วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556

DSI รับคดี “สุเทพ” พร้อมพวก กปปส. เป็นคดีพิเศษ

DSI รับคดี “สุเทพ” พร้อมพวก กปปส. เป็นคดีพิเศษ 
เจอ 6 ข้อหาหนัก เตรียมออกหมายเรียก


17 ธันวาคม 2556 go6TV – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รักษาการรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) นายชัยเกษม นิติสิริ รักษาการ รมว.ยุติธรรม ในฐานะรองประธาน กคพ.พร้อมด้วยคณะกรรมการคดีพิเศษ ร่วมประชุมเพื่อพิจารณารับคดีอาญาเป็นคดีพิเศษโดยมี นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็นเลขานุการ กคพ.ประมวลเรื่องเข้าสู่การพิจารณา โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 2 ชม. ซึ่งหลังการประชุมนั้นที่ประชุมได้มีมติรับคดี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่ม กปปส.พร้อมพวก ที่เกิดในช่วงการชุมนุมเป็นคดีพิเศษ


นายธาริต แถลงภายหลังการประชุมว่า “ที่ประชุม กคพ.มีมติรับกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมพวก ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดทางอาญา สืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่ กทม. และบางจังหวัดตั้งแต่เดือน ส.ค.เป็นต้นมา และความผิดที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน โดยมีมติให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ พนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร่วมสอบสวนด้วยความโปร่งใส ให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นคดีที่มีซับซ้อน ต้องใช้ พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ บูรณาการร่วมกัน 3 ฝ่าย เพื่อประสิทธิภาพ และความเป็นธรรม ตนยืนยันว่าการพิจารณาของคณะกรรมการ กคพ.เป็นไปตามข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย เพราะการสอบสวนของตำรวจได้พบความผิดเกิดขึ้นก่อนหน้านี้จนกระทั่งศาลอาญาออกหมายจับในคดีกบฏ เบื้องต้นตำรวจได้รับคดีเกี่ยวกับ กปปส.ไว้ 60 คดี แต่พิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษมีเพียง 20 คดี โดยมีฐานความผิดในคดีหลัก ประกอบด้วย มาตรา 113 มาตรา 114 มาตรา 116 มาตรา 117 มาตรา 210 และมาตรา 215 ประมวลกฎหมายอาญา”


“ดีเอสไอสามารถดำเนินคดีได้ทั้งหมดในคดีเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันในภาพรวมรวม ทั้งกลุ่มท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุน ส่วนที่เหลือเป็นคดีเล็กน้อยพกพาอาวุธมีด หรือทำร้ายร่างกายกัน ส่วนแนวทางการสอบสวนตนจะเรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษคดีดังกล่าวเป็นนัดแรกในเวลา 14.00 น. วันที่ 18 ธ.ค.56 โดยจะมีการพิจารณาออกหมายเรียกแกนนำคนอื่นๆ ด้วย และกลุ่มท่อน้ำเลี้ยง การตรวจสอบบัญชี และการอายัดบัญชี ตนจะแถลงแนวทางการดำเนินคดีหลังการประชุม ส่วนคดีที่กบฏ ที่ศาลอาญาออกหมายจับนายสุเทพ ไว้ เมื่อ กคพ.ลงมติเป็นคดีพิเศษ หมายจับคดีดังกล่าวจะอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ และพนักงานสอบสวนจาก สตช. ส่วนแนวทางการนำตัวนายสุเทพ มาดำเนินคดีตามหมายจับยังเร็วเกินไปที่จะตอบว่าจะออกไปจับกุมภายนอก หรือจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ต้องหารือกับพนักงานสอบสวนก่อน” นายธาริตกล่าว


มีรายงานว่า สำหรับคดีที่ดีเอสไอได้รับไว้เป็นคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีต่อ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมพวก ประกอบด้วย มาตรา 113 ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ (1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ (2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญหรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ (3) แบ่งแยกราชอาณาจักร หรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต


มาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพล หรืออาวุธตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการ เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎรให้เป็นกบฏ หรือรู้ว่ามีผู้จะเป็นกบฏแล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี


มาตรา 116 ผู้ใดกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต (1) เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดินหรือรัฐบาล โดยใช้กำลังข่มขืนใจหรือใช้กำลังประทุษร้าย (2) เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร หรือ (3) เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี


มาตรา 117 ผู้ใดยุยง หรือจัดให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงานงดจ้าง หรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขาย หรือติดต่อทางธุรกิจกับบุคคลใดๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน เพื่อบังคับรัฐบาลหรือเพื่อข่มขู่ประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ


มาตรา 210 ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด อย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้ และความผิดนั้นมีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่หนึ่งปีขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นซ่องโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าเป็นการสมคบเพื่อกระทำความผิดที่มีระวางโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกอย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสองหมื่นบาท



มาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิดนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

"ไฮโซม็อบนกหวีด" ตาสว่าง! ประกาศ "หายบ้าแล้ว


"ไฮโซม็อบนกหวีด" ตาสว่าง! ประกาศ "หายบ้าแล้ว
จะไม่ยอมเสียเงินให้ใครได้หน้า" หลังโดนแม่ยกม็อบหลอก สุดท้ายซัดกันนัว!!!



          ตะลึงกันทั้งเมือง เมื่อเฟสบุ้คคนดังระดับอัครมหาเศรษฐีเมืองไทย ลูกหลานครอบครัว ลีนุตพงษ์ ได้เขียนข้อความด้วยถ้อยคำอย่างรุนแรง บริภาษด่าทอบุคคลหนึ่งในโลกไซเบอร์ ใจความระบุถึงเหตุการณ์ทำนองว่า เป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของม็อบนกหวีด ได้บริภาษไปถึงบุคคลหนึ่ง พอจับใจความได้ว่าชื่อ ซินเทีย? โดยระบุว่านางซินเทีย ไม่รู้จักบุญคุณ กินข้าวแดงแกงร้อนแล้วเนรคุณ ไม่รู้หัวนอนปลายตีน พร้อมระบุว่ามารดาของตนเป็นผู้ดี นามสกุล จักกะพาก





          อีกไอดีหนึ่ง ก็เป็นไอดีของลูกหลานครอบครัว ลีนุตพงษ์ เช่นเดียวกัน ก็เดือดดาลเข้ามาบริภาษไปยังบุคคล คนเดียวกันที่ชื่อ ซินเทีย พร้อมระบุว่า ประวัติศาสตร์คงได้บันทึกไว้แน่นอนว่าครั้งหนึ่ง ครอบครัวตระกูลดังเคยได้กู้ชาติในร่อง.......เดียวกันกับซินเทีย ซึ่งเป็นข้อหาที่รุนแรงเหลือเกิน จนต้องสืบเสาะว่า "ซินเทีย" คนถูกกล่าวหานี้คือใคร แล้วในที่สุดเราก็พบกว่า



             เราพบว่า "ซินเทีย" ที่ครอบครัวไฮโซชื่อดังกล่าวถึงก็คือ "ซินเธีย เอี่ยมสะอาด" หญิงแกร่งผู้ใกล้ชิดสนิทสนมพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นหญิงแกร่งที่มีชื่อเสียงเป็นแกนนำม็อบประชาชนทนไม่ไหว ที่ไปบุกสถานทูตอเมริกา ด่าทูตเคนนี่ เมื่อสิงหาคมปีที่แล้วนี่เอง

