ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
เปิดใจ จาตุรนต์ ฉายแสง 111 | ||
| ||
http://redusala.blogspot.com |
จตุพร พรหมพันธุ์ ก่อนวันพิพากษา 18 พ.ค. | |
"จตุพร พรหมพันธุ์" ก่อนวันพิพากษา 18 พ.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง เปิดใจถึงคดีที่ยังค้างอยู่ รวมถึงคดีการสิ้นสถานภาพส.ส. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำพิพากษาในวันที่ 18 พ.ค.นี้ ตลอดจนเสียงวิจารณ์ว่าคนเสื้อแดงเลิกให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยโดยสะท้อนผ่านการเลือกตั้งซ่อมส.ส.และนายกอบจ.ปทุมธานี มีเยอะมาก ทั้งหมดเป็นผลพวงการต่อสู้จากการรัฐ ประหารปี 2549 เป็นต้นมา รวมกว่า 40 คดี อยู่ในชั้นกระบวนการยุติธรรมเป็นส่วนใหญ่ ก็ต่อสู้ตามกระบวน การทุกอย่าง ไม่มีคดีที่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่มาจากการต่อสู้ทางการเมืองทั้งสิ้น รวมถึงคดีที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยวันที่ 18 พ.ค.นี้ ซึ่งเป็นคดีเกี่ยวกับสถานภาพส.ส. เป็นผลพวงจากการถูกจับกุมคุมขังในคดีที่ถูกถอนประกันคือคดีก่อการร้าย แต่เวลาอธิบายความเข้าใจว่าเป็นคดีความในอีกคดีหนึ่ง เราตั้งใจว่าจะขอแถลงเปิดคดีในศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลไม่อนุญาตแล้ว แต่เหตุผลที่คิดในเวลานั้น ตั้งใจจะลำดับความตั้งแต่ต้นว่าในแต่ละกระบวนการนั้นไม่มีความยุติธรรมอย่างไรบ้าง ตั้งแต่การถอนประกันเป็นคนละเรื่องกับเงื่อนไขประกันรวมถึงการทำหน้าที่ของกกต.จนมาสู่ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งประธานศาลรัฐธรรมนูญเองก็ยอมรับว่ากรณีของผมเป็นรายแรกของประเทศ ฉะนั้น ถ้าถูกถอนประกันแล้วจะต้องทำให้สิ้นสถาน ภาพ ก่อนหน้านี้ทำไมไม่ปฏิบัติอย่างเดียวกัน ตอนนาย ก่อแก้ว พิกุลทองก็ไม่ดำเนินการอะไร คดีอยู่ในศาลรธน.เพราะจำเลยชื่อจตุพร ถูกล็อกเป้ามาตั้งแต่ว่าถูกขังแล้วจะทำให้เป็นส.ส.ไม่ได้ จะเห็นว่ารับรองผมคนที่ 500 ดังนั้น เมื่อไม่สะเด็ดน้ำก็ต้องมาแขวนเป็นรายแรก ส่วนคดีหมิ่นฯ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ครบรอบปี ซึ่งคดีนี้ในเวลานั้นดูเหมือนจะเป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว แต่เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการไปแจ้งความของผู้ไปแจ้งความนั้นมีการตัดต่อเทป ถอดเทปแล้วทำเครื่องหมายคำพูดแล้วไปตัดต่อเพราะถ้าถอดฉบับเต็ม จะพบเลยว่าไม่มีข้อความใดหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ถ้อยคำที่เป็นปัญหา ก็พูดในลักษณะปกป้องสถาบันว่าอีกฝ่ายหนึ่งจงใจเจตนาให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิดต่อสถาบัน ซึ่งผมได้ถอดเทปส่งดีเอสไอ และเคยส่งให้ศาลในช่วงไม่ให้การประกันตัวในขณะนั้นว่าบริบทฉบับเต็มเป็นอย่างนี้ เมื่อดีเอสไอเห็นว่าคดีนี้เป็นการแจ้งความเพื่อประสงค์ร้าย มีการตัดต่อ เขาก็มีคำสั่งไม่ฟ้องแล้วส่งให้อัยการ ตอนนี้รออัยการพิจารณาว่าจะเห็นพ้องหรือไม่ ซึ่งมีกระบวน การอยู่ ผมเชื่อว่าถ้าอัยการดูฉบับเต็มจะรู้ว่าไม่มีถ้อยคำตามที่อธิบายกัน ในยูทูบก็ไปตัดต่อ กลายเป็นการกล่าวหาให้ร้าย คดีก็มีอยู่ตามปกติแต่จะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครองเพราะไม่ได้เป็นส.ส. คดีก็จะไปเร็ว ส่วนเรื่องการถอนประกันนั้น อยู่ที่ว่าเราทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวอีกหรือไม่ ในระหว่างคนเสื้อแดงด้วยกันคือนปช.กับคนเสื้อแดงทั้งประเทศเราบริหารด้วยความรู้สึกอย่างเดียวไม่มีเรื่องตำแหน่ง ไม่มีเรื่องผลประโยชน์ เป็นการบริหารแบบจิตอาสาเพื่อให้คนมีอารมณ์ความรู้สึกร่วม ประชาชนที่มาสู้เขาออกเงินเอง ออกชีวิตเอง ออกอิสรภาพเอง สิ่งที่จะรักษากระบวนการนี้เดินไปได้คือการรักษาความรู้สึก บริหารความรู้สึก นี่คือระหว่างเสื้อแดงกันเอง ระหว่างเสื้อแดงกับพรรคเพื่อไทยก็เช่นเดียวกันต้องบริหารความรู้สึก ผมเคยพูดในพรรคว่าเสื้อแดงไม่ใช่ของตายของพรรคเพื่อไทยที่จะทำอะไรก็ได้ เพราะเสื้อแดงสู้ด้วยความรู้สึก เขาเป็นนักประชาธิป ไตย ถ้านักการเมืองคนใดปรับตัวให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ นักการเมืองคนนั้นจะตกขบวน จงคิดว่าเขาเป็นผู้ร่วมต่อสู้ ตรงข้ามกับคำว่าผู้เลือกตั้งกับนักเลือกตั้ง เขาไม่ใช่หัวคะแนน ถ้าคนเสื้อแดงเสียความรู้สึก จะนำมาซึ่งความล่มสลาย เพราะเราไม่มีผลประโยชน์อื่นใดที่เป็นเครื่องรักษาความกลมเกลียวความเหนียวแน่น มีแต่จุดยืน อุดมการณ์อย่างเดียว ผมเคยบอกแกนนำนปช.ว่าแกนนำคือเรื่องสมมติ ถ้าวันหนึ่งแกนนำทรยศต่ออุดมการณ์ ประชาชนเขาก็ไม่ตามไป ที่เขาเดินตามเพราะเชื่อว่าแกนนำไม่ทรยศ ผมเห็นใจผู้สมัครทั้งสองคน แต่พรรคต้องยอมรับความจริงว่าคนเสื้อแดงส่วนใหญ่เขาไม่ออกมาเลือกตั้งหนนี้ จะด้วยเรื่องอะไรก็ตาม ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพง ต้องมองเรื่องนี้เป็นคุณค่า อย่ามองเป็นความเสียหาย เพราะบทเรียนที่เขาให้ในปีแรกนี้ เป็นบทเรียนที่มีเวลาแก้ไข เพราะยังมีเวลาบริหารประเทศอีก 3 ปี บทเรียนราคาแพงนี้ พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงที่มีหน้าที่ทางการเมืองต้องตระหนักว่าประชาชนไม่ใช่ของตาย เขามีความคิดและส่งสัญญาณมายังพรรคเพื่อไทย รัฐบาลและคนเสื้อแดงด้วยกันเอง ที่ปทุมธานี ต้องยอมรับว่าเป็นฐานคนเสื้อแดงที่เข้มแข็งมาก แต่ในสถานการณ์เลือกตั้งที่เกิดขึ้น เสื้อแดงปทุมฯ เขาเล่นบทกระชาก เตือนแรงๆ เพราะเขารักพรรค และความรักพรรค รักในขบวนการเสื้อแดงว่าถ้าเดินไปโดยไม่สนใจความรู้สึก มันจะพัง จึงกระชากเตือนเช่นนี้ แต่เชื่อว่าสถานการณ์นี้จะผ่านพ้นไปด้วยดี ถ้าแต่ละฝ่ายเห็นบทเรียนนี้แล้วนำมาปรับปรุงแก้ไข เป็นเรื่องของนายกฯ และผู้นำเหล่าทัพที่ปฏิบัติตาม ประเพณีไทยๆ และผมกับพล.