วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ก่อนศึกใหญ่จะมาเยือน...

ก่อนศึกใหญ่จะมาเยือน...



          ดินแดนโพ้นทะเล ห่างไกลกันคนละฝากฟ้าอย่างนครลอสแองเจลิส  ยังมีนักวิชาการ นักสู้ และผู้รู้แวะเวียนมาเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย  พวกเขามาบอกเล่าสถานการณ์ทางการเมืองทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังมาเปิดเผยกิจกรรมและการกระทำของบุคคลต่างๆ ที่มีบทบาท ทั้งด้านดีและด้านมืด ที่จะส่งผลดีหรือผลร้ายต่ออนาคตของประเทศไทย

          ผู้รักประชาธิปไตยในนครลอสแองเจลิส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง RED USA จึงไม่มืดบอด ในทางตรงกันข้ามกลับซึมซับความรู้และประสบการณ์ จากอาคันตุกะผู้มาเยือนเพื่อนำไปต่อยอดกับข้อมูลข่าวสารที่ได้รับมา ทั้งจากเครือข่ายโซเชียลมีเดีย ทั้งจากสื่อทีวี สื่อสิ่งพิมพ์และสื่อดิจิตอล

           จรัล ดิษฐาอภิชัย จะมาเยือนแอลเอในอีกไม่กี่วันข้างหน้า คงไม่ต้องเสียเวลามาชี้แจงบอกกล่าวให้มากความว่าท่านผู้นี้คือใคร บอกได้เพียงว่าบุคคลผู้นี้ถูกเฉดหัวออกจากตำแหน่ง รองประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติชุดที่ 1 ด้วยข้อกล่าวหาว่า "มีสำนึกของความเป็นมนุษยชนมากเกินไป"

           RED USA จะระดมพลเชิญชวนคนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตย มาฟังการปราศรัยย่อยของนักสู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายทศวรรษท่านนี้ ในวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2014 ก่อนที่แสงแดดจะคล้อยฟ้า ตั้งแต่เวลาบ่าย 5 โมงเย็น หรือ 17.00 น.เป็นต้นไป


... ณ บ้านเลขที่: 535 Harrison St.,

Monterey Park, CA

Tel: 714/ 470-1334
909/ 455-2961


           ใครจะหอบหิ้วของคาว ของหวานติดไม้ติดมือมาร่วมด้วยช่วยกัน หรือใครจะมาตัวเปล่าก็ล้วนเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่ใครก็ไม่อาจก้าวล่วง ขอเพียงมาร่วมงาน ประชาธิปไตยที่ฝังรากลึกอยู่แล้วในใจของแต่ละคนก็จะเติบใหญ่



           RED USA ขอเชิญชวนคนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน ในนครลอสแองเจลิส และเมืองใกล้เคียง มาร่วมรับรู้แผนการต่อสู้ และรับทราบยุทธศาสตร์และยุทธวิธีเพื่อเตรียมตัวไว้ให้พร้อม ก่อนศึกใหญ่จะมาเยือน           

          RED USA  Feb. 20, 2014

กฤษฎา ไชยแค มือระเบิดอนุสาวรีย์


ตำรวจชุดสืบสวนคดีคนร้ายปาระเบิด ในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พบซุกตัวในเขมร







        ตำรวจชุดสืบสวนคดีคนร้ายปาระเบิด ในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซุกตัวในเขมร

        เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ แหล่งข่าวในชุดสืบสวนคดีคนร้ายปาระเบิดในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนพยายามหาเบาะแสของคนร้าย ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่นานได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนขออนุมัติจากศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามตำหนิรูปพรรณซึ่งปรากฏอยู่ในภาพถ่าย ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับเรียบร้อยแล้ว และเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ชุดสืบสวนพยายามหาเบาะแสของคนร้ายกระทั่งมีความชัดเจนว่า บุคคลที่ปรากฏในภาพถ่ายคือนายกฤษฎา ไชยแค อายุ 41 ปี

