เลขาธิการ กปปส. ขอให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติต่อสื่อด้วยความรักความเข้าใจ ไม่ต้องว่านักข่าวสนาม มีอะไรขอให้บอกสุเทพจะไปด่า บก. ให้เอง - เชื่อมาสมัคร ส.ส. ตอนไก่โห่ต้องมีพิรุธ อัด กกต. ไม่ใช่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปรับสมัคร ส.ส. ถึงโรงพัก ส่วนยิ่งลักษณ์หากยังไม่ลาออก ทำตัวขวางมวลมหาประชาชน เมื่อถึงเวลาจะยกระดับขับไล่ทุกหนทุกแห่ง
สุเทพ เทิอกสุบรรณ ปราศรัยเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2556 (ที่มา: Blue Sky Channel)
สุเทพลั่นเมื่อวานชุมนุม 5 ล้าน 8 แสน นัดรอบหน้ามากกว่านี้อีก
23 ธ.ค. 2556 - เมื่อเวลา 21.00 น. สุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน ตอนหนึ่งอ้างว่าเมื่อวานมีผู้ชุมนุม 5,800,000 คน และระบุว่าถ้ามีการนัดชุมนุมใหญ่อีก คนก็จะมากกว่าเมื่อวาน "จะเป็นเท่าไหร่ก็เป็นความจริง ไม่ต้องถกเถียงกัน ที่ผมภาคภูมิใจมากและได้กราบพี่น้องด้วยหัวใจเพราะว่า ทุกคนปรามาสว่าวันที่ 9 ธ.ค. นั้นประชาชนมามากที่สุดแล้ว ไม่มีมากกว่านั้นแล้ว แต่เมื่อวานพี่น้องได้แสดงออกว่า วันที่ 22 ธ.ค. มากกว่าวันที่ 9 ธ.ค. ทำให้ผมเชื่อว่าครั้งหน้าจะมากกว่าเมื่อวานนี้อีก"
"ผมจะรอสัญญาณพี่น้องว่าพร้อมเมื่อไหร่ ผมจะนัดเมื่อนั้น ผมทำตามเสียงเรียกร้องของพี่น้องทั้งหลาย ที่ผมกราบเรียนว่าเมื่อวานที่ต้องตระเวนไปตามเวทีต่างๆ ด้วยความยากลำบากเพราะพี่น้องแน่นขนัดทุกแห่ง ทุกถนน ผมวางแผนว่าจะนั่งรถไฟใต้ดินจากสีลมไปอโศก แล้วนั่งรถไฟฟ้าไปลงทีละแห่ง แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่มีทางจะเดินไปสถานีรถไฟใต้ดินได้ ต้องใช้มอเตอ์ไซต์จนถึงปทุมวัน ไปได้ครึ่งทางแค่ราชเทวี ต้องนั่งรถไฟฟ้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เหนื่อยพอๆ กับพี่น้อง จังหวะที่ได้คลุกคลีกับพี่้น้อง ผมได้รับรู้อารมณ์ ความคิด ความมุ่งมั่นของพี่น้อง ซึมซับมาในสมอง ในหัวใจผม ผมจึงพูดแทนพี่น้องได้ เมื่อคืนมาเหนื่อยๆ ผมเลยใส่ปราศรัยเต็มที่เลย"
ขออภัยหากพูดไม่สุภาพ เพราะเหนื่อยและโกรธยิ่งลักษณ์ที่กล้าอบรมสั่งสอนประชาชน
สุเทพปราศรัยว่า "เมื่อคืนพูดจากภาษากำนันมากไปหน่อย คนกรุงเทพฯ ฟังแล้วอาจไม่สบายใจ คนกรุงเทพฯ ภาคกลาง เขาพูดจาไพเราะนุ่มนวล พูดแบบกำนันมีมึงกูเยอะไปหน่อย ขอโทษนะครับ"
