วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2557

“เพื่อไทย” ยื่นหนังสือแจง “โอบาม่า–บันคีมุน” เหตุขัดขวางลต. และขบวนการกำจัดปชต.ในไทย


“เพื่อไทย” ยื่นหนังสือแจง “โอบาม่า–บันคีมุน” เหตุขัดขวางลต. และขบวนการกำจัดปชต.ในไทย





            วันที่ 27 มีนาคม 2557 go6TV – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.45 น. ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ ว่าที่รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า “เมื่อช่วงเช้าตนพร้อมด้วยนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ ผอ.ศูนย์ติดตามผลกระทบจากการชุมนุมพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐผ่านทางสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย และยื่นถึงเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย รวมทั้งส่งถึงนายบัน คี มุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ที่สำนักงานใหญ่ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ ทั้งนี้ หนังสือดังกล่าวต้องการแสดงให้เห็นถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ความไม่เป็นประชาธิปไตยในประเทศ มีกระบวนการขัดขวางการเลือกตั้งและต้องการแช่แข็งประเทศไทย ขณะที่การเลือกตั้งที่ผ่านมาซึ่งมีการเลือกตั้งเสร็จสิ้นไปแล้ว 80 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่มีการขัดขวางและละเมิดสิทธิของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งถึง 20 ล้านคน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวต้องการกำจัดฝ่ายประชาธิปไตยซึ่งพรรคเพื่อไทยเผชิญอยู่ เป็นวงจรอุบาทว์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ปี 49”

           น.ส.อนุตตมา กล่าวอีกว่า “นอกจากนี้เราได้ขอบคุณท่าทีของสหรัฐฯ ที่สนับสนุนความเป็นประชาธิปไตยในประเทศไทย ยืนยันว่าเราไม่ได้ต้องการใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมไทย แต่ต้องการชี้ให้เห็นว่ากระบวนการประชาธิปไตยถูกขัดขวางอย่างไม่เป็นธรรม ดังนั้นขอให้นานาชาติช่วยกันจับตาดูสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และชี้ให้เห็นว่าเราต้องการเลือกตั้งที่เป็นธรรม เสรี ต้องการให้คนไทยทั้ง 65 ล้านคนได้กำหนดชะตาชีวิตด้วยตัวเอง”

ชาวศรีสะเกษรวมตัวกันแจ้งความให้ดำเนินคดี ศาลรัฐธรรมนูญ กรณีตัดสินล้มการเลือกตั้งโดยไม่มีอำนาจ


ชาวศรีสะเกษรวมตัวกันแจ้งความให้ดำเนินคดี ศาลรัฐธรรมนูญ กรณีตัดสินล้มการเลือกตั้งโดยไม่มีอำนาจ







วันที่ 27 มี.ค.2557 Go6TV เวลาประมาณ 11.45 น. กลุ่ม นปช. ประมาณ 70 คน แต่งกายชุดดำ นำโดย นางปัทมกานต์ ธรรมศิริ และ นายระวี สัมฤทธิ์ ได้เดินทางมารวมตัวกันที่หน้าศาลจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ในการคัดค้าน ศาลรัฐธรรมนูญ ที่ ตัดสินให้การเลือกตั้ง สส.เมื่อวันที่ 2 ก.พ.57 เป็นโมฆะ จากนั้นได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ คณะตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่ง พ.ต.ต. ศิลประสิทธิ์ ศรีเกียรติ พงส.สบ.2 ร้อยเวรสอบสวน ได้รับคำร้องทุกข์และลง ปจว.ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินต่อไป

ครูสลิ่มโรงเรียนพาณิชย์เมืองพัทยา ให้เด็กเล่นละครล้อเลียน ใส่ร้ายนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และ ศรส.

ครูสลิ่มโรงเรียนพาณิชย์เมืองพัทยา ให้เด็กเล่นละครล้อเลียน ใส่ร้ายนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และ ศรส.


ที่เว็บไซต์ยูทรูป ของไอดีชื่อ พิชญ์สินี กุลเอกสรยา ซึ่งอ้างว่าเป็นอาจารย์ในสถาบันการศึกษาระดับพาณิชยการแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ได้เผยแพร่คลิปล้อเลียน รัฐบาลและนายกรัฐมนตรี โดยจัดเป็นละครเก็บคะแนน ในห้องเรียน โดยจำลองฉากเป็นเวที Shut Down Bangkok

ในละครดังกล่าว ได้มีข้อความบทพูดล้อเลียนใส่ร้ายนายกรัฐมนตรี รัฐบาล ศรส. ว่ารัฐบาลและ ศรส. เป็นผู้สั่งการให้ทำร้ายผู้ชุมนุมด้วย


จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น นางสาวพิชญ์สินี กุลเอกสรยา ได้เขียนข้อความ อวดอ้างว่าตนเองนั้นกำลังศึกษาระดับดอกเตอร์ เป็นอาจารย์สอนวิศวกร และดูถูกคนรากหญ้า ด่าว่าเนรคุณแผ่นดิน เหมือนทาส ซื้อได้ ชี้นำได้

ประวัติเบื้องต้น พบว่านางสาวพิชญ์สินี กุลเอกสรยา เป็นพนักงานในองค์การบริหารส่วนจังหวัด เมืองพัทยา เคยมีคดีความฟ้องร้องกับนายกฯเมืองพัทยาต่อศาลปกครองแต่แพ้คดี อีกทั้งยังเป็นอาจารย์สอนวิชาจิตวิทยาการจัดการ สถาบันเทคโนโลยีพาณิชยการแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา มีทรรศนคติทางการเมืองโน้มเอียงฝักไฝ่พรรคประชาธิปัตย์ และเข้าร่วมการชุมนุมม็อบ กปปส. ด้วย

“เอก Respect My Vote” บุกที่ประชุมวิสามัญปชป. ชูป้าย “We are the people” ก่อนโดนต่อยแว่นกระเด็น (มีคลิป)

“เอก Respect My Vote” บุกที่ประชุมวิสามัญปชป. ชูป้าย “We are the people” ก่อนโดนต่อยแว่นกระเด็น (มีคลิป)

วันที่ 28 มีนาคม 2557 go6TV – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. บริเวณชั้น 4 ภายในโรงแรมมิราเคิล แกรนด์ นายเอก อัตถากร หนุ่มแว่นดำเจ้าของฉายา “Respect My Vote” หรือผู้ใช้นามแฝงว่า Ake Auttagornพร้อมสมาชิกอีก 2 คน แต่งชุดดำบุกสถานที่ประชุมใหญ่สามัญพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมชูป้าย “We are the people” และป้ายข้อความ “ปฏิรูปตัวเองเถอะ” ที่ด้านหน้าห้องประชุม ทำให้สื่อมวลชนต่างกรูเข้าไปถ่ายภาพระหว่างที่นายเอก กำลังตะโกนว่า “ปฏิรูปประเทศอย่างไร เมื่อคุณยังไม่ยอมเลือกตั้ง ยังขัดขวางการเลือกตั้ง เราไม่ยอม”


โดยระหว่างนั้นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์กำลังแบ่งกลุ่มประชุมสมัชชาปฏิรูป 7 กลุ่มใหญ่เสนอความเห็น ซึ่งนายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กำลังเป็นพิธีกรดำเนินงานได้กล่าวว่า “แสดงให้เต็มที่”ทำให้นายเอกตะโกนสวนกลับว่า “มันไม่ใช่การแสดง เราคือประชาชน อย่าดูถูกประชาชน ประชาชนกำลังรู้ว่าคุณกำลังทำอะไร”


ทำให้นายบุญยอด ตอบโต้ว่า “เราไม่เคยดูถูกประชาชน เจ้าเดิมคนเดิม ทุกอย่างเหมือนเดิม” จากนั้น นายเอกยังตะโกนต่อไปว่า “ทุกอย่างเหมือนเดิม เพราะประขาชนไม่ชนะ”


เหตุการณ์เกิดความวุ่นวายและตึงเครียดขึ้น เมื่อสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต่างกรูเข้าล้อมและประชิดตัวนายเอก พร้อมระดมเป่านกหวีดเพื่อขับไล่นายเอกออกจากสถานที่ประชุม แต่นายเอกได้หยิบนกหวีดขึ้นมาเป่า และถูกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์กรูมาผลักดันลงไปบริเวณล็อบบี้ ชั้นล่างของโรงแรม แต่นายเอกยังคงตะโกนโต้เถียงไปมากับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เป็นระยะ ทันใดนั้นมีชายใส่เสื้อสีขาวคนหนึ่ง เดินเข้ามาปรี่หมัดใส่หน้านายเอก จนแว่นตากันแดดสีดำของนายเอกร่วงกระเด็นตกพื้น โดยนายเอกพยายามป้องกันตัวเองแต่ไม่ได้มีการปะทะกันแต่อย่างใด


ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยต้องเข้ามาป้องกันและเชิญให้นายเอกออกจากโรงแรมท่ามกลางความชุลมุนขณะที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตะโกนขับไล่ และผู้มาใช้บริการในโรงแรมอยู่ในความแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ต่างเรียกให้สมาชิกกลับเข้าประชุมตามปกติ













“ยิ่งลักษณ์” ตั้ง 3 ข้อสังเกต ชี้ พฤติกรรมเอนเอียง-ไม่ยุติธรรมของ ป.ป.ช.


