยเฉพาะป่าต้นน้ำ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและดำเนินการผู้กระทำผิดกฎหมายอย่างจริงจัง โดยเฉพาะหากพบว่าเป็นกลุ่มนายทุน สำหรับการบริหารจัดการน้ำที่ผ่านมา รัฐบาลได้เดินหน้าในหลายโครงการ โดยเฉพาะการขุดลอกแหล่งน้ำธรรมชาติ อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็ก เพื่อสามารถรองรับน้ำหากมีปริมาณน้ำฝนเกิดขึ้นมาก
พล.อ.ประยุทธ์ ยังขอบคุณชาวนาในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ให้ความร่วมมือเลื่อนการปลูกข้าวออกไปอีก 2 เดือน ส่วนพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่ยังมีการเพาะปลูกอยู่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลได้เตือนแล้ว หากน้ำไม่เพียงพอต่อการทำเกษตรกรรม รัฐบาลไม่สามารถช่วยเหลือได้
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะเปิดตลาด 4 จุด รอบกรุงเทพมหานคร พร้อมขอความร่วมมือผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภค รายใหญ่ ช่วยลดราคาสินค้าเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
กรณี พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้แถลงว่า 14 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยที่เคลื่อนไหวต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จนถูกศาลทหารสั่งฝากขังว่า มีองค์กรต่างชาติองค์กรหนึ่ง อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มดังกล่าว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานดังกล่าว ทั้งนี้ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร เป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติต้องทำหนังสือรายงานประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติตามสายบังคับบัญชา ซึ่งไม่ต้องรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบ
การสร้างนิคมอุตสาหกรรมฮาลาล ณ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ยังติดปัญหา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ปัญหาอยู่ที่การเมืองท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ที่ยังมีความขัดแย้งเรื่องการใช้พื้นที่ดินที่กำหนดไว้ จึงทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ขณะนี้กำลังหาสถานที่สร้างนิคมอุตสาหกรรมฮาลาลแห่งใหม่ พร้อมกล่าวว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่นายกรัฐมนตรี และไม่สามารถบังคับประชาชนได้ แต่นายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนทุกอย่างที่จะทำให้ประชาชนมีรายได้ และสร้างอาชีพให้กับประชาชน
กรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า "เป็นเรื่องของแผนงานพัฒนาของกองทัพ อย่าไปคิดว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นหรือไม่จำเป็น ผมต้องดูว่าวันนี้กองทัพมีแผนพัฒนาล่วงหน้าเป็น 10 ปี 20 ปี แล้วผมถามว่าเรื่องนี้เกิดมานานหรือยัง เกิดมานาน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องมารัฐบาลนี้ อะไรต่างๆ ถามว่าแล้วรัฐบาลอื่นจะทำไหมล่ะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน"
"ตอนนี้เป็นขั้นตอนของเขา เป็นการกำหนดความต้องการของเขา ว่าถ้าจะมี มีอย่างไร มีที่ไหน จะหามาจากที่ใคร เอามาประกวดกันอย่างไร เป็นเรื่องภายในของเขา ยังไม่ได้ซื้อสักลำเลย อะไรกันหนักหนา ผมไม่เข้าใจ โยงเรื่องการเมืองบ้าง โยงรถไฟบ้าง ไม่ต้องทำอะไรเลยถ้าอย่างนั้น อยู่เฉยๆ ดีกว่า เอาเงินมาแจกกัน หรือเอาไปโกงกัน เอาไหมล่ะ เปิดฟรีกันไปเลย แบ่งเค้กกันไป ใครอยากจะเอาอะไรมาติดต่อกับตนนี่ตั้งโต๊ะกันไปเลยเอาไหม แล้วก็เป็นอย่างนี้แล้วกัน อยู่กันไปอย่างนี้แล้วกันหากินกันไปเรื่อยๆ"