"จะพูดใหม่ก็ได้นะครับ เพราะใจเย็นลงเยอะแล้ว เมื่อวานเหนื่อยด้วยและโกรธด้วย โกรธแทนพี่น้อง ที่คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บังอาจเหิมเกริมมาสั่งสอนประชาชนว่าต้องรู้จักเคารพรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ตรงนี้ฟังแล้วมันโกรธทันที ยั้งไม่อยู่ ถ้าคนมาแนะนำสั่งสอนเป็นคนดีมีศีลธรรม เราก็ยินดีฟัง เราไม่ใช่คนดื้อด้านอะไร แต่คุณยิ่งลักษณ์ที่มาอบรมสั่งสอนประชาชน ไม่มีคุณสมบัติสั่งสอนประชาชน เพราะตัวเองทำชั่ว ทำเลวมาก่อน สอนใครไม่ได้"
ย้ำต้องการเลือกตั้ง แต่กติกาบกพร่องเปิดช่องให้ทุจริต จึงต้องการปฏิรูปก่อน
"พูดเรื่องเลือกตั้ง เราบอกแล้ว เราต้องการไปเลือกตั้ง เราประชาชนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ต้องการให้ประเทศนี้เดินหน้าไปได้ด้วยประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ที่เป็นอยู่มันไม่สมบูรณ์ บกพร่อง มีช่องทางให้ทุจริต โกงการเลือกตั้ง มีช่องให้คนชั่วเอาเงินไปฟาดหัวประชาชน เป็น ส.ส. มาเป็นขี้ข้านายทุน ยกมือสนับสนุนนายทุนเป็นรัฐบาล เราไม่ต้องการเลือกตั้งแบบนี้ เพราะจะเป็นวงจรอุบาทว์ทำลายชาติ ทำลายประเทศ ประชาชนทนไม่ได้แล้ว เราต้องการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง พูดแค่นี้ ยิ่งลักษณ์มันฟังไม่รู้เรื่อง"
"เขาจะฟังไม่รู้เรื่อง หรือแกล้งไม่รู้ เรื่องของเขา แต่เรื่องของเราคือยืนยันเจตนารมณ์ ปฏิรูปประเทศไทยให้เสร็จสิ้นด้วยมือประชาชน และมีการเลือกตั้งตามครรลองประชาธิปไตยต่อไป จะไม่มาถกเถียงกับใครแล้วเรื่องข้อกฎหมาย รัฐธรรมนูญ เราเพียงประกาศเจตนารมณ์ชัดเจน ว่าบ้านเมืองวิบัติเสียหาย เราต้องการแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ที่เรียกว่าปฏิรูป เพราะเราต้องการทำให้เป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ มีระบบป้องกันคนชั่ว ไม่ให้มีอำนาจในบ้านเมือง ไม่ว่าใครจะอ้างว่าผิดกฎหมาย ถูกกฎหมาย เราไม่สนใจ เพราะเราคือประชาชน แล้วไม่ต้องมาด่าว่าเราปฏิเสธกฎหมายอีก เพราะเราคือประชาชน เราคือเจ้าของอำนาจอธิปไตย อำนาจสูงสุดในการปกครองบ้านเมือง นี่เขียนชัดในรัฐธรรมนูญมาตรา 3 อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย"
"เมื่อเรามอบอำนาจให้รัฐบาล ให้สภา แต่ทั้งสภาและรัฐบาลมันสมคบกันทรยศ หักหลังเจ้าของอำนาจคือประชาชน จึงเป็นสิทธิที่เราจะเอาอำนาจอธิปไตยคืนมาเป็นของประชาชน เมื่ออำนาจเป็นของประชาชน ประชาชนมีสิทธิชอบธรรม ที่จะดำเนินการใดๆ ให้บ้านเมืองเจริญขึ้น มีประชาธิปไตยสมบูรณ์ขึ้น นี่คือสิ่งที่เราจะทำและไม่ต้องการโต้เถียงกับใครอีกแล้ว"
ย้ำจะไม่เสียเวลาไปเถียงนักวิชาการ เพราะเวียนหัว เอาเป็นว่า กปปส. ทำดีเพื่อชาติ
