วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559

วรชัย เลื่อนแถลงหลังถูกฟ้องชงกม.นิรโทษกรรม ยันจุดยืนทำเพื่อปชช.


16 ส.ค. 2559 วรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เลื่อนการแถลงข่าวของ 40 ส.ส.พรรคเพื่อไทย กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ตั้งอนุกรรมการสอบสวนเอาผิด 40 ส.ส.ที่ลงมติออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยกล่าวว่า การเลื่อนแถลงวันนี้ เป็นเพราะบรรดาอดีตส.ส.รวมตัวไม่ครบ ซึ่งคงจะแถลงต่อไปในสัปดาห์หน้า
วรชัย ยังกล่าวอีกว่า การออกพ.ร.บ.นิรโทษฯ เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ เราไม่ได้ทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง หรือทำเพื่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่ทำเพื่อประชาชน การเสนอกฎหมายดังกล่าวเป็นไปตามกฎเกณฑ์และข้อบังคับการประชุมของสภาคือ ต้องมีส.ส.ไม่ต่ำกว่า 20 คนขึ้นไป การเสนอญัตติเป็นความเห็นของผู้ร่วมเสนอ จากนั้นจึงส่งเรื่องให้ประธานสภาฯ พิจารณา ซึ่งประธานสภาฯก็ต้องรับญัตติหากเห็นว่าญัตติเป็นไปตามข้อบังคับ ต้องบรรจุเข้าวาระการประชุม และพิจารณาตามลำดับวาระ
 
“เรื่องนี้เราทำตามข้อบังคับ ตามอำนาจหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจเสนอญัตติได้ ฉะนั้นเรื่องนี้เป็นประเด็นของสภา และข้อบังคับ และอำนาจหน้าที่ที่สามารถทำตามระเบียบได้ เราไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะทำตามอำนาจหน้าที่ หากป.ป.ช.จะตั้งอนุไต่สวนก็ตั้งไป” วรชัย กล่าว

HRW-เครือข่ายนักวิชาการต่างประเทศเรียกร้องปล่อย ‘ไผ่ จตุภัทร์’


