วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2558

โปรดเกล้าฯ ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์-พล.ต.ต.โกวิทย์-พล.ต.ต.บุญสืบ


5 ธ.ค. 2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอดยศตำรวจและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ซึ่งประกาศ ณ วันที่ 4 ธ.ค. 2558 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ 
ระบุว่า มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถอด อดีตข้าราชการตำรวจออกจากยศตำรวจ ตามข้อ 1 (4) ของระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการถอดยศตำรวจ พ.ศ. 2547 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่ได้รับพระราชทานทุกชั้นตรา ตามข้อ 6 และข้อ 7 (4) ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ พ.ศ. 2548  ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2557 เนื่องจากกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และถูกลงโทษไล่ออกจากราชการ จำนวน 3 ราย ดังนี้
พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือกประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก และเบญจมาภรณ์ช้างเผือก
พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นประถมาภรณ์ ช้างเผือกประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์มงกุฎไทยและเหรียญจักรมาลา
พล.ต.ต. บุญสืบ ไพรเถื่อน และเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย จัตุรถาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์ช้างเผือก และเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย

'จ่านิว' ระบุถูกทหารขู่รวบตัว ยันเจอกัน! กิจกรรม 'นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์'


'สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์' หรือ 'จ่านิว' นักศึกษา-นักกิจกรรม เผยทหารโทรศัพท์มาหาให้ไปคุยในค่ายทหารแต่ตนเองปฏิเสธว่าไม่ไป เชื่อทหารต้องการล็อกไม่ให้เดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ ระบุทหารโทรมาข่มขู่แม่ว่าถ้าไม่ไปพบก็จะไปรวบตัว หลัง 'พล.ต.สรรเสริญ' พึ่งแถลงว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายคุกคาม
 
5 ธ.ค. 2558 เว็บไซต์ข่าวสดรายงานว่านายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา เปิดเผยว่า กิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง วันที่ 7 ธ.ค.นี้ เวลา 07.00 น. ตนได้ประกาศชวนคนที่สนใจตรวจสอบทุจริตของกองทัพ โดยนัดหมายกันที่สถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) เพื่อนั่งรถไฟขบวนที่ 255 ธนบุรี-หลังสวน ไปทรรศนะศึกษา และพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการสร้างอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งช่วงบ่ายจะมีอ่านแถลงการณ์และข้อมูลที่ทุจริต กิจกรรมทั้งหมดจะมีถึงเวลาประมาณ 16.00 น.
 
นายสิรวิชญ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุด ทหารในเขตพื้นที่เขตคลองสามวา โทรศัพท์มาหาตนให้ไปคุยกับนายทหารยศพันเอก โดยบอกว่าจะมาตนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต และจะพาไปคุยในค่ายทหาร ซึ่งตนได้ปฏิเสธทางโทรศัพท์ว่าไม่ไป เนื่องจากเชื่อว่าทหารต้องการล็อกตัวตนไม่ให้เดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ อีกทั้งตนทราบจากแม่ว่าทหารยังมาข่มขู่ว่า ถ้าไม่ไปพบก็จะไปรวบตัว และบอกอีกว่าจะอยู่ไม่เป็นสุข ซึ่งตนรู้สึกกลัว เพราะเหมือนถูกคุมคามหนัก อย่างไรก็ตามยืนยันว่าตนจะไปอุทยานราชภักดิ์แน่นอน เพราะเชื่อว่าไม่ได้เป็นการปลุกระดมทางการเมืองอะไร แต่ร่วมตรวจสอบทุจริตตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการปราบคนโกงเท่านั้น