สุเทพ กล่าวด้วยว่า จะไม่เถียงกับนักวิชาการเรื่องการเลือกตั้งแล้วเพราะเสียเวลา "เพราะพวกนี้ถือดีว่ารู้มากกว่าประชาชน ปริญญายาวเป็นวา นั่งเถียงกับมันทุกมัน เวียนหัวตาย ไม่ต้องไปเถียงกับมัน เอาเป็นว่าเราทำดีเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ฉะนั้นไม่เถียงกับมึงให้เสียเวลา กูไปอย่างนี้"
"เห็นไหมครับ พออารมณ์ขึ้น มันขึ้นกูขึ้นมึงแล้ว ขอโทษๆ เอาเป็นว่า เราเดินของเราอย่างนี้ ด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง มีผลประโยชน์ของชาติ และแผ่นดินเป็นที่ตั้ง ไม่ทะเลาะกับท่านทรงภูมิ เอาภูมิไปรับใช้ระบอบทักษิณ เราไม่เอา เราเดินของเราอย่างนี้"
ชื่นชมผู้ชุมนุมเสียสละปักหลักหน้าสนามไทย-ญี่ปุ่นดินแดง ขอให้ท่องคาถาสงบสันติ
"เพราะฉะนั้นตั้งแต่เมื่อคืนตอนดึก วันนี้ทั้งวัน ถึงมีกลุ่มพี่น้องประชาชนพวกเราได้ไปปักหลักแสดงเจตนารมณ์ที่ไม่เห็นด้วยกับการจัดการเลือกตั้ง ต้องการเน้นย้ำให้เห็นชัดว่ามวลมหาประชาชนต้องการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง น่าเห็นใจมากพี่น้องเรา ไปทนทุกข์ทรมานกลางถนน หน้าสนามกีฬาดินแดง สถานที่เขารับสมัครเลือกตั้งวันแรก"
"ขอแสดงความชื่นชมของความเสียสละ และเห็นใจอย่างยิ่ง ผู้ชุมนุมมีความเครียดเขาส่งตำรวจไปเป็นพันคน ในสถานที่รับสมัคร มีการกระทำที่กดดันประชาชนมาก แต่ผมอยากกราบเรียนพี่้น้องประชาชนทั้งหลาย ถ้าท่านได้ยินเสียงนี้ เราต้องระลึกว่าเราเป็นพลเมืองดีคนมีคุณธรรม มีหลัก หลักของเราคือสู้อย่างสันติ สงบ ไม่รุนแรง ปราศจากอาวุธ ต้องท่องคาถานี้ให้มั่น"
"ผมต้องย้ำทุกคืน เพราะที่เราได้สู้ร่วมกันมาเกือบสองเดือนแล้ว ทุกข์ยากลำบากมาด้วยกัน เรามีความสำเร็จ ก้าวหน้าในการต่อสู้มาตามลำดับ สิ่งที่ประเสริฐสุดในการต่อสู้คราวนี้ คือหัวใจบริสุทธิ์ของประชาชน สันติ สงบ ไม่รุนแรง อย่างเคร่งครัด ตรงนี้จะทำให้เราชนะขาวสะอาด และโลกต้องยอมรับเรา"
หากโกรธ-ทนไม่ไหวขอให้กลับบ้านไปอาบน้ำพักผ่อน สดชื่นค่อยมาใหม่
"ผมต้องเอาเรื่องนี้มาย้ำบ่อยๆ ย้ำทุกวัน เพราะผมมาจากประชาชน เติบโตมากับพี่้น้องทั้งหลาย ผมรู้เวลาเหนื่อย เวลาหิว เวลาโกรธ บางที มันยับยั้งยาก แต่ต้องยับยั้งให้ได้ ต้องอดทน ถ้าเมื่อไหร่ทนไม่ไหวแล้ว กลับบ้าน อาบน้ำ พักผ่อน สดชื่นค่อยกลับมาใหม่ เพื่อรักษาภาพรวมการต่อสู้ของเราให้บริสุทธิ์ไว้ให้ได้ พี่น้องต้องท่องไว้ ถ้าพี่น้องยุแก่โทสะ ทนการยั่วยุไม่ไหว ทนการกดดันของสถานการณ์ไม่ได้ เราเกิดระเบิดอารมณ์ขึ้นมา ภาพความดีงามของการต่อสู้เรายับเยินหมด เราต้องช่วยกัน ช่วยกันดูแลพรรคพวกเรา ต้องอดทน อดกลั้น เดินแนวนี้ให้ได้ ประคองกันไปให้ได้ครับ ถ้าเห็นผมหลุด ต้องเตือนผมเหมือนกัน ต้องขออนุญาตว่าผมก็หลุดบ่อยครับ"