“ยิ่งลักษณ์” ตั้ง 3 ข้อสังเกต ชี้ พฤติกรรมเอนเอียง-ไม่ยุติธรรมของ ป.ป.ช.



             วันที่ 28 มีนาคม 2557 go6TV – นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้โพสต์ข้อความชี้แจงกรณีคดีโครงการรับจำนำข้าวผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra (https://www.facebook.com/Y.Shinawatra) มีเนื้อหาดังนี้


กราบเรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพ


            กรณีคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ดิฉันถูกกล่าวหาโดยการยื่นคำร้องถอดถอนจากพรรคฝ่ายค้านส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเป็นการกล่าวหาโดยตรงจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งที่โดยกระบวนการปกติตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ควรจะเป็นคนกลางในการพิจารณาคดีคำร้องถอดถอน

          และเมื่อคดีนี้มีความพิเศษกว่าปกติ คือ การที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กลับมาเป็นคู่กรณีเสียเองเช่นนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมิใช่คนกลางที่จะอำนวยความยุติธรรม ดังนั้น ในเบื้องต้นดิฉันขอตั้งข้อสังเกต ดังนี้


  • 1. มาตรฐานของการปฏิบัติหน้าที่ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ที่บัญญัติให้ไต่สวนคดีโดยเร็ว
  • และยึดหลักนิติธรรมนั้น ใช้กับบุคคลทุกกลุ่มในบรรดาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่อยู่ในระดับบริหารด้วยกันอย่างเท่าเทียม หรือมีเงื่อนไขที่จะใช้กับบุคคลหรือคณะบุคคลบางกลุ่มอย่างไม่เท่าเทียมกัน เท่านั้น ดังจะเห็นได้จากหลายเรื่อง เมื่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถูกกล่าวหา จะมีการตั้งอนุกรรมการไต่สวนก่อน ซึ่งปัจจุบันแต่ละคดีไม่มีความคืบหน้า แต่ประการใด เช่น คดีสลายการชุมนุมที่ทำให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตาย เมื่อปี พ.ศ.2553หรือคดีทุจริตอื่น ในปี พ.ศ.2553 ก็ไม่ปรากฏว่า มีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วเหมือนคดีของดิฉัน
  • 2. ตามบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาที่มีต่อดิฉัน ซึ่งใช้เวลาเพียง 21 วัน ในการจัดเตรียมข้อกล่าวซึ่ง มีมากมายหลายประเด็นที่อ้างว่า มีการทุจริตและมีความเสียหาย ซึ่งหากคำนึงถึงความเป็นธรรมแล้ว จำเป็นที่ดิฉันจะได้ใช้สิทธิตามที่รัฐธรรมนูญคุ้มครองเพื่อตรวจสอบว่า มีพยานหลักฐานใดที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใช้ในการกล่าวหา หรือมีข้อสงสัยที่ไม่ชัดเจน เพื่อดิฉันจะได้ชี้แจงได้ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.เสียด้วยซ้ำ เรื่องนี้ ทำให้สรุปได้ชัดเจนว่า “การตรวจพยานหลักฐานในคดีนี้ ดิฉันไม่ได้รับการอำนวยความยุติธรรม” ตามสมควร
  • 3. การขอเลื่อนคดีของดิฉัน มีความสมเหตุสมผลหรือไม่ และการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ให้ดิฉันเลื่อนคดีมีเหตุผลมากน้อยเพียงใด ในเรื่องนี้เมื่อตรวจสอบจากบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาว่า “โครงการรับจำนำข้าว” เกิดความเสียหาย โดยดิฉันรับรู้ รับทราบแล้วทำไมไม่ระงับ ยับยั้ง เพื่อยุติโครงการรับจำนำเสีย

           เรื่องที่ดิฉันถูกกล่าวหานี้ มีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพยานเอกสาร และพยานบุคคลจำนวนมากที่ดิฉันต้องรวบรวม บางรายการต้องสืบค้นจากหลายหน่วยงาน เพื่อหักล้างข้อกล่าวหา แต่หน่วยงานต่างๆมีระยะเวลาไม่เพียงพอ จึงแจ้งเหตุขัดข้องมาหลายหน่วยงาน ซึ่งดิฉัน ได้ให้ทนายความนำไปให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตรวจสอบถึงเหตุขัดข้อง เพื่อขอเลื่อนคดีสักระยะหนึ่ง ซึ่งจากที่ให้แล้ว 15 วัน และดิฉันขอขยายอีก 45 วันตามที่ได้ร้องขอไป