อ.เปรม ไม่ได้เป็นศัตรู ไม่มีเรื่องส่วนตัวเจือปน ผมเข้าใจเรื่องการทำหน้าที่ของนายกฯ ต้องการประคับประคองรักษาความเป็นรัฐบาลให้ยาวนานเพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศ เข้าใจในความรู้สึกของคนเสื้อแดง ซึ่งพวกผมยังเหมือนเดิม ยังยืนอยู่ในบริบทเดิม พรรคเพื่อไทยพยายามผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ.ต.ท.ทักษิณ พูดชัดเจนว่าจะไม่ขอกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี และจะไม่ขอทวงเงินที่ถูกยึดไป 4.6 หมื่นล้านบาทคืน ถ้าเทียบมาตรฐานเดียวกับคดีแจกส.ป.ก. ที่ภูเก็ต ถือว่าคดีนั้นหนักกว่าเป็นสิบเท่า เทียบไม่ได้กับที่ดินรัชดาฯ แต่เมื่อความเหลื่อมล้ำทางความยุติธรรมปรากฏ เรื่องนิรโทษกรรมจึงไม่มีใครพูดถึง แต่ฝ่ายตรงกันข้ามปฏิปักษ์ที่เอามายัดเยียด ทั้งที่พ.ต.ท.ทักษิณ พูดชัดเจนแล้วว่าไม่กลับมาเป็นนายกฯ ไม่ทวงเงินคืน แต่ไม่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาเป็นอะไร ประชาธิ ปัตย์เขากลัวอยู่แล้ว แค่ส่งเสียงมา เขายังแพ้เลือกตั้งหลุดลุ่ย ถ้าตัวมาแม้จะไม่ลงเลือกตั้งก็คงหนักกว่านี้ เชื่อว่าพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนรู้สถานการณ์ในประเทศดีที่สุด ห้วงเวลาต่างๆ ท่านจะรู้ว่าจะทำอย่างไร ท่านรักประเทศไทยและรัฐบาลนี้ต้องยอมรับว่ามีความผูกพัน เป็นลูกน้องมาทั้งนั้น ที่มา ข่าวการเมือง นสพ.ข่าวสด | |
http://redusala.blogspot.com |
"ผู้ตรวจการแผ่นดิน" สุมหัวร่าง รธน. อยู่หรือเปล่า ? | |
ถามตรง "ผู้ตรวจการแผ่นดิน" สุมหัวร่าง รธน. อยู่หรือเปล่า? วันที่ 25 เมษายน ผศ.ดร.กิตติศักดิ์ ปรกติ โฆษกคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญของผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวภายหลังการการประชุม ครั้งที่ 6/2555 ว่า คณะที่ปรึกษาฯ ได้มีการตั้งประเด็นในการพิจารณาเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเห็นว่าเป็นปัญหาเพื่อเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน 10 ประเด็นหลัก ดังนี้ 1.ควรจะคงให้มีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่อไปหรือไม่ หากจะคงไว้ ส.ว.ควรจะมีหน้าที่อย่างไร ที่ต้องเสนอเช่นนี้เนื่องจากดูจากหลักการและเหตุผล ทั้งทางของคณะรัฐมนตรีและสมาชิกสภาที่เสนอเข้ามาให้ปรับปรุงโครงสร้างอำนาจทางการเมือง 2.หลักเกณฑ์เกี่ยวกับความรับผิดของภาคการเมือง โดยเฉพาะที่นำไปสู่การยุบพรรค และการตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรคว่า ควรมีอยู่ต่อไปหรือไม่อย่างไร 3.ความจำเป็นในเรื่องอำนาจหน้าที่ของฝ่ายตุลาการ โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ 4.ความจำเป็นในเรื่องอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระ 5.