ขอโทษสื่อที่กระทบกระทั่ง วอนผู้ชุมนุมไม่ต้องด่านักข่าวสนาม ขอให้บอกสุเทพจะไปด่า บก. ข้างในเอง
"สิ่งที่ผมเป็นห่วงมากที่สุด คืออารมณ์พี่น้องกับสื่อมวลชน ผมก็ซัดกับสื่อบ่อยๆ เพราะสื่อมวลชนหลายรายไม่ให้ความเป็นธรรมในการเสนอข่าวกับกิจกรรมของมวลมหาประชาชน เพราะฉะนั้นผมต้องเล่นงานสื่อ แต่ผมเล่นงานเฉพาะปาก ว่าเขา ตำหนิเขา เรียกร้องให้เขาทำตัวให้เป็นกลาง เป็นสื่อมวลชนที่ดีของประเทศ แต่การที่ผมพูด ใส่อารมณ์ไปด้วย มันไปกระตุ้นอารมณ์พี่้น้องเข้าพอดี พอไปยืนฟังเขารายงานข่าว ทางทีวีช่องนั้น ช่องนี้ มันก็เลยพลุ่งพล่านขึ้นมา กลายเป็นปัญหา ผมก็ต้องขออภัย ขอโทษ"
สุเทพ อธิบายรูปแบบการทำงานของนักข่าวว่า "เวลาสื่อมวลชนส่งข่าวเข้าสำนักงานใหญ่ พวกข้างในถูกครอบงำโดยเจ้าของกิจกรรม เพราะฉะนั้นที่ส่งเข้าไปถูกปรับถูกปรุง ถูกบิด โดยคนข้างใน ไม่ใช่ผู้สื่อข่าวสนาม ถ้าไม่พอใจ ต้องโทรศัพท์ไปด่าพวกข้างใน หรือเขียนจดหมายไปด่าข้างใน หรือเขียนมาให้ผมด่า ไม่ต้องออกแรงเอง"
ต่อนี้ไปขอให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติกับผู้สื่อข่าวด้วยความรัก ความเข้าใจ เอื้ออารี
"เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้ ผมขอกราบขอร้องพี่น้องทุกคน โดยเฉพาะการ์ด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ขอให้ปฏิบัติต่อสื่อมวลชน โดยเฉพาะผู้สื่อข่าวในพื้นที่ของเรา ด้วยความรัก ความเข้าใจ ด้วยความเอื้ออารีเป็นพิเศษ ผมกราบขอร้องและเชื่อว่าพี่น้องต้องทำได้"
"ผมไม่ต้องการให้พี่น้องเข้าใจใครผิด แยกมิตร แยกศัตรูให้ชัดเจน ไม่สร้างศัตรูเพิ่ม แค่ระบอบทักษิณก็รบกันทั้งปี จะสิ้นปีอยู่แล้ว เหลือกินเหลือใช้พี่น้อง"
ย้ำมาถูกทางแล้ว กปปส. ต้องการเห็นเลือกตั้งบริสุทธิ์ ปิดช่องทุจริตให้รัดกุม
"พี่น้องทั้งหลาย ผมยังยืนยันนะครับว่า สิ่งที่เราได้ทำมานี้ เรามาถูกทางและเป็นทางที่เดินต่อ การที่เรายืนยันว่าเราจะต้องปฏิรูปประเทศไทย ก่อนไปเลือกตั้ง ต้องเป็นเรื่องที่ต้องทำให้สำเร็จ นั่นหมายความว่า การเลือกตั้งที่เขากำลังจะจัดการมานี้ ไม่ว่าจะมีกระบวนการ ขั้นตอนอย่างไร เราต้องไปยืนประท้วงทุกหนแห่ง ทุกที่ จะดำเนินการอย่างนี้จนถึงวันสุดท้าย"
"เราต้องการเห็นการเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรม มีกฎเกณฑ์รัดกุมป้องกันไม่ให้คนชั่วมีอำนาจทางการเมือง ในอดีตเราเห็นมาแล้ว นอกจากผู้สมัครทุจริตแล้ว พรรคการเมืองก็โกง ทุจริตรู้เห็นเป็นใจ จนถูกยุบพรรคมาสองครั้งสองหน ครั้งนี้ก็เตรียมโกงอีก เพราะสันดานเป็นอย่างนั้น ที่น่ากลัวที่สุด คือความที่มันมีอิทธิพล ทำให้เจ้าหน้าที่ ในสำนักงาน กกต. และตัว กกต. ใหญ่เอง ร่วมมือ รู้เห็น เป็นใจ สมคบทำการทุจริตเลือกตั้งด้วย นี่คือสิ่งที่เราเคยเห็นมาแล้ว"