           แต่คำขออำนวยความยุติธรรมดังกล่าว แม้สักวันเดียวยังไม่ได้รับ ทั้งๆที่ฝ่ายกรรมการ ป.ป.ช. ที่ถือเป็นคู่กรณีอ้างว่า ได้ใช้เวลาตรวจสอบเรื่องของดิฉันมาปีเศษแล้ว ทั้งๆ ที่คณะกรรมการ ปปช. ชุดใหญ่ มีมติภายใน 21 วันเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา แต่เมื่อดิฉันจะใช้เวลาตามสมควรบ้าง กลับถูกปฏิเสธความยุติธรรมจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ไต่สวน

          ดิฉันเห็นว่า คดีนี้เมื่อตัวดิฉันมีสถานะเป็นนายกรัฐมนตรี การถูกดำเนินคดีเป็นเรื่องที่สาธารณะชนทั่วไปควรต้องการรับรู้และถือเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะที่จะรับรู้ทั้งฝ่ายดิฉัน และเหตุผลของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ซึ่งเสมือนมิใช่คนกลางไต่สวนพิจารณาคดี หากแต่ถือเป็นคู่กรณีที่กล่าวหาดิฉันด้วยว่า ระหว่างการไต่สวนพิจารณาคดีของกรรมการ ป.ป.ช. ผู้ไต่สวนกับดิฉันในฐานะผู้ถูกกล่าวหา มีการปฏิบัติต่อกันในการดำเนินคดีโดยถูกต้อง เที่ยงธรรมหรือไม่ มิใช่มีเจตนามากล่าวหาต่อกันว่าใครผิดใครถูก ซึ่งไม่ถูกต้อง และกรณีของดิฉันคงเป็นบทเรียนของการใช้อำนาจของแต่ละฝ่ายว่า เป็นไปตามหลักนิติธรรมหรือไม่

          แต่กรรมการ ป.ป.ช. กลับชี้แจงโดยกล่าวหาดิฉันว่า เป็นเพราะดิฉันไม่มารับทราบข้อกล่าวหาด้วยตนเองซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก เพราะการรับทราบข้อกล่าวหา ดิฉันตรวจสอบจากบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาที่เป็นลายลักษณ์อักษรได้อยู่แล้ว

           เอกสารหลายรายการที่นำไปใช้กล่าวอ้าง และพาดพิงดิฉันรวมถึงบทสัมภาษณ์ ในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจของ นายวิชา มหาคุณ ที่อ้างว่าดิฉันต้องรับผิดนั้น ทำไมไม่ให้ดิฉันตรวจพยานหลักฐานก่อน เพื่อให้ดิฉันได้มีโอกาสชี้แจงให้ถูกต้องและตรงประเด็น แต่กลับอ้างว่า ไม่สามารถให้ดูเอกสารหลักฐานได้เนื่องจากเป็นเอกสารสำคัญกลัวจะเสียรูปคดีซึ่งถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิของดิฉันตามกฎหมายรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิคุ้มครอง ซึ่งดิฉันได้รับเอกสารแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งแรก 49 แผ่น และในภายหลังเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาได้รับเอกสารเพิ่มเติมอีก 280 แผ่น ซึ่งนั่นหมายความว่า ดิฉันจะต้องแก้ข้อกล่าวหาหลังได้รับเอกสารทั้ง 280 แผ่นนั้นภายในเวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้น

ศาลฯรับคำฟ้องกกต.แจกใบเหลือง “สุขุมพันธ์” ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ทันที


ขึ้นเขียง ! ศาลฯรับคำฟ้องกกต.แจกใบเหลือง “สุขุมพันธ์” ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ทันที





          วันที่ 28 มีนาคม 2557 go6TV - นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการยื่นคำฟ้องไปยังศาลอุทธรณ์กลางตามมติ กกต. ที่สั่งให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ใหม่ (ใบเหลือง) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ภายหลังยื่นคำฟ้องไปเมื่อวันที่ 24 มีนาคม ว่า ได้รับรายงานจากทางสำนักคดีและวินิจฉัย ของสำนักงานกกต. ว่า ได้รับหนังสือแจ้งจากศาลอุทธรณ์กลางว่าได้รับคำฟ้องดังกล่าวเข้าเป็นสำนวนคดีแล้ว เมื่อวันที่ 27 มีนาคม กระบวนการหลังจากนี้ สำนักงานกกต. ต้องทำหนังสือแจ้งไปยัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพื่อให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 239 ทันที