"เขาอยู่ในกระบวนการของเขา จะซื้อหรือไม่ซื้อ เขาก็พูดให้ฟัง มันเป็นเรื่องภายใน เป็นแผนกองทัพ 10-20 ปี แผนปฎิรูปกองทัพก็มีเขามีหมดน่ะ แผนปฏิรูปกองทัพเขามี แผนปฎิรูปตำรวจก็มี ปฎิรูปข้าราชการมีหมด แต่เขาเป็นระยะๆ ของเขา แล้วถามว่าปฎิรูปการเมืองน่ะมีไหม เคยทำไหมเล่า ปฏิรูปการเมืองตัวเองเคยทำไหม ไม่เคยทำหรอก มีแต่อยากจะได้อำนาจ แล้วใช้อำนาจแบบนี้ที่ผ่านมา ผมพยายามใช้อำนาจให้ถูก ก็โจมตีผมนั่นแหละ ว่าผมเข้ามาถูกบ้าง ผิดบ้าง แต่ว่าผมไม่ได้ ผมเป็นคนควบคุมกติกา ผมไม่เกรงใจ เกรงใจแล้วเคยตัว เพราะฉะนั้นต้องรอดู ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอน ถ้ามันซื้อได้ พิจารณาความจำเป็นที่ต้องซื้อไหม มีไว้เพื่ออะไร จะมีไว้เพื่อรบ หรือมีเพื่อไม่รบ มีเพื่อรบกับใครหรือไม่รบกับใคร จะเอาไว้ที่ไหน ทะเลอ่าวไทยทะเลเดียวหรือไง ทะเลอันดามันมีไหม จำเป็นต้องไปพิทักษ์ปกป้องทรัพยากรทางทะเลไหม
"ไม่ได้มีเพื่อไปรบไปยิงใคร มีไว้ให้เกรงใจ วันหน้าจะรักษาการเดินเรืออย่างไร รักษาเส้นทางการประมงอย่างไร ก็เห็นอยู่ว่าทะเลอื่นเขาก็มีปัญหากันอยู่ วันหน้าเราจะไม่มีปัญหาหรือไง มันเป็นการแสดงศักยภาพแค่นั้นเอง แล้วมีไม่ใช่ว่าจะใช้วันนี้ ผ่อนกันไม่รู้อีกกี่ปี กว่าจะผ่อนเสร็จ เรือผุไปหมดแล้ว โธ่"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การจะซื้อเรือดำน้ำจากจีน ส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า "ไม่จำเป็นต้องซื้อกับเขาหรอก เราดีกับเขาอยู่แล้ว ตอนนี้ดีกับทุกประเทศทั่วโลกกับผมนี่ เว้นแต่ติดคำว่าประชาธิปไตย คำเดียว ผมจะบอกให้ ไม่ได้คุยนะ ผมแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของผม ความตั้งใจจริงของประเทศไทย ที่พร้อมจะดีกับทุกประเทศ"
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า การที่ศาลอนุมัติปล่อยตัวนักศึกษา กังวลหรือไม่ว่าจะมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มอื่นๆ ออกมาอีก พล.อ.ประยุมธ์ กล่าวว่า ก็อยู่ที่คนทำ อยู่ที่นักศึกษา ในเมื่อศาลให้ความเมตตาไปแล้วก็ไปดูกัน แต่ถ้าบอกว่าไม่ผิดมันจะใช่หรือเปล่าก็ต้องไปดู วันนี้พ่อแม่และทุกๆ คนก็เป็นห่วง
"จะเสียสละไปเพื่อใคร เวลานี้มันเพื่อใคร ทำไมจะรออีกสักหน่อยไม่ได้หรือ ถามจริงๆ ว่าอยากจะมีรัฐบาลใหม่ในวันพรุ่งนี้เลยหรือไม่ จะเอาหรือเปล่า เพราะท่านเบื่อผมแล้ว ก็เอาคนใหม่เข้ามาแล้วต้อนเขาอย่างนี้บ้าง ส่วนการมีรัฐบาลจะเร็วไป หรือช้าไป ขึ้นอยู่กับรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่เขาเขียนไว้ วันนี้ผมต้องขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจ ขอบคุณทุกคนที่ติชมอย่างมีสาระ ขอบคุณทุกคนที่เสนอวิสัยทัศน์โลกสวย ผมยอมรับทั้งหมดทุกเรื่อง มันอยู่ในหัวผมทั้งหมด ที่พูดทั้งหมดไม่ได้โกรธหรือว่าสื่อ แต่เราต้องมีมุมมองและเข้าใจถึงคำว่าอดีต ปัจจุบันและอนาคตว่าอดีตบ้านเมืองเป็นอย่างไร ปัจจุบันเรากำลังทำอะไร อนาคตจะเป็นอย่างไรในวันหน้าแล้ววันนี้คือประวัติศาสตร์ของวันข้างหน้า"
"ถ้าทำสำเร็จก็จะเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่เปลี่ยนลุคใหม่ แต่ถ้าไม่ทำมันก็กลับไปสู่ที่เก่า ขณะที่คนอื่นเดินไปข้างหน้าทั้งหมด เรากลับเดินถอยหลังหรือยืนอยู่กับที่แค่นี้ก็ตายแล้ว แต่กลัวว่ามันจะหนักยิ่งกว่านี้เพราะเศรษฐกิจจะตกลงยิ่งกว่านี้ ถ้าไม่ทำอย่างที่พูด ขนาดสั่งกันทุกวันยังทำกันไม่ทำ พยายามเร่งทุกอย่าง ใครเชิญไปประชุมที่ไหนก็ไปทุกที่ ไม่เคยได้พักผ่อน ประชุมเสร็จก็กลับเพราะคิดถึงคนไทย พอกลับมาก็ได้รับทั้งรอยและคำถามน่าอบอุ่นและชื่นใจทำให้ผมต้องกระตือรือร้นขึ้นมาอีกนิด เลือดสูบฉีดขึ้นสมองอีกหน่อยก็พอที่จะมีแรง"
"คนไทยต้องทำให้คนทั้งโลกได้เห็นถึงความรัก ความสามัคคี ความมีอัจฉริยะ มีบุคลิกภาพที่ดีในสังคมโลก ไม่ใช่ว่านักการศึกษาก็ตีกัน อาชีวะก็ตีกัน บนถนนก็เดินขบวน ไม่รู้อะไรหมู่ อะไรจ่า อะไรคือกฎหมาย ไม่รู้สถานการณ์ว่าอะไรคืออะไร ปนเปไปหมดทุกเรื่อง ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม จิตวิทยา ตีกันหมดทุกเรื่อง ทำไม่ได้สักเรื่อง แล้วประเทศไทยมันจะไปทางไหน ถ้าเราไม่สร้างระบบไว้ตั้งแต่วันนี้ วันข้างหน้าก็จะเป็นอย่างนี้อีกจำคำของผมและบันทึกไว้ด้วย วันหน้าผมจะถามใหม่ ว่าสิ่งที่ผมคิดไว้มันทำได้หรือไม่ แล้วผมจะคอยประเมิน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่ง