"คุณถาวร เสนเนียมไปฟ้อง กกต. 1 คดี ผมก็ไปฟ้องอีก 1 คดี คดีคุณถาวร ศาลลงโทษจำคุก กกต. คนละ 4 ปี ถึงศาลฎีกาไอ้ กกต. พวกนั้นหลุดคุกฉิวเฉียด เพราะศาลฎีกาเห็นว่าคุณถาวรไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีสิทธิฟ้อง ผมถึงให้แก้ไขตรงนี้ กฎหมายเลือกตั้งที่ต้องปฏิรูปนั้น ต่อไปนี้ ถ้าพวกเลวทั้งหมดโกงเลือกตั้ง ทุจริตผิดกฎหมาย ประชาชนผู้มีสิทธิทุกคนต้องเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิฟ้องดำเนินคดี เราต้องเอาอย่างนี้"
"ส่วนคดีที่ผมฟ้อง กกต. ศาลชั้นต้น อุทธรณ์ลงโทษจำคุก ส่วนศาลฎีกายังไม่วินิจฉัย ผมเลยยังไม่ได้เล่าให้ฟัง แต่ผมชี้ว่าศาลยกฟ้องเพราะตีความตามตัวบทว่าคุณถาวร เสนเนียมไม่ใช่ผู้เสียหายตามกฎหมาย กกต. เราต้องแก้ว่าต่อไปนี้คนไทยทุกคนเป็นผู้เสียหาย มีสิทธิฟ้องคดีได้ มีหลักฐานชัดเจนว่า กกต. สมรู้ ร่วมคิด ทำชั่วกับนักการเมืองไทยรักไทย และพลังประชาชน ซึ่งเดี๋ยวนี้เป็นพรรคเพื่อไทย"
สุเทพเชื่อสมัคร ส.ส. ตี 3 ตี 4 ต้องมีพิรุธ อัด กกต. ไม่ใช่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ถึงต้องไปรับสมัคร ส.ส. ถึงโรงพัก
สุเทพกล่าวถึงการสมัครรับเลือกตั้งในวันแรกด้วยว่า "ในการเลือกตั้ง มันมาสมัครตีสาม ตีสี่ครึ่ง ตีห้าขึ้น เขาให้มาสมัครตั้งแต่แปดนาฬิกา นี่มันมาสมัครตั้งแต่ตีสาม ตีสี่ มันมีพิรุธไหมครับพี่น้อง สมัครไปได้ 7-8 พรรค ก่อนสว่างทั้งนั้น เดินไปคลำไปไปสมัครกัน พอเช้าขึ้นมาเห็นหน้าเห็นตา ประชาชนไปประท้วงอยู่หน้าสถานที่ เราไม่ได้เข้าไปข้างในนะครับ เราอยู่บนถนน เราประท้วงของเรา เราอนุญาตให้เดินผ่านตีนเราไปสมัครได้ แต่ใจมันไม่ถึง ไม่กล้าเข้า"
"มันทำยังไงครับ มันไป สน.ดินแดง ไปลงบันทึกประจำวัน เราไม่ว่า แต่ที่แปลกคือ เจ้าหน้าที่ของ กกต. ไปนั่งตรวจเอกสารของพรรคการเมืองที่ต้องการไปสมัครอยู่ที่สถานีตำรวจดินแดง นี่มันผิดสถานที่ นั่นไม่ใช่ที่สมัครรับเลือกตั้ง นั่นมันสถานีตำรวจ นี่ไม่ใช่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ แต่มันทำแล้ว"
"เสียดาย กกต.หลายท่าน ผมรู้จักเป็นผู้ทรงภูมิ ได้ชื่อว่าเป็นคนดีของบ้านเมือง ผมไม่อยากให้ท่านแปดเปื้อนกับความสกปรกนี้ ท่านต้องพิจารณาครับ ถ้าท่านเดินหน้า ก็เป็นเรื่องที่ประชาชนจะดำเนินในวิถีประชาชน เพราะท่านเลือกเดินอีกข้างแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าท่านต้องถูกดำเนินคดีก็อย่ามาโกรธแล้วกัน นี่ผมเตือนไว้สำหรับท่าน กกต. ส่วนรัฐบาลจะตั้งข้อหาอะไรเพิ่มเติมไม่เดือดร้อนอะไร เพราะข้อหากบฎสูงสุดแล้ว ข้อหาอื่นจิ๊บจ๊อยน้อยนิดทั้งสิ้น"