จากนั้นในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น.เศษ 'จ่านิว'โพสต์ยืนยันทัวร์ราชภักดิ์ไม่ล่ม ไม่พอใจคำขู่ "ชีวิตจะอยู่ไม่เป็นสุข"รายละเอียดมีดังนี้
ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ตอนนี้ผมยังไม่ถูกใครควบคุมตัว
และผมขอยืนยันว่า กิจกรรมนั่งรถไฟ ไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง"
จะดำเนินต่อไป 7ธันวา 7โมงเช้า พบกันที่สถานีรถไฟธนบุรี(บางกอกน้อย)
ต่อให้ผมถูกคุมตัว หรือผมจะตายไปก็เถอะ กิจกรรมนี้ก็ไม่เลิก
คงได้พบกันอีกที วันที่ 7 ธันวา เลยล่ะ
เพราะเขาว่า "ถ้าไม่คุยกัน ก็จะรวบ เจอที่ไหนก็จะรวบ รวบแบบเงียบ"
ท่านทั้งหลาย ถ้าผมไปคุย แล้วไม่ยอมหยุดกิจกรรม ผลจะเป็นอย่างไร
เขาคิดว่า จะรวบตัวผมเงียบ แล้วให้เรื่องวันที่ 7 ไม่เกิดขึ้น
ฝันไปหรือเปล่า พี่ทหาร
คำหนึ่งที่ฟังเลยผมไม่พออย่างมากมาก "เดี่ยวชีวิตจะอยู่ไม่เป็นสุข"
แถมยังบอกแม่ผมตลอดเวลาว่า "ทำไมไม่ห้าม ปล่อยให้ไปได้อย่างไร ถ้าไปจะรวบตัวแบบสองคนนั้น(คงหมายถึงณัฐวุฒิักับจตุพร)
คำสองคำ ก็จะรวบ คำสองคำ ก็จะคุมตัว
ต่อให้ผมถูกควบคุมตัวที่สถานีรถไฟธนบุรี
พ่อแม่พี่น้องประชาชน เพื่อนนักกิจกรรมที่เตรียมไปด้วย ต้องไปถึงปลายทางที่อุทยานราชภักดิ์อย่างแน่นอน
วันที่เจ็ด เจ็ดโมงเช้า เจอกันนะครับ
วันสองวันนี้ผมคงอยู่แบบเสรีชนปกติได้ยากล่ะครับ เพราะพวกเขาจะเอาตัวผมให้ได้
เจอกันที่ บางกอกน้อย ธนบุรีนะครับ
หวังว่าจะได้เจอกันนะครับ
 
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีลั่น รัฐบาลไม่มีนโยบายคุกคาม แจงต้องเฝ้าระวังแกนนำ นปช.
 
ด้านมติชนออนไลน์รายงานว่าเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2558 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เพื่อขอให้ยุติการคุกคามและละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน กรณีมีเจ้าหน้าที่ทหารเฝ้าติดตามภรรยานายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. ขณะพาลูกไปส่งโรงเรียน และมีเจ้าหน้าที่ทหารเฝ้าบ้านพักตลอด 24 ชั่วโมง ภายหลังจากที่ทหารปล่อยตัวหลังเชิญไปพูดคุยในระหว่างที่จะเดินทางไปที่อุทยานราชภักดิ์ ว่า ตามขั้นตอนเมื่อมีการร้องทุกข์ก็ต้องตรวจสอบเรื่องแล้วจึงส่งไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ บางเรื่องที่สำคัญๆ นายกฯ น่าจะรับทราบ ที่ผ่านมาเราให้เสรีภาพ แต่ในบางกรณีหรือบางเรื่องรัฐบาลต้องใช้ดุลยพินิจพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อให้เกิดความสงบไม่วุ่นวาย เพราะก่อนหน้านั้นการให้สิทธิที่มากไปก็ทำให้เกิดปัญหาวุ่นวายเกิดขึ้นเหมือนในอดีตที่ผ่านมา
 
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่ารัฐบาลไม่มีนโยบายไปคุกคามครอบครัวของใคร ขอให้แยกแยะระหว่างคำว่าคุกคามกับการเฝ้าระวัง เพราะเป็นคนละเรื่องกัน การลงพื้นที่ของแกนนำบางคนไม่ได้ไปคนเดียวและพฤติกรรมการปฏิบัติที่อ้างว่าจะเป็นการลงพื้นที่ไปตรวจสอบนั้นไม่ใช่การไปตรวจสอบเพราะมีนัยยะสำคัญถามว่ากลุ่มการเมืองมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบทุจริตหรือไม่หากจะตรวจสอบต้องเป็นไปในลักษณะเอกสารข้อมูลและควรให้มีผลการตรวจสอบออกมาก่อนหรือไม่ เพราะการไปเคลื่อนไหวลงไปดูพื้นที่คงไม่เห็นอะไร จึงแสดงให้เห็นว่าอาจเป็นการสร้างความสับสนหรือมีนัยยะทางการเมือง ซึ่งเราเกรงว่าจะเกิดเหตุขึ้นได้จึงต้องเฝ้าระวัง เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาใดๆตามมา และเชิญมาพูดคุย เพราะไม่สามารถปล่อยให้เกิดความวุ่นวายใดๆเกิดขึ้นอีก
 
“เจ้าหน้าที่เชิญมาพูดคุยแล้วปล่อยแล้วการมาบอกว่าตามไปถ่ายรูปถึงโรงเรียนต้องถามกลับว่า ครู อาจารย์เขาจะยอมหรือไม่ การจะทำอะไรต้องมีเซ็นท์ เพราะเป็นการแสดงภูมิปัญญาว่าสูงส่งหรือด้อยของผู้ที่กระทำการ ขอให้แยกระหว่างการคุกคามกับเฝ้าระวังเป็นคนละเรื่อง ไม่มีการไปทำอะไรกับครอบครัวเขา ส่วนการเฝ้าระวังเป็นรายละเอียดของฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องดูแลเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย” พล.ต.สรรเสริญ กล่าว