ศาลพิพากษาจำคุก 'หญิงไก่' ฐานหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ฯ รวม 3 กระทงๆ ละ 5 ปี จำคุกทั้งสิ้น 15 ปี ซึ่งจำเลย ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยเป็น 7 ปี 6 เดือน
6 มิ.ย. 2560 ศาลนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกคดีหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำ อ. 3186/2559 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง มณตาหรือหญิงไก่ หยกรัตนกาญ อายุ 61 ปี ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ภายหลัง ก่อนจะดำเนินการสืบพยานในวันนี้ (6 มิ.ย.60) มณตา จำเลยได้แถลงต่อศาล ขอกลับคำให้การ จากเดิมที่เคยให้การปฏิเสธเป็นรับสารภาพ ซึ่งศาลถามอัยการโจทก์แล้วไม่คัดค้าน ศาลจึงมีคำพิพากษาดังกล่าว และตลอดการพิจารณาคดี มณตา ถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว
สำหรับคดีนี้ อัยการยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 28 ก.ย.59 ที่ผ่านมา ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อเดือน พ.ค.55 – ส.ค.56 เวลาใดไม่ปรากฏชัด จำเลยได้แสดงตัว และกระทำการว่าได้รับการแต่งตั้งโปรดเกล้าฯ เป็นคุณหญิงและได้บอกต่อบุคคลที่สามในลักษณะว่าเป็นบุคคลใกล้ชิดเบื้องสูงซึ่งข้อความที่กล่าวนั้นได้สื่อให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่า จำเลยได้ใกล้ชิดเบื้องสูง เป็นการกระทำจาบจ้วงล่วงเกิน ทำให้เสื่อมเสียพระเกียรติยศ โดยเจตนาทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธา ไม่เคารพ สักการะต่อสถาบัน เหตุเกิดที่แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาในจำเลยทราบเมื่อวันที่ 7 ก.ค.59 ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ
รายงานข่าวระบุด้วยว่า ตลอดการพิจารณา มณตา ถูกคุมขังในทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากไม่ได้รับการประกันตัว ซึ่ง มณตา ยังถูกอัยการยื่นฟ้องคดีมนุษย์อีก 2 สำนวน โดยวันนี้ (6 มิ.ย.60) ศาลเบิกตัว มณตา มาจากทัณฑสถานหญิงกลาง อย่างไรก็ดี ก่อนจะดำเนินการสืบพยาน มณตา จำเลยได้แถลงต่อศาล ขอกลับคำให้การ จากเดิมที่เคยให้การปฏิเสธเป็นรับสารภาพ ซึ่งศาลถามอัยการโจทก์แล้วไม่คัดค้าน ศาลจึงมีคำพิพากษาในวันนี้
โดยศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า จำเลยมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรม จึงพิพากษาให้จำคุก ฐานหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ ฯ รวม 3 กระทงๆ ละ 5 ปี จำคุกทั้งสิ้น 15 ปี ซึ่งจำเลย ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยเป็น 7 ปี 6 เดือน
ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว เจ้าหน้าราชทัณฑ์ จะได้ควบคุมตัว มณตา ไปคุมขังยังทัณฑสถานหญิงกลาง
รายงานข่าวยังระบุอีกว่า นอกจากคดีนี้แล้ว มณตา ยังถูกดำเนินคดีอื่นอีก เช่น คดีค้ามนุษย์ ที่อัยการยื่นฟ้องมณตานั้น ประกอบด้วย คดีหมายเลขดำ คม. 76/2559 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีค้ามนุษย์ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง มณตา ในความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกิน 15 ปี ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 4 , 6 และ 52 ซึ่งยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 10 ต.ค.59 กรณีต้นเดือน มิ.ย.49 – ปลายเดือน ต.ค.53 ได้หลอกเด็กสาว 3 รายจาก จ.ปทุมธานี และ จ.แม่ฮ่องสอน มาทำงานแม่บ้านบังคับใช้แรงงานตั้งแต่เวลาตีห้า ถึงห้าทุ่ม โดยไม่มีวันหยุด และไม่จ่ายค่าจ้าง แล้วยังข่มขู่ผู้เสียหายหากไม่ยอมทำงานก็จะแจ้งตำรวจ จับบิดา-มารดา
และคดีหมายเลขดำ คม.98/2559 ในความผิดเดียวกัน ซึ่งอัยการ ได้ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 29 พ.ย.59 จากกรณีระหว่างต้นเดือน พ.ค.51 – 30 พ.ย.53 ซึ่งได้หลอกลวงเด็กสาวอายุ 16 ปี จาก จ.แม่ฮ่องสอน มาใช้แรงงานให้ทำงานบ้านโดยไม่มีวันหยุดเช่นกัน โดยทั้ง 2 คดี อัยการได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัว เนื่องจากจำเลยถูกฟ้องคดีอื่นอีกหลายคดี ประกอบกับคดีที่ฟ้องนี้มีอัตราโทษสูง เกรงว่าหากได้ปล่อยชั่วคราวจำเลยจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับหลักฐาน ซึ่งชั้นพิจารณา มณตา ให้การปฏิเสธสู้คดี โดยขณะนี้ทั้ง 2 คดีอยู่ระหว่างการไต่สวนพยานบุคคล