ถามข้าราชการจะต้องให้ออกมาอีกกี่ล้าน ถึงจะเปลี่ยนข้าง ย้ำช้าหรือเร็วประชาชนชนะแน่นอน
ตอนท้ายสุเทพปราศรัยย้ำข้าราชการให้เลือข้างด้วยว่า "ถ้าเราแพ้เขา ไหนๆ ต้องเป็นขี้ข้า ทาสระบอบทักษิณ ก็ติดคุกดีกว่า ถ้าชนะเราก็ถือว่าเกิดมาชาตินี้ทำดีทดแทนคุณแผ่นดิน รักษาบ้านเมืองให้ลูกหลานเป็นเสรีชน คนแก่อย่างเราตายตาหลับมีความสุข ไม่ถูกใครสาบแช่ง แต่มวลมหาประชาชนมาขนาดนี้ ข้าราชการยังคิดอยู่อีก ช่วยบอกผมมาสักทีสิ ว่าจะได้บอกมวลมหาประชาชนเขาได้ว่าท่านต้องการคิดกี่วัน วันที่ 24 พ.ย. คนมาเป็นล้าน ท่านว่าเยอะ วันที่ 9 ธ.ค. ออกมาหลายล้าน ท่านว่าคนเยอะ แต่ไม่ตัดสินใจ พอ 22 ธ.ค. เรามาเยอะกว่าวันที่ 9 อีก ท่านไม่ตัดสินใจ ท่านต้องการกี่วัน ท่านต้องการกี่ล้าน บอกมา ผมจะทำให้ ถ้าท่านคิดว่าคนมา 5 ล้าน 8 แสน ไม่มากพอ ท่านบอกผมมาต้องการกี่ล้าน ผมจะได้ทำให้ดู บ้านเมืองจะได้สงบเรียบร้อย เดินหน้าเสียที ตราบใดที่พวกท่านไม่ตัดสินใจ รับใช้ระบอบทักษิณ ประชาชนต้องเหนื่อย ต้องลำบากมากขึ้น แต่บอกให้รู้ จะเหนื่อยจะยากลำบากอย่างไร ประชาชนอย่างเราออกมาแล้ว ไม่กลับบ้านมือเปล่าเด็ดขาด"
ทั้งนี้สุเทพ เรียกร้องให้ข้าราชการมาขึ้นเวทีประกาศยืนข้างประชาชน เพราะประชาชนมาแสดงตนแล้ว ก้าวพ้นความกลัวแล้ว เหลือพี่น้องข้าราชการเท่านั้น ผมเรียนยืนยันพี่้น้องข้าราชการทั้งหลาย ช้าหรือเร็วเท่านั้น ประชาชนชนะแน่นอน ออกมาห้าล้านแล้วไม่มีวันแพ้ เพราะไม่มีที่ไหนในโลกออกมาขนาดนี้ "และต้องเรียนตรงๆ ว่าถ้าท่านรอ ไม่ยอมตัดสินใจ รอจนประชาชนออกมาครั้งใหม่ แรงกดดันของมวลมหาประชาชนจะตรงไปหาพี่น้องข้าราชการ ถึงจุดที่ท่านทนทานไม่ไหวผมเตือนไว้ก่อน"
เผย กปปส. คิดหาวิธีการให้ชัยชนะมาถึงเร็วขึ้น และใครขวางหน้าการปฏิรูปเราสู้ทั้งนั้น
คณะกรรมการ กปปส. ก็พยายามคิดหาวิธีการ เพื่อที่จะทำให้ชัยชนะของประชาชนมาถึงเร็วขึ้น แต่อย่างที่ผมกราบเรียนกับพี่น้อง เพราะเราเลือกวิธีสันติ สู้แบบมือเปล่า สู้ด้วยหัวใจ แบบพลเมืองดี มันจึงทำให้คนบางพวก บางกลุ่มในประเทศไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ผมถึงประกาศกับพี่น้องว่าถ้าเราให้โอกาสสังคมเต็มที่ ภาคส่วนทั้งหลายไม่ออกมาร่วมมือสนับสนุนประชาชนนั่นเท่ากับบังคับให้เราประชาชนเดินหน้าเต็มรูป ปฏิวัติด้วยกำลังประชาชนนั่นเป็นสิ่งที่เราไม่มีทางเลือก เพราะเราต้องการให้ประเทศอยู่รอด เราจะบอกให้ฟังว่า ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม การออกมาต่อสู้ของมวลมหาประชาชนคราวนี้ ต้องเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้นให้ได้ ปฏิรูปให้ได้ ใครขวางหน้าเรา เราสู้ทั้งนั้น