          ท่ามกลางความสับสนว่า "เกิดอะไรขึ้น" เราได้สืบเสาะ จนพบข้อเขียนในเฟสบุ้คของคุณ พฤทธิดา ลีนุตพงษ์ ได้ระบายความอัดอั้นตันใจ และแสดงข้อเท็จจริงทั้งหมด พอจับใจความได้ว่า เธอนั้น เป็นสปอนเซอร์ ให้นางซินเธีย บริจาคเงินให้ ซื้อข้าวของต่างๆให้ด้วยเงินหลายหมื่นบาท เพื่อให้ "นางซินเทีย" เอาไปแจกคนอื่นได้หน้าได้ตา โดยไม่เคยเปิดเผยว่าเธอเป็นคนจ่ายเงิน โดยเธอยืนยันว่า "ตอนนี้ ชั้นตาสว่างแล้ว หายบ้าแล้ว จะไม่ยอมเสียเงินให้ใครได้หน้าอีก"






            ลำดับเรื่องราว ว่าทำไมอยู่ดี ๆ ผู้ใช้ไอดีว่า พฤทธิดา ลีนุตพงษ์ ซึ่งเป็นอัครมหาเศรษฐีเมืองไทย ถึงเกิดอาการ "ตาสว่าง" อย่างปัจจุบันทันด่วน เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือ และท่ามกลางกระแสข่าวฟาดฟันกันสุดชีวิตของ "ลีนุตพงษ์" กับ "ซินเทีย" นั้น แฟนคลับม็อบนกหวีด ได้เข้ามาวิพากษ์วิจารย์พร้อมแฉเรื่องราวต่างๆ ทำให้เรา "ปะติดปะต่อ" เรื่องต่างๆ ได้อย่างเข้าใจ


เรื่องของเรื่องมีว่า

           หลังจากวันเฉลิมพระชนมพรรษา คงจำกันได้ว่า "นางซินเทีย" ไปเป่านกหวีดหน้าพระราชวังไกลกังวล สร้างความอับอายขายหน้าให้กับม็อบนกหวีด จนประชาชนทนไม่ไหว เข้าไปด่าจมหูที่เพจซินเทียนั้น จากนั้น บรรดาวงไฮโซไฮซ้อ ก็ชักเริ่มอึดอัดไม่พอใจที่แอบเป็นสปอนเซอร์ลับ ๆ ให้กับเธอ ข่าวคาวของซินเทียเริ่มแพร่กระจายว่าเธอนั้นมีนายทุนหนุนหลัง สปอนเซอร์เธอนั้น นามสกุลดัง รวมทั้งข่าวความไม่โปร่งใส มีคนจัดงานวันเกิดให้ฟรี ไม่ต้องจ่ายสักบาท แต่แอบไปเก็บตังส์คนมางานหน้าตาเฉย




           หลังจากเริ่มนินทากันว่า เธอชอบกินฟรี มีสปอนเซอร์ แต่แกล้งไปแชร์กันจ่ายแล้ว ปรากฏมีคนประกาศชัดเจนว่า สปอนเซอร์ของซินเทียคือใคร



         ไอดีเจ้าของสปอนเซอเริ่มเปิดตัวระบุ "สปอนเซอร์มันอยู่นี่ หมดกับมันไปตั้งเท่าไร"
ไม่ใช่แค่เงินเท่านั้น ซินเทีย ยังโดนข้อกล่าวหาว่า ไปรับของบริจาคมา แต่ไม่เอาไปบริจาคหรือประมูล เรียกง่ายๆว่า "อม" นั้นแหละ





            เธอคนนี้แฉว่า ทุกอย่างที่ ซินเทีย ทำแจกนั้น ตั้งแต่เสื้อเหลือง เสื้อสกรีน ผ้าพันคออาชีวะ แก้วน้ำ อาหารสารพัด มีสปอนเซอร์จ่ายให้ซินเทียทั้งหมด แต่ซินเทียไม่เคยเอ่ยปากบอก บอกว่าเธอทำเองด้วยใจ เงินเธอทั้งนั้น



           ไฮโซต่างๆ ร่วมมาผสมโรงด้วยว่า สปอนเซอร์นั้น จ่ายเงิน "จัดงานวันเกิดให้ซินเทีย" แต่ ซินเทีย กลับให้แขกที่ไปงาน จ่ายโอนเงินกลับมาให้ซินเทียหลังงานวันเกิด คนไปงานทุกคนยืนยันว่า โอนเงินงานวันเกิดไปให้เธอจริง