         แหล่งข่าวรายเดิมเปิดเผยด้วยว่า ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว แต่ปรากฏว่า นายกฤษฎา ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาและบุตร ใน จ.นนทบุรี ซึ่งได้เดินทางไปเชิญบุคคลใกล้ชิดของนายกฤษฎา มาสอบถามและให้ดูภาพถ่ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งบุคคลใกล้ชิดรายนี้ยืนยันว่า บุคคลในภาพคือนายกฤษฎาจริง

          "นอกจากพยานบุคคลแล้ว เรายังเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไปตรวจเทียบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่เก็บได้จากรถจักรยานยนต์ ที่คนร้ายว่าจ้างให้ไปส่งที่วัดรวกบางบำรุ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 ซึ่งพบว่าตรงกัน ซึ่งได้ส่งพยานหลักฐานที่พบนี้ให้กับพนักงานสอบสวนไปขออำนาจศาลออกหมายจับใหม่โดยระบุชื่อนายกฤษฎา เป็นผู้ต้องหา ซึ่งได้ดำเนินการไปกว่า 2 สัปดาห์แล้ว" แหล่งข่าวในชุดสืบสวน เปิดเผย

           ตำรวจชุดสืบสวน เปิดเผยด้วยว่า การสืบสวนทำให้ทราบว่าหลังเกิดเหตุนายกฤษฏา หลบหนีไปยัง จ.ระยอง และ จ.จันทบุรี และคาดว่าน่าจะหนีข้ามไปกบดานในประเทศกัมพูชา โดยเส้นทางธรรมชาติ ซึ่งคาดว่าเมื่อข้ามไปยังประเทศกัมพูชาแล้ว นายกฤษฎา น่าจะแฝงตัวประกอบอาชีพพ่อครัว หรือช่างตัดผม เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้มีความเชี่ยวชาญ

หยุดแช่แข็ง ประชาธิปไตย

ประมวลภาพ ประชาชนผู้รักสันติปล่อยลูกโป่ง ชูป้าย "หยุดแช่แข็ง ประชาธิปไตย" อนุสาวรีย์หลักสี่
































 

เมื่อสานไม่ซาถิดยุดติทำ

[​IMG] 

[​IMG] 

[​IMG] 

[​IMG]

[​IMG]
หน้าศาลแพ่ง

[​IMG] 

[​IMG]


วันนี้ เวลา 10.20น. ที่บันได ทางขึ้นด้านหน้าศาลแพ่ง ถนนรัชดา นางดารุณี กฤตบุญญาลัย (เจ้ดา) พร้อมด้วย รศ.สุดสงวน สุธีสร (อ.ตุ้ม) นำมวลชน ประมาณ 80 คน รวมตัวเพื่ออ่านแถลงการณ์ ขอคำชี้แจง ปม พรก.ฉุกเฉิน เปรียบเทียบการชุมนุม นปช. ปี 53 กับ การชุมนุม กปปส. ซึ่ง นปช. เคยขอให้ศาล ยกเลิก พรก. เช่นกัน แต่กลับได้รับผลแตกต่างกัน ทั้งๆ ที่ นปช. ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ส่วนการชุมนุม กปปส. เห็นได้ชัดว่า เป็นไปด้วยความรุนแรงทั้งปิดล้อมสถานที่ราชการ รวมถึงใช้อาวุธสงครามต่อ จนท.ตร.

กลุ่มจึงขอมอบพวงหรีด "แด่...ความอยุติธรรมของศาลแพ่ง" เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับระบบความยุติธรรม และเรียกร้องให้ปฎิรูปความยุติธรรมก่อน ปฎิรูปประเทศไทย จากนั้นกลุ่มได้ร้องเพลง
"ความไม่เป็นธรรม" และได้วางพวงหรีดไว้ที่เสาหน้าทางขึ้นศาลแพ่ง พร้อมตะโกนคำว่า "ยุติธรรม"


[​IMG] 


[​IMG] 

[​IMG] 

[​IMG] 

[​IMG] 

[​IMG] 

[​IMG]