ลั่นถ้ายิ่งลักษณ์ยังไม่ลาออก ถึงเวลาจะยกระดับขับไล่ทุกหนทุกแห่ง
"คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหัวขบวนใหญ่ที่ขวางทางมวลมหาประชาชน เราจึงออกมาชุมนุม แสดงพลัง เพื่อขับไล่คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตรให้พ้นตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ไม่มีความชอบธรรมอยู่แล้วทั้งทางกฎหมายและการเมือง แต่ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ไม่รู้สึกรู้สา ยังไปตรงโน้นตรงนี้ เราจะกระชับพื้นที่ให้ใกล้ตัวคุณยิ่งลักษณ์มากขึ้นในการขับไล่ เมื่อวานก็ไปเป็นตัวอย่าง ไม่ต้องมาสงสัยว่าเขาไปบ้านคุณทำไมในเมื่อคุณไม่อยู่ ไปเพื่อบอกว่าเขาไล่คุณ เขารู้ว่าอยู่ที่ไหน และบ้านที่คุณอยู่กับใคร เราก็ไปถูก บอกคุณไว้ด้วย"
"ประชาชนเป็นล้านๆ ตาเป็นสับปะรด นึกว่าจะพ้นหูตาเรอะ เราจะให้คุณตัดสินใจ ถ้าถึงขึ้นยกระดับ จะไล่คุณทุกแห่ง นุ่งผ้าไม่นุ่งผ้าก็จะไล่คุณ นี่ก็บอกให้ทราบ ถ้าบังคับให้ประชาชนทำมากกว่านี้ อย่ามาโทษเรา ตื่นเช้ามาต้องเจอเรา ไปไหนต้องเจอพวกเรา ทนได้ให้มันรู้ไป"
ย้ำ กปปส. เกิดขึ้นแล้วทุกหนแห่ง จะไม่มีวันแแพ้ มีแต่ชนะช้าหรือชนะเร็วเท่านั้น
"พี่น้องต่างจังหวัดที่มาสามวันห้าวัน ถ้าจำเป็นต้องกลับไปซักเสื้อผ้า กลับได้ แต่ว่าโปรดให้คนอื่นมาเข้าเวรแทน พี่น้อง กทม. เสร็จงานเสร็จการก็มาอยู่หน้าเวทีเหมือนเดิม เพราะเราหลอมหัวใจแล้ว อยู่ไกลก็คิดถึง ยังไงต้องมาให้เห็นหน้ากัน พวกผมแกนนำคงไปไหนไม่ได้ เพราะแต่ละคนมีหมายจับครบถ้วน อยู่ตรงนี้เฝ้าเวทีกับพี่น้องทุกวัน พอพี่น้องหายเหนื่อย มีเรี่ยวแรงแข็งขัน เราจะเดินหน้ากระชับวงล้อมเข้าไป ให้ยิ่งลักษณ์ออกให้ได้ เพื่อให้เราใช้อำนาจของประชาชนมาบริหารประเทศเพื่อคนไทยทุกคน วันนี้ขออนุญาตพูดจากับพี่น้องแค่นี้ เชื่อว่าบรรดาวิทยากรทั้งหลายที่จะมาบนเวทีปราศรัยก็จะเพิ่มพูนข้อมูลข่าวสารความรู้ให้พี่น้องได้บอกเล่าเก้าสิบต่อไป"
สุเทพระบุด้วยว่า กปปส. ขยายไปจังหวัดต่างๆ และประเทศต่างๆ แล้วในโลก "เป็นการพิสูจน์ว่าไม่มีใครอยากเห็นระบอบทักษิณในประเทศไทยอีกต่อไป จึงมี กปปส. ทุกหนทุกแห่ง และนั่นคือสัญญาณที่ดี ที่จะแสดงให้ทุกฝ่ายเห็นชัดว่า กำลังของมวลมหาประชาชนมีแต่เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้น ขอให้เชื่อมั่นครับ มาถึงขั้นนี้แล้ว เราไม่มีวันแพ้ มีแต่ว่าชนะช้า หรือชนะเร็วเท่านั้น ขอให้มั่นใจครับ ขอบคุณครับ"
ทั้งนี้สุเทพ จบการปราศรัยในเวลา 21.50 น.