          เมื่อโดนแฉว่า แขกที่ไปงาน ถูกตามให้โอนเงินค่าอาหารไปให้ซินเทีย เจ้าของเงินในงานวันเกิดตัวจริงก็โวยทันทีว่า "เฮ้ย จริงเหรอคะ ยัยซินเทีย ไม่เคยเอาเงินค่าเลี้ยงมาให้พี่แตนเลยค่ะ" ก็แปลภาษาไทยง่าย ๆ ว่า ไม่เคยได้รับเงินคืนมาจากซินเทียเลย



          แขกทุกคนในงานวันเกิดที่จ่ายเงินให้ซินเทีย ยืนยันกับ "สปอนเซอร์" ชัดๆว่า ทุกครั้งที่ไป เรามาหารเงินคืนกันทีหลัง จ่ายคืนให้ทุกครั้งคะ"

           อ้าววววววว มันไม่ใช่แค่ไปกินอาหารหรืองานเลี้ยงครั้งสองครั้ง ทุกครั้งที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงใดๆปรากฏว่า สปอนเซอร์จ่ายทุกครั้งแต่.....



           เจ้าของเงินบอกว่า ทุกครั้งที่ไป ริโน่ ครั้งละมาก ๆ รวมเป็นเงินเยอะ สปอนเซอร์ จ่ายให้ ทั้งงานมิตติ้ง งานอะไรสารพัด แต่เธอไม่เคยได้รับเงินคืนจาก ซินเทียเลย คนไปงานก็เป็นคนวงใน วงสนิทซินเทียทั้งหมด ก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สปอนเซอร์จึงบอกว่า หากคิดว่าเป็นการใส่ร้าย ก็ขอให้ซินเทียมาเจอตัวเป็นๆ มาเคลียร์กัน



           เมื่อสปอนเซอร์จบเรื่องเงิน ปรากฏว่ามี "งานเข้า" อีก เมื่อบรรดาผู้บริจาคสิ่งของเริ่มโวยแล้วว่า "อม" ของประมูล ที่มีผู้บริจาคให้หารายได้เพื่อการกุศล แต่ซินเทีย ก็ไม่เคยเอาออกมาประมูลเลย รวมถึงคุณหมอท่านหนึ่ง ประมูลสร้อยคอไป หนึ่งหมื่่นบาท แต่กลายเป็นว่า ซินเทียประกาศว่าบริจาคเงินผ่านซินเทีย หน้าตาเฉย



            เมื่อข้อความที่คุยกันในเฟสบุ้ค เริ่มไปไกล มีคนบอกว่า หากข้อความดังกล่าวทั้งหมดเป็นเท็จ อาจโดนฟ้องหมิ่นประมาทได้นะจ๊ะ ผู้เสียหายสปอนเซอร์คนดังก็ประกาศชัดว่า "มันคือเรื่องจริง" และแฉซ้ำอีกว่า ที่แท้คนที่อุตส่าออกหน้าไปรับบริจาคสิ่งของประมูลมาให้ซินเทีย คือคุณพฤทธิดา แต่ซินเทียกลับเก็บของประมูลเหล่านั้นไว้ ไม่เอาออกมาประมูล จนคนรับของมาอับอายเสียหน้าเสียชื่อคือเธอ

         จนท้ายที่สุด หลายคนก็พูดว่า รอให้ม็อบจบก่อนแล้วหากจะฟ้อง ก็จะไปฟ้องด้วยกันขอให้ทุกคนที่เคยโดนซินเทียหลอก เตรียมหลักฐานไว้ให้พร้อมก็แล้วกัน

มหากาพย์เรื่องนี้จะดำเนินไปอย่างไร โปรดติดตามชมอย่างใกล้ชิด!