เครือข่ายนักวิชาการในภาวะเสี่ยง (Scholars at Risk) กระตุ้นนักวิชาการ-นักศึกษาทั่วโลกเรียกร้องประยุทธ์ปล่อย  ‘ไผ่ จตุภัทร์’ ด้านฮิวแมนไรซ์วอทช์ (HRW) ออกแถลงการณ์เรียกร้องทั่วโลกกดดันพล.อ.ประยุทธ์ ยุติจับตามอำเภอใจ ยุติคดีกับผู้แสดงความคิดเห็นโดยสันติ
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 2559 เครือข่ายนักวิชาการในภาวะเสี่ยง หรือ Scholars at Risk (SAR) ในกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลและรณรงค์ให้รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปล่อย ‘ไผ่’ จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นนักเคลื่อนไหวกลุ่มดาวดินและขบวนประชาธิปไตยใหม่(NDM) ที่ถูกกักขังในเรือนจำภูเขียวโดยทันที และหยุดการดำเนินคดีนักศึกษาทุกคนที่แสดงความคิดเห็นอย่างสันติ
แถลงการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีการจับกุม จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ วศิน พรหมมณี เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมาซึ่งทำกิจกรรมแจกเอกสารที่มีข้อมูลเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญที่จะลงประชามติที่ตลาดนัดที่จังหวัดชัยภูมิ โดยเจ้าหน้าที่เห็นว่าการเผยแพร่ข้อมูลเป็นการละเมิดกฎหมาย มีการจับและยึดเอกสารโดยทันที นักศึกษาทั้ง 2 คนถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืนมาตรา 61 พ.ร.บ.ประชามติ พ.ศ.2559 (ก่อความวุ่นวายเพื่อให้การออกเสียงไม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย) และประกาศ คมช. 25/2549 เรื่องฝ่าฝืนไม่พิมพ์ลายนิ้วมือตามคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิด อาจมีทั้งโทษจำคุก เสียค่าปรับ และการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม วศิน พรหมณี ยื่นขอประกันตัวและได้รับอนุญาตจากศาลจังหวัดชัยภูมิ แต่ ไผ่จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ถูกกักขังอยู่ไม่ขอประกันตัวและยืนยันว่าการกระทำไม่ผิดกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 8 สิงหาคมศาลจังหวัดชัยภูมิ สั่งฝากขังผัดแรก และในวันที่ 19 สิงหาคมนี้จะมีการฝากขังผัดสอง
เครือข่ายนักวิชาการในภาวะเสี่ยง (SAR)  เขียนแถลงการณ์ และชวนสมาชิกในเครือข่ายติดตามกรณีนี้ พร้อมยืนยันว่าการกระทำของทั้งคู่ไม่ใช่การกระทำที่ผิดกฎหมายและเป็นสิทธิที่ควรถูกปกป้อง ไม่ใช่ถูกละเมิด
สำหรับเครือข่ายนักวิชาการในภาวะเสี่ยง (SAR) เป็นเครือข่ายของนักวิชาการและสถาบันการศึกษาทั่วโลกที่ร่วมตัวกันปกป้องนักวิชาการและนักศึกษาที่ถูกคุกคามโดยรัฐและสนับสนุนและส่งเสริมเสรีภาพทางวิชาการ โดยจะมีการบันทึกกรณีการจับกุม กักขัง การสังหาร และการละเมิดสิทธิชนิดอื่น นอกจากนี้ SAR ยังทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการจำกัดเสรีภาพทางวิชาการและการแสดงออกความคิดเห็นอย่างสันติโดยนักวิชาการและนักศึกษา
ด้าน Human Righs Watch (HRW) ออกแถลงการณ์เมื่อ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา เรียกร้องห้ปล่อยนักกิจกรรมทางการเมืองที่อดข้าวประท้วงหลังจากถูกจับกุมอย่างไม่เป็นธรรมจากการวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ
แถลงการณ์ระบุว่า กรมราชทัณฑ์ควรย้ายตัวจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา อดอาหารประท้วงในเรือนจำมาตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. ไปยังโรงพยาบาลนื่อจากเขามีอาการไข้ขึ้นสูง เจ็บปวดเนื้อตัว
“รัฐบาลทหารควรปล่อยจตุภัทร์และนักกิจกรรมอีกคนหนึ่งที่ทำการประท้วงร่างรัฐธรรมนูญอย่างสันติโดยทันที และในขณะเดียวกันจตุภัทร์ต้องได้รัการดูแลสุขภาพจากแพทย์ในกรณีที่ร่างกายของเขาทรุดลง และทูตควรได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมเขาได้” แบรด อาดัมส์ ผู้อำนวยการ HRW ในเอเชียระบุ
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ผู้ต้องขังที่สมัครใจอดอาหาร โดยถือเป็นวิธีแสดงออกอย่างสันติ ตราบเท่าที่เขามีอำนาจตามกฎหมายการบังคับให้เขารับประทานอาหาร ถือเป็นการขัดต่อมาตรฐานสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ ก่อนการประชามติจะเกิดขึ้นทางการได้จับกุมนักการเมือง, นักกิจกรรม, นักข่าวและผู้สนับสนุนการเคลื่อนไหวที่วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ ประกาศในทางสาธารณะว่าจะโหวตไม่รับร่าง หรือเรียกร้องให้มีการจับตาประชมติไปแล้วอย่าน้อย 120 คน การดำเนินคดีกับฝ่ายตรงข้ามของคณะรัฐประหารยิ่งทำให้เห็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสันติต่อรัฐบาลจะยังคงกลายเป็นประเด็นที่จะถูกจับกุมและดำเนินคดีก่อนการเลือกตั้งที่ถูกกำหนดไว้คร่าวๆ ว่าจะเกิดในเดือนธันวาคม 2017
“สหประชาชาติและประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่เป็นเพื่อนกับประเทศไทยควรกดดันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ยุติการจับกุมผู้ไม่เห็นด้วยตามอำเภอใจ และยุติการดำเนินคดีทั้งหมดต่อผู้ที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองอย่างสันติ” อาดัมส์กล่าว

ทนายเผยปล่อย 2 ใน 3 ญาติผู้ต้องหาขอนแก่นโมเดลจาก มทบ.11 แล้ว ถูกคุมตัวหลังวันใต้ป่วน


