วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

โฆษก คสช. อนุญาต 'ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร' เดินทางต่างประเทศ


พ.อ.วินธัย สุวารี แถลงว่าอดีตนายกรัฐมนตรี "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ขออนุญาตหัวหน้า คสช. เดินทางยุโรป 20 วันพร้อมบุตรชาย โดยเป็นตามขั้นตอนที่ คสช. ขอความร่วมมือไว้ และ คสช. จะไม่ห้ามหรือจำกัดเสรีภาพเกินจำเป็น
17 ก.ค. 2557 - สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้า คสช. เพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ โดยให้เหตุผลว่าจะเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศแถบยุโรปในช่วงวันที่ 20 ก.ค. ถึง 10 ส.ค. โดยจะเดินทางไปพร้อมกับ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย
ล่าสุดเช้าวันนี้พันเอก วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบกในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะขอเดินทางไปต่างประเทศจึงได้มีการแจ้งมาทาง คสช. นั้น เป็นไปตามขั้นตอนที่ทาง คสช. เคยได้ขอความร่วมมือไว้ และที่ผ่านมาในเงื่อนไขที่ทำความเข้าใจกันไม่ได้ถึงกับห้าม หรือพยายามจะไปจำกัดเสรีภาพใดๆ ให้เกินความจำเป็น ส่วนใหญ่เป็นการขอความร่วมมือกันและกัน สำหรับกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ผ่านมา ก็ไม่ได้มีการปฏิบัติที่ผิดเงื่อนไข หรือแสดงออกใดๆ ที่เป็นการขัดต่อแนวทางการรักษาความสงบเรียบร้อย คณะทำงานที่รับผิดชอบ จึงไม่ขัดข้อง ส่วนคำขอของบุคคลอื่นนั้น ยังไม่เห็นว่ามียื่นเข้ามาอีกหรือไม่ ซึ่งหากมีเข้ามาก็ต้องพิจารณาจากหลายๆ องค์ประกอบ

‘อารีย์’ หัวหน้าการ์ด นปช.แจ้งความกองปราบฯ ยันไม่เกี่ยวคดีบึ้ม กปปส.-บิ๊กซีฯ


‘อารี ไกรนรา’ หัวหน้าการ์ด นปช. เข้าแจ้งความกองปราบเอาผิดผู้ที่กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ ทั้งสำนักข่าวที่เผยแพร่ ยืนยันไม่รู้จักผู้ต้องหา 
 
17 ก.ค. 2557 ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เวลา 10.00 น. วันนี้ (17 ก.ค.) ที่กองบังคับการปราบปราม นายอารีย์ ไกรนรา อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าการ์ดแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมทีมทนาย เดินทางมาแจ้งความต่อ พ.ต.ท.วรพงษ์ ภวเวส พนักงานสอบสวน กก. 1 บก.ป. ภายหลังถูกพาดพิงและกล่าวหาว่ามีส่วนในการยิงอาวุธ เอ็ม 79 ใส่ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ราชดำริ โดยมี พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ควบคุมดูแล
 
นายอารีย์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่รู้จัก และไม่เคยเห็นหน้าตาผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ในคดีร่วมกันใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ใส่พื้นที่ชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) หน้าห้างบิ๊กซี ราชดำริ เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2557 ที่ผ่านมา มาก่อน และการที่นายชัชวาล หรือ ชัช ปราบบำรุง หนึ่งในผู้ต้องหา ได้กล่าวอ้างว่า มีคนชื่อ นายต้อม ไม่ทราบชื่อและนามสกุล เป็นลูกน้องของตน มาจ้างวานด้วยปืน 2 กระบอก ให้ก่อเหตุ ก็ไม่เป็นความจริง ขณะนี้ได้ตรวจสอบไปที่ลูกน้องคนสนิททุกคนแล้ว ไม่พบว่าใครชื่อ ต้อม
 
นายอารีย์ กล่าวอีกว่า ได้ปรึกษาทีมทนายความทีมกฎหมาย นปช.แล้ว และมีมติให้แจ้งความดำเนินคดีกลับ กับคนที่กล่าวหาใส่ร้าย และสำนักข่าวที่ทำการเผยแพร่ข่าว เพราะข่าวนี้ทำให้เราเสียหาย จำเป็นต้องปกป้องสิทธิของ เราต้องขอความเป็นธรรม และเชื่อว่าตำรวจจะมีเหตุผลเพียงพอ ว่าอะไรคืออะไร ต้องว่ากันตรงไปตรงมาด้วยพยานหลักฐาน

คืนความจริง : เปิดประสบการณ์ สุกัญญา พฤกษาเกษมสุข หลังถูก คสช.คุมตัว



หลังจากเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. เฟซบุ๊คแฟนเพจ "คืนความจริง" ได้เผยแพร่สารคดีตอนแรก ใช่ชื่อว่า "คืนความจริง #1 (Resurgent Truth #1)" ความยาว 20.34 นาที ไปแล้ว โดยใช้เพลง "คืนความสุขให้ประเทศไทย" แต่งโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเพลงประกอบสารคดี และใช้บทกวีของกฤช เหลือลมัย เป็นบทเริ่มต้นสารคดี ทิ้งท้ายของสารคดีมีการสัมภาษณ์ชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งกำลังอ่านหนังสือเรื่อง "1984" และรับประทานแซนวิซ เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมาที่สยามพารากอน ก่อนถูกควบคุมตัว
วันนี้(17 ก.ค.) เฟซบุ๊คแฟนเพจดังกล่าวได้เผยแพร่ตอน 2 ชื่อ “คืนความจริง ตอนที่ 2 Resurgent Truth #2”  ซึ่งเป็นวิดีโอสัมภาษณ์ สุกัญญา พฤกษาเกษมสุข ภรรยาของสมยศ พฤกษาเกษมสุข ผู้ต้องขังคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ ม. 112 โดยเป็นการเล่าประสบการณ์การถูกทหารและตำรวจจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) การค้นบ้าน การถูกควบคุมตัว ทั้งตนเอง พร้อมบุตรชายและบุตรสาว รวมถึงการสอบสวนที่สโมสรกองทัพบก เทเวศร์ หลังรัฐประหาร เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยไม่มีหมายเรียกก่อนหน้า
ทั้งนี้ เฟซบุ๊คแฟนเพจ คืนความจริงได้บรรยายประกอบวิดีโอคลิปนี้ด้วยว่า “หลังฝุ่นควันจาง ความจริงอีกด้านก็เริ่มเผยออกมา ว่าภายใต้คำสวยหรูว่า "คืนความสุข" ของคณะรัฐประหาร มีอะไรซ่อนอยู่”