พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีถึงแก่อสัญกรรม
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.09น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 ทางโรงพยาบาลศิริราชแจ้งว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เสียชีวิตแล้วด้วยอาการติดเชื้อในกระแสโลหิตอย่างรุนแรงทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตและระบบหายใจล้มเหลว
ทั้งนี้พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา เกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 2478 โดยการศึกษาจบจาก นักเรียนนายร้อยทหารบกอบรม (หากเทียบรุ่นเเล้วจะอยู่ในจปร.7 )หรือกลุ่มยังเติร์ก จบปริญญาตรี ศิลปศาสตร์บัณฑิต (รัฐศาสตร์การปกครอง) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท ศิลปศาสตร์มหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์ สาขาบริหาร) มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาเอก ศิลปศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันราชภัฎจันทรเกษม
สำหรับประวัติการทำงาน พล.ต.สนั่น เคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย นายสมัคร สุนทรเวช นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และนายอภิสิทธ์ เวชชาชีวะ , เคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ,ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยเเละประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ,หัวหน้าพรรคมหาชน ,เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์,รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์,กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์,สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดพิจิตร เเละบัญชีรายชื่อ
พล.ต.สนั่น เป็นชาวจังหวัดพิจิตรเคยรับราชการเป็นทหารบก เหล่าทหารม้า มียศทางทหารสุดท้ายคือพ.ท. ก่อนจะถูกให้ออกจากราชการ เมื่อพ.ศ. 2520 เมื่อร่วมก่อการกบฏ 26 มี.ค.2520 ซึ่งมีพล.อ.ฉลาด หิรัญศิริเป็นหัวหน้า จากนั้นได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นพล.ต. พล.ต.สนั่นสมรสกับนางฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ มีบุตร-ธิดารวม 4 คน คือนางสาวบงกชรัตน์ ขจรประศาสน์, นางสาวปัทมารัตน์ ขจรประศาสน์,นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.เกษตรเเละสหกรณ์ในปัจจุบัน และนางสาววัฒนีพร ขจรประศาสน์ ธุรกิจส่วนตัวคือฟาร์มนกกระจอกเทศชื่อ "ขจรฟาร์ม" นอกจากนี้ยังทำไร่องุ่นดงเจริญ และผลิตไวน์ชื่อ "ชาโต เดอ ชาละวัน" ซึ่งสอดคล้องกับรสนิยมส่วนตัวที่ทราบกันทั่วไปคือชอบดื่มไวน์
ปลายปี2540 พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ถูกแรงกดดันให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากการลดค่าเงินบาทในวันที่ 2 ก.ค.2540 และตัดสินใจลาออกเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2540 ต่อมาวันที่ 9 พ.ย. 2540 นายเสนาะ เทียนทอง เลขาธิการพรรคความหวังใหม่ ได้จัดแถลงข่าวยืนยันการจัดตั้งรัฐบาลโดยมี พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในเวลาเดียวกัน พล.ต.สนั่นก็เปิดแถลงข่าวเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลด้วย โดยมีเสียงสนับสนุนจากพรรคกิจสังคมของ นายมนตรี พงษ์พานิช ที่ย้ายฟากมาจากพรรคร่วมรัฐบาลเดิมอย่างกะทันหัน และมีตัวแปรสำคัญคือส.ส. พรรคประชากรไทย จำนวน 12 คน นำโดยนายวัฒนา อัศวเหม และนายฉลอง เรี่ยวแรง ที่เข้าร่วมสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่หัวหน้าพรรคประชากรไทย คือนายสมัคร สุนทรเวช ไม่ทราบมาก่อนและยังสนับสนุนฝ่ายพล.อ.ชาติชาย ทำให้สถานการณ์พลิกกลับอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเสียงฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์มีมากกว่า และทำให้นายชวน หลีกภัย ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 2 ในที่สุด หลังเหตุการณ์ครั้งนี้ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคประชากรไทย ได้กล่าวเปรียบเทียบว่า ตนเป็นเหมือนชาวนาในนิทานอีสป เรื่อง "ชาวนากับงูเห่า"
ต่อมานายอดิศร เพียงเกษ ส.ส.จังหวัดขอนแก่น พรรคความหวังใหม่ ได้เปิดเผยข้อมูลระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจพลตรีสนั่นว่า พล.ต.สนั่น แสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยระบุว่ามีการกู้ยืมเงินจำนวน 45 ล้านบาท จากบริษัท เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส จำกัด ทั้งๆที่ไม่มีการกู้ยืมจริง ต่อมานายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพประชาชน ได้ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง จนคดีเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย และต่อมาศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2543 ว่าพล.ต.สนั่น มีความผิด ฐานจงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540 มาตรา 295 ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปีเป็นคนเเรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยเเละได้เปิดโรงเรียนการเมืองขึ้นในช่วงเวลานั้น
หลังพ้นโทษพล.ต.สนั่นกลับมาทำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ระยะหนึ่งเเละได้ลาออกไปก่อตั้งพรรคมหาชนขึ้นโดยมีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นหัวหน้าพรรคคนแรก ส่งผู้สมัครส.ส.รับเลือกตั้งในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2548 และต่อมา พล.ต.สนั่น ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อมา
ในช่วงปี2550-2551 พล.ต.สนั่นมาทำงานกับพรรคชาติไทยเเละร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนในตำเเหน่งรองนายกรัฐมนตรี ช่วงนั้นเกิดการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปำตยรอบที่สอง โดยมีการยึดทำเนียบรัฐบาลเเละสนามบินสุวรรณภูมิ ต่อมาปลายปี2551เมื่อมีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลหลังจากพรรคชาติไทย,พรรคมัชฌิมาธิปไตยเเละพรรคพลังประชาชนโดนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค พล.ต.สนั่นเป็นเเกนนำตั้งพรรคชาติไทยพัฒนาขึ้นร่วมกับนายชุมพล ศิลปอาชา เเละย้ายขั้วมาร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี จากนั้นเกิดวิกฤตการเมืองในปี2552-2553จากการต่อต้านรัฐบาลชุดนี้จากนปช. สุดท้ายพล.ต.สนั่นเสนอเเนวทางการปรองดองเเห่งชาติเพื่อเเก้ปัญหาการเมือง เเละเป็นนายประกันให้กับเเกนนำนปช.ให้ออกมาต่อสู้คดีก่อการร้าย
ในวันที่12 มี.ค.พ.ศ. 2555 พล.ต.สนั่น ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ประกาศยุติบทบาททางการเมือง โดยขอยุติการทำหน้าที่ในฐานะ ส.ส. แต่ยังคงพร้อมที่จะช่วยงานในส่วนของพรรค และงานการเมืองของประเทศต่อไป |