16 ส.ค. 2559 ภายหลังจากเหตุการณ์ระเบิดและเพลิงใหม้ 7 จังหวัดภาคใต้ เมื่อช่วงระหว่างวันที่ 11-12 ส.ค.ที่ผ่านมา จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องสงสัยตามจังหวัดภาพใต้และภาคอื่นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนมีประวัติเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองกบกลุ่มเสื้อแดงนั้น กรกช บุตรสิม ทนายความจากชมรมทนายความพิราบขาว พิทักษ์สิทธิ์ประชาชน โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว 'นายกรกช บุตรสิม' เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า "ในฐานะนักกฏหมาย ผมขอประนามการใช้วิธีการนอกกฏหมาย ของผู้ใช้อำนาจรัฐ หากต่างคน ต่างฝ่าย ต่างใช้อำนาจเถื่อนบ้านเมืองจะเดินหน้าได้อย่างไร"
กรกช ยังได้โพสต์ภาพข้อมูลผู้ที่ถูกทหารนอกเรื่องแบบควบคุมตัว 3 คน ประกอบด้วย รุจิยา เสาสมภา ร.ต.ต.หญิง วิไลวรรณ คูณสวัสดิ์ และ ร.ต.ท.สมัย คูณสวัสดิ์ โดยระบุว่าได้เข้าควบคุมไปจากบ้านพัก ต.ค่ายบกหวาน อ.เมือง จ.หนองคาย ขณะกำลังออกจากบ้านเตรียมของท่จะไปทำบุญต่างอำเภอ เมื่อเช้ามืดขอวันที่ 13 ส.ค.59 และไม่สามารติดต่อได้ 
ล่าสุดวันนี้ (16 ส.ค. 59) ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม กรกช เพิ่มเติมถึงควมคืบหน้ากรณีนี้ กรกช กล่าวว่า วันนี้ตนและบิดาของ ร.ต.ต.หญิง วิไลวรรณ ได้เดินทางมาเยี่ยมทั้ง 3 คน ที่ มทบ.11 แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม โดยเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ได้รับการปลอยตัวแล้ว 2 คน ที่เป็นนายตำรวจ คือ ร.ต.ต.หญิง วิไลวรรณและ ร.ต.ท.สมัย ที่ มทบ.11 ซึ่งไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา
กรกช ระบุว่า ขณะนี้เหลือเพียง รุจิยา ภรรยาของผู้ต้องหาในคดีขอนแก่นโมเดล ที่ลี้ภัยทางการเมืองไปต่างประเทศ ส่วน 2 คนที่ได้รับการปล่อยตัวนั้นเป็นพี่สาวและพี่เขยของผู้ต้องหาในคดีขอนแก่นโมเดลคนดังกล่าว โดย รุจิยา ยังไม่มีการตั้งข้อหาเช่นกัน
สำหรับสาเหตุที่ไม่ได้เข้าเยี่ยมนั้น กรกช กล่าวว่าเนื่องจากเจ้าหน้าที่อ้างว่าต้องคุมตัวครบ 7 วันก่อน หากไม่มีอะไรก็จะปล่อยตัวทีเดียวเลย ส่วนกรณีการร้องเรียนองค์การสหประชาชาตินั้น กรกช กล่าวว่าต้องประเมินก่อนว่าหลังครบ 7 วัน แล้วเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ จึงพิจารณาร้องต่อองค์การสหประชาชาติอีกที 

ผบ.ทบ.ปลุกคนไทยใช้ชีวิตปกติ ชี้สะพายเป้ใส่หมวกสวมแว่น ผิดปกติต้องสอดส่อง


เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์ในภาพรวมในขณะนี้ว่า ทางกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในทุกกรณี เพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของประเทศให้มีความเรียบร้อยและเอื้ออำนวยต่อการบริหารงานของรัฐบาล หากมีสิ่งใดที่เกิดขึ้นหรือขัดขวางไม่ให้ประเทศเกิดความสงบหรือแม้แต่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน กกล.รส.ก็จะเข้าดำเนินการทันที เพราะเรามีการวางกำลังและปรับโครงสร้างใหม่อยู่แล้ว ส่วนความคืบหน้าคดีลอบวางระเบิดและเผาในหลายพื้นที่จังหวัดภาคใต้นั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้ ยืนยันว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งประชาชนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และขอให้ช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาและเฝ้าระวังสิ่งของที่ผิดปกติและบุคคลที่แปลกหน้าในชุมชนของตนเอง ขอให้ช่วยกันร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อทำให้ประเทศชาติร่มเย็นและให้ลูกหลานใช้ชีวิตอย่างสงบสุข อย่างไรก็ตาม ขอให้เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้
"ประชาชนต้องออกมาใช้ชีวิตปกติ แล้วก็สอดส่อง ดูแลสิ่งผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่เรา ในที่อยู่ของเราในชุมชนของเราว่าอะไรผิดปกติบ้าง ทางการก็ได้ชี้แจงแล้วว่า อะไร ของที่ไม่ควรอยู่คนที่ไม่เคยมา คนไทยไม่ใส่หมวก ไม่ใส่แว่น เข้าห้างใส่หมวกไม่ใช่ มันก็ผิดปกติ สะพายเป้มันผิดปกติหมด ฉะนั้นต้องช่วยกันสอดส่องนะครับ" พล.อ.ธีรชัย กล่าว

