วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2559

เผยผลสำรวจประชาชนพึงพอใจ 'บัตรทอง' ปี 59 อยู่ระดับสูง ได้ 8.73 คะแนน


5 ก.ย. 2559 รายงานข่าวจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แจ้งว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ณ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฯ ที่ประชุมได้รับทราบผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน บุคลากรสาธารณสุข และองค์กรภาคีที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าปี 2559 ซึ่งมีการสำรวจเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี 2546
ปิยะสกล กล่าวว่า ผลสำรวจปีนี้พบว่าประชาชนมีความพึงพอใจต่อการได้รับสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในระดับสูงคือ 8.73 คะแนนจากเต็มสิบ ขณะที่ความพึงพอใจของบุคลากรสาธารณสุขทีมีต่อการดำเนินงานในระบบหลักประกันสุขภาพได้ 7 คะแนน ในส่วนของความพึงพอใจขององค์กรภาคี คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรภาคประชาสังคมนั้น พบว่ามีคะแนนความพึงพอใจ 7.96 คะแนน ผลสำรวจด้านอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ประชาชนร้อยละ 91.4 รับทราบว่าคนไทยทุกคนได้รับสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้าไม่มีสิทธิอื่นๆ ประชาชนร้อยละ 78.26 รับทราบว่าสิทธิหลักประกันสุขภาพเป็นสิทธิที่ได้รับตามกฎหมาย ซึ่งสะท้อนถึงความเข้าใจเรื่องสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน จากเดิมที่ยังมีการรับรู้ว่าเป็นการสงเคราะห์จากรัฐ
ข้อเสนอแนะที่น่าสนใจแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ด้านการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีข้อเสนอให้มีบริการที่เท่าเทียม การมีอยู่ของระบบหลักประกันสุขภาพที่ดี การทำให้ประชาชนรู้สิทธิมากขึ้น การพัฒนาคุณภาพการรักษาพยาบาล ส่วนด้านการพัฒนาระบบบริการสุขภาพนั้น มีข้อเสนอแนะให้บริการที่ รวดเร็ว จัดบุคลากรและอุปกรณ์ให้เพียงพอ
“จากผลสำรวจปีนี้ พบว่าประชาชนพึงพอใจต่อสิทธิหลักประกันสุขภาพในระดับสูง สะท้อนว่าประชาชนเชื่อมั่นประสิทธิภาพและคุณภาพรักษาพยาบาลในระบบ นับเป็นขวัญกำลังใจการทำงาน ของบุคลากรในระบบสาธารณสุข เนื่องจากได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน นโยบายรัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาสิทธิหลักประกันสุขภาพของประชาชนให้ดีขึ้นกว่าเดิม ผลจากการพัฒนาที่พวกเราร่วมมือร่วมใจกันทำมาโดยตลอด ก็ได้ผลเป็นที่น่ายินดี ประชาชนให้การยอมรับและพึงพอใจ ส่วนความพึงพอใจของบุคลากรสาธารณสุขนั้น แม้จะไม่เท่าประชาชน แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งได้มอบให้ สปสช.นำข้อคิดเห็นและผลสำรวจที่ได้ไปปรับปรุงให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพึงพอใจให้มากที่สุด” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ด้าน ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา รักษาการเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า การสำรวจปี 2559 นี้ดำเนินการโดยสถาบันวิจัยสังคมและเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 21,912 คนทั่วประเทศ แบ่งเป็น 4 กลุ่มเป้าหมายคือ ประชาชน 9,429 คน อปท. 4,725 คน บุคลากรสาธารณสุข 7,251 คน และองค์กรภาคประชาสังคม 507 คน มีเป้าหมายเพื่อประเมินความพึงพอใจที่มีต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และรับทราบประเด็นที่ประชาชน บุคลากรสาธารณสุข อปท. และภาคประชาสังคมต้องการให้มีการสนับสนุน รวมทั้งการเสนอปัญหาอุปสรรคที่มีความสำคัญและต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หารือ แจ็ค หม่า หลังประชุม G20 ที่เมืองจีน