การสรรหาบุคคลที่เข้ามาดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระว่า ควรจะเป็นอย่างไร 6.ปัญหาเรื่องโครงสร้างอำนาจทางการเมือง โดยเฉพาะการแก้มาตรา309 ซึ่งมีผู้เสนอว่า ควรยกเลิกเสีย และหากมีการยกเลิกจริง ควรจะมาตรการเชื่อมโยงสภาพทางการเมืองและกลไกทางการเมืองในปัจจุบันกับอนาคตอย่างไร 7.ระบบเลือกตั้ง การที่ให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ต้องสังกัดพรรคการเมืองในการเข้าเป็นสมาชิกรัฐสภาหรือไม่ 8.ระบบพรรคการเมืองและการเข้าสู่ตำแหน่งของนักการเมือง 9.การคุ้มครองและบังคับให้สิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนให้มีประสิทธิภาพ 10.การคุ้มครองสิทธิการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนที่มีอยู่เดิมให้ดีขึ้น เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะเป็นการล่วงละเมิดอำนาจของ ส.ส.ร. ผศ.ดร.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดินตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งให้อำนาจในการตั้งคณะที่ปรึกษาขึ้นมาพิจารณา ทั้งนี้ การพิจารณาของคณะกรรมที่ปรึกษาเป็นการวางหลักเกณฑ์ไว้ โดยพิจารณาจากประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ รวมถึงเรื่องที่คณะกรรมการที่ปรึกษา คณะรัฐมนตรี คณะกรรมาธิการได้เสนอไว้แล้วนำมาสรุป และตั้งประเด็นพิจารณาไว้ล่วงหน้า และเมื่อถามอีกว่าการตั้งประเด็นเช่นนี้เป็นการร่างรัฐธรรมนูญแข่งกับรัฐบาลหรือไม่ ผศ.ดร.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า เราไม่มีหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ เราเพียงแต่เสนอหลักการว่า เรื่องใดควรมีอยู่หรือไม่ควรมีอยู่ในรัฐธรรมนูญเท่านั้น โดยจะสรุปข้อเสนอให้แก่ผู้ตรวจการฯ เพื่อทำข้อเสนอไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ คาดในแต่ละประเด็นจะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1-2 สัปดาห์ | |
http://redusala.blogspot.com |
18 ศพเสื้อแดงตายเพราะเจ้าหน้าที่ | |
"รอง ผบช.น." ยันแล้ว "18 ศพเสื้อแดงตายเพราะเจ้าหน้าที่" เบื้องต้นจากข้อเท็จจริง ยืนยันว่าการเสียชีวิตของผู้ร่วมชุมนุมทั้ง 18 ศพ เกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อทำการไต่สวน ตามป.วิอาญา มาตรา 150 วรรคห้า กล่าวคือ เมื่อความปรากฎว่าถ้าความตายเกิดขึ้นโดยการกระทำของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ พนักงานสอบสวนต้องร่วมกับพนักงานอัยการทำสำนวนชันสูตรพลิกศพ และเสนอสำนวนพร้อมมีความเห็นให้พนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลทำการไต่สวน พล.ต.ต.อนุชัย กล่าวอีกว่า เนื่องจากคณะทำงาน ป.ป.ช. ต้องการทราบรายละเอียดแต่ละคดี รวมทั้งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยืนยันว่าเป็นกรณีที่มีความตายเกิดขึ้นจากการกระทำของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ จึงได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล รองผบก.