หมายเรียกอีกคดี ‘ไผ่ จตุภัทร์’ รวมแล้ว 3 คดี

ภาพจาก วิบูลย์ บุญภัทรรักษา

หมายเรียกผู้ต้องหาคดีจัดเวทีเสวนาร่างรัฐธรรมนูญที่มข.มาอีก 1 คดี ทนายเตรียมเลื่อนรายงานตัว ขณะที่ 19 ส.ค.นี้ลุ้นฝากขังผัดสองคดีแจกเอกสารประชามติหรือไม่ ขณะที่ทนายแจงอีกคดีหนึ่งต้านรัฐประหารตั้งแต่ปี 2558 มีหมายจับของศาลทหารขอนแก่นแล้ว

17 ส.ค.2559  ภาวิณี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้ข้อมูลว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมามีหมายเรียกผู้ต้องหามายัง ไผ่ จตุภัทร บุญภัทรรักษา นักกิจกรรมที่ถูกคุมขังและอดอาหารประท้วงอยู่ในเรือนจำภูเขียวต่อเนื่องจนถึงขณะนี้จากกรณีแจกเอกสารวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ โดยคดีใหม่นี้เป็นหมายเรียกจากกรณีจัดเวทีเสวนาเกี่ยวกับประชามติเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมาที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) ซึ่งเวทีดังกล่าวนับเป็นเวทีสาธารณะเวทีแรกในภาคอีสานที่พูดถึงร่างรัฐธรรมนูญก่อนจะมีการลงประชามติ หมายดังกล่าวระบุข้อหา “ร่วมกันขัดคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ” และให้นายจตุภัทร์ ผู้ต้องหาที่ 1 ไปรับทราบข้อกล่าวที่ สภ.เมืองขอนแก่น ในวันที่ 18 ส.ค.เวลา 10.00 น. อย่างไรก็ตาม ทนายความได้ติดต่อไปยังพนักงานสอบสวนเพื่อขอเลื่อนนัดการรายงานตัวแล้ว เนื่องจากจตุภัทร์ยังอยู่ในเรือนจำภูเขียว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนรับทราบและขอให้ทนายเข้าดำเนินการยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ โดยจะกำหนดวันนัดหมายกันอีกครั้ง
ภาวิณี กล่าวด้วยว่า จากการสอบถามพนักงานสอบสวนทราบว่าในคดีจัดเวทีเสวนาที่มข.นี้ตำรวจมีการออกหมายเรียกผู้ต้องหาอีก 6 คนที่ร่วมกันจัดหรืออยู่ร่วมในงานเสวนาดังกล่าว โดยพนักงานสอบสวนยังไม่เปิดเผยชื่อ คาดว่าทั้งหมดจะเลื่อนการเข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาด้วยเช่นเดียวกัน
ทนายความให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับคดีแจกเอกสารรณรงค์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญที่จตุภัทร์ถูกจับกุมคุมขังอยู่ในเรือนจำขณะนี้นั้นจะครบกำหนดฝากขังในวันที่ 19 ส.ค.นี้ เบื้องต้นทนายความได้ทำเรื่องขอให้ศาลเบิกตัวในจตุภัทร์ไปยังศาลแทนการใช้ระบบเทเลคอนเฟอร์เรนซ์เนื่องจากทนายความต้องการยื่นคัดค้านการฝากขัง อย่างไรก็ตาม ทราบมาว่าตำรวจได้ส่งสำนวนคดีนี้ให้อัยการเป็นที่เรียกร้อยแล้ว ในวันที่ 19 ส.ค.นี้จึงขึ้นอยู่กับอัยการว่าจะสามารถสรุปสำนวนเพื่อสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องได้เลยหรือไม่ หรือยังจะขอฝากขังในผัดสองต่อไป สำหรับเรื่องการยื่นประกันตัวนั้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าตัวในวันที่ 19 ส.ค.ว่าจะยินยอมให้ดำเนินการหรือไม่
ภาวิณีกล่าวว่า คดีจัดเสวนาที่มข.นี้นับเป็นคดีที่สามของจตุภัทร์ เพราะนอกเหนือจากการแจกเอกสารวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญอันเป็นเหตุให้ถูกคุมขังแล้ว จตุภัทรยังมีหมายจับอีกคดีหนึ่งคือ คดีฝ่าฝืนคำสั่งคสช.กรณีร่วมกับพวกทำกิจกรรมต้านรัฐประหารที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่นเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2558 ซึ่งตำรวจขอนแก่นได้ขออนุมัติหมายจับจากศาลทหารขอนแก่นไว้แล้ว และขณะนี้ตำรวจภูเขียวได้ขออายัดตัวจตุภัทร์ไว้หากได้รับการปล่อยตัวในคดีนี้ จากนี้ต้องรอดูว่าตำรวจขอนแก่นจะมารับตัวเพื่อนำตัวไปแจ้งข้อกล่าวหาที่ขอนแก่นหรือไม่ และจะปล่อยตัวเลยหรือต้องประกันตัวหรือจะนำตัวไปฝากขังยังศาลทหารต่อไป