เว็บไซต์รัฐบาลไทยเผยภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขอหารือประธานอาลีบาบากรุ๊ป "แจ๊ค หม่า" หลังประชุมกลุ่มประเทศ G20 ที่เมืองจีน
5 ก.ย. 2559 วันนี้ เว็บไซต์รัฐบาลไทย เปิดเผยภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หารือกับ แจ๊ค หม่า ประธานบริหารบริษัท อาลีบาบากรุ๊ป ที่นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน หลังจากสิ้นสุดการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศ G20
อนึ่งเมื่อเวลา 13.55 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ (5 ก.ย.) ในการประชุมกลุ่มประเทศ G20 ที่นครหางโจว พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในการประชุมผู้นำกลุ่ม 20 เรื่อง การพัฒนาที่มีความเชื่อมโยงและครอบคลุม (Inclusive and interconnected Development)
ในเว็บไซต์รัฐบาลไทย พล.ต. วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาที่มีความเชื่อมโยงและครอบคลุมมี 3 ส่วน ได้แก่ การเป็นหุ้นส่วนระดับโลก การสร้างความเชื่อมโยง และการให้ความสำคัญกับแนวทางการพัฒนาที่เหมาะกับบริบทของแต่ละประเทศ
การเป็นหุ้นส่วนระดับโลกจะเป็นประตูสู่โอกาสให้ G20 ช่วย G77 ในลักษณะเครื่องนำทางทำให้การพัฒนา G77 และ การบรรลุวาระ 2030 ของโลกเป็นไปได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมจีนและกลุ่ม 20 ที่ให้ความสำคัญกับวาระการพัฒนา และการร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนาโดยเชิญไทยในฐานะประธาน G77 เข้าร่วมการหารือ รวมถึงจัดทำแผนปฏิบัติการกลุ่ม 20 ว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมภาคการเกษตร ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศกำลังพัฒนา และเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการของโลก โดยกลุ่ม 77 สนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรม และสนับสนุนให้ G20 ส่งเสริมการใช้หลักการธุรกิจที่ครอบคลุมในภาคการเกษตร เพื่อช่วยเกษตรกรรายย่อยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่าโลก และได้ประโยชน์ในฐานะผู้บริโภคไปพร้อมกัน
ด้านการสร้างความเชื่อมโยง นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมความพยายามของ G20 ในการลดช่องว่างของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ผ่านการรับรองข้อริเริ่ม “พันธมิตรว่าด้วยความเชื่อมโยงทางโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก” ในปีนี้ และการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย (AIIB) และข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ของจีน พร้อมย้ำความสำคัญของการเชื่อมโยงระหว่างประชาชนโดยการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์การไปมาหาสู่และการท่องเที่ยว เชื่อมโยงเครือข่ายถนน ทางรถไฟ ท่าเรือ และเที่ยวบินให้มากขึ้น
ท้ายที่สุด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าต้องให้ความสำคัญกับแนวทางการพัฒนาที่เหมาะกับบริบทของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นการสร้างเอกภาพบนความแตกต่าง ด้วยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างกัน สำหรับไทย ได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) ที่เน้นการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และตั้งแต่ไทยรับตำแหน่งประธาน G77 เมื่อต้นปี ได้ดำเนินอย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านความร่วมมือ ทวิภาคี ไตรภาคีกับ G20  อาทิ เยอรมัน และร่วมเป็นหุ้นส่วนการพัฒนากับสมาชิก G20 ในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต่าง ๆ อาทิ จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ไทยพร้อมร่วมมือกับสมาชิก G20 ที่สนใจเพื่อขยายความร่วมมือสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ต่อไป

ศาลรับฟ้อง NDM เรียกค่าเสียหาย 16 ล้านจาก จนท.รัฐ เหตุละเมิดสิทธิฯหน้าหอศิลป์


5 ก.ย. 2559 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า วันนี้ (5 ก.ย. 59 ) เวลาประมาณ 13.30 น. ศาลแพ่งกรุงเทพใต้นัดไต่สวนขอยกเว้นค่าธรรมเนียม จากกรณีที่กลุ่มนักกิจกรรมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ หรือ NDM 13 คน ได้ร่วมกันเป็นโจทก์ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก และสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1-3 ในคดีละเมิด เพื่อเรียกค่าเสียหาย และค่าสินไหมทดแทนเรียก 16,468,583 บาท ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดชอบทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 และขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ในการฟ้องคดีร้อยละ 2 ของค่าสินไหมทดแทน เป็นจำนวนเงิน 320,000 บาท จากเหตุเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2558 ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังควบคุมตัวโจทก์ด้วยความรุนแรง ในระหว่างขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ทำกิจกรรมรำลึกครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร ที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพมหานคร โดยเห็นว่าจำเลยจงใจกระทำการละเมิด จนทำให้ฝ่ายโจทก์ได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้เสรีภาพในการชุมนุมได้ และเข้าข่ายเป็นการละเมิดต่อร่างกายและเสรีภาพ
ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายจำเลยได้ขอคัดค้านการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลของโจทก์ทั้ง 13 คน  โดยให้เหตุผลประกอบว่าโจทก์ที่ 9, 12 และ 13 นั้น มีอาชีพ และมีรายได้ที่จะสามารถชำระค่าธรรมเนียมศาลได้ โดยไม่เดือดร้อนเกินสมควร อีกทั้งโจทก์ที่เหลือแม้จะเป็นนักศึกษา แต่จำเลยเห็นว่าโจทก์สามารถที่จะขวนขวายหาค่าธรรมเนียมได้จากบิดามารดาหรือญาติของตนเองได้ โดยไม่เดือดร้อนเกินสมควร  ดังนั้นจำเลยจึงขอให้ศาลยกคำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมของโจทก์ และให้โจทก์เสียค่าธรรมเนียม หากไม่ชำระก็ขอให้ศาลไม่รับฟ้องของโจทก์
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิฯ รายงานด้วยว่า ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้พิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์ได้ยื่นแล้วเห็นว่า คดีของโจทก์ทั้งสิบสามมีเหตุผลอันสมควรที่จะฟ้อง และโจทก์บางส่วนสถานะเป็นนักศึกษา บางส่วนไม่ได้ประกอบอาชีพ และไม่มีรายได้มั่นคงแน่นอน เชื่อว่าไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะเสียค่าฤชาธรรมเนียมศาลหรือ จะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร จึงอนุญาตให้โจทก์ทั้งสิบสามดำเนินคดีโดยได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมในสาชั้นต้น
ทั้งนี้ศาลได้นัดชี้สองสถาน ในครั้งต่อไปวันที่ 21พฤศจิกายน 2559 เวลา 09.00 น.