น.1, พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน รองผบก.น.5 และพ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รองผบก.น.6 ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดย่อยมาให้รายละเอียดเป็นรายคดีต่อไป เพื่อป้องกันข้อผิดพลาด. | |
http://redusala.blogspot.com |
ชายชุดดำ" คือตำรวจเด็กนักการเมืองอิสานใต้ | |
ข่าวสดแฉ! "ชายชุดดำ" คือตำรวจเด็กนักการเมืองอิสานใต้ ทำให้มีก่อการร้าย คอลัมน์ ชกไม่มีมุม วงค์ ตาวัน ตอนที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินหรือศอฉ.ยังโรมรันพันตูอยู่กับม็อบแดงนั้น ได้มีการเรียกนายตำรวจระดับนายพลทั่วประเทศมาประชุมหลายครั้ง เพื่อขอความร่วมมือในการคลี่คลายสถานการณ์ *พร้อมๆกับรับฟังข้อมูลจากตำรวจใหญ่ทั้งหลายไปพร้อมกันด้วย* มีนายตำรวจหลายคนกล้าหาญชาญชัย ลุกขึ้นสะท้อนว่า ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่คือชาวบ้านที่หน้าคุ้นตากัน แล้วทุกคนมาเพราะรู้สึกว่าบ้านเมืองมีปัญหา 2 มาตรฐาน ตำรวจส่วนใหญ่พยายามบอกให้ศอฉ. หาทางออกที่สงบสันติ ระหว่างนั้นบิ๊กๆศอฉ.นั่งฟังไป คอตกไป แต่จู่ๆมีนายพลกลุ่มหนึ่ง ลุกขึ้นมาจุดประกายอำมหิตว่า อย่าไปถอยให้ม็อบ พร้อมกับเสนอแผนร้ายให้ครบสูตร!! ผู้นำศอฉ.ตาลุกวาว เรียกนายตำรวจฮึกเหิมเหล่านั้นแยกคุยเป็นพิเศษ ควักงบประมาณสดๆให้ไปดำเนินการตามแผนลับนั้น เรื่องราวเหล่านี้ มีนายพลทั่วประเทศเห็นกันหมด *ดังนั้นจึงมีข้อมูลถึงหูร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นำมาสู่การเปิดเรื่องชายชุดดำ ว่าที่แท้สังกัดนักการเมืองอีสานใต้คนไหน!?* เพราะไม่ใช่เรื่องลึกลับเกินไป นายพลสีกากีกลุ่มหนึ่ง จึงเป็นเป้าหมายที่รองนายกฯเฉลิม นำมาเปิดเผยในห้วงนี้! จึงไม่น่าแปลกใจเช่นกันว่า เหตุใดผู้เซ็นก่อตั้งศอฉ. กับผู้มีอำนาจสั่งการศอฉ.จึงอ้างชุดดำฆ่าม็อบตลอดเวลา แต่อ้างไป ก็ไม่เคยใช้อำนาจที่มีอยู่ในสมัยเป็นรัฐบาลติดตามจับกุมชุดดำเหล่านี้เลย ไม่เคยตั้งเป็นหน่วยเฉพาะกิจพิเศษ แสดงความทุ่มเทในการไล่ล่าชุดดำ ทั้งที่ระบุว่าเป็นพวกฆ่าม็อบแล้วใส่ร้ายรัฐบาล สิ่งที่น่าคิดอีกอย่างก็คือ การเร่งร้อนรวบรัดสรุปสถานการณ์การชุมนุมของศอฉ.ว่า มีผู้ก่อการร้ายชุดดำปะปนอยู่กับผู้ชุมนุม ใจเร็วใจร้อน และใจร้ายหรือไม่!?! เพราะเท่ากับขีดเส้นให้สถานการณ์เปลี่ยนจากการรับมือผู้ชุมนุมด้วยตำรวจปราบจลาจล กลายเป็นสถานการณ์ก่อการร้าย แล้วให้ทหารติดอาวุธเข้าไปจัดการ พร้อมๆกัน ก็มีชุดดำที่ใส่คลุมเครื่องแบบราชการออกปฏิบัติการ *ชุดดำก่อการร้าย* หรือชุดดำทำให้มีก่อการร้ายกันแน่! | |
http://redusala.blogspot.com |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)