"ป๋าเปรมฯ ชี้นำ "คนดีเท่านั้นที่จะมีคุณธรรมและจริยธรรมได้" | |
เมื่อวันที่ 3 เมษายน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวบรรยายพิเศษ เนื่องในโอกาสครบรอบ 12 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ ตอนหนึ่งว่า เราเกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน โดยสามารถอธิบายได้ 2 แบบ คือ แบบสั้น ได้แก่ การตอบแทนบุญคุณแผ่นดินต้องทำความดี เพื่อให้แผ่นดินมีความสงบ คนในแผ่นดินมีความสุข และอีกความหมาย คือ ต้องไม่ทำชั่ว ทำให้คนในแผ่นดินเดือดร้อน "การทำความดี ไม่ทำความชั่วนั้น มีแต่เฉพาะคนดีเท่านั้นถึงจะทำได้ คนไม่ดีทำไม่ได้ เพราะถือเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ผมขอเรียนว่า การทำความดีแม้จะทำยาก แต่ก็ทำได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ยากกว่าและยากที่สุดคือ การรักษาความดีที่ทำให้คงอยู่กับผู้ทำตลอดไปจนกระทั่งตาย มีหลายคนในประเทศเคยทำความดีให้ปรากฏ จนกระทั่งได้รับการยกย่องสรรเสริญศรัทธา แต่ไม่สามารถรักษาความดีที่ตนทำไว้ได้ น่าเสียดายมาก" พล.อ.เปรมกล่าว ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวต่อว่า สำหรับความหมายอย่างยาว อธิบายได้ 9 ข้อ ได้แก่คือ 1.จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 2.ซื่อสัตย์สุจริต เสียสละและจงรักภักดี 3.คนที่เป็นผู้บังคับบัญชา ต้องทำตัวให้เป็นตัวอย่างกับผู้ใต้บังคับบัญชา คนเป็นนายคนต้องมีความเมตตา เป็นคนไทยต้องมีความเป็นไทย เป็นธรรม เป็นนายคนต้องมีแต่ให้ และรับได้อย่างเดียว คือ รับความทุกข์ ความลำบากยากเข็ญของคนอื่น มาแก้ไข 4.หาทางขจัดความยากจน 5.ยึดถือ และปฏิบัติตามพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ ตนอายุมาก มักมีคนขอคำปรึกษา ขอคำแนะนำ ถ้าตนคิดได้ ตนจะให้ปรึกษา แต่หากตอบไม่ได้จะแนะนำให้ไปอ่านพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัส เพราะอาจมีคำตอบอยู่ในนั้น 6.ต้องทำงานให้คุ้มค่า คุ้มเวลาและคุ้มความเป็นคน ซึ่งตนใช้วิธีทำงานที่ยึดถือมา คือ สะดวก เรียบง่ายและประหยัด หากคนที่นำไปใช้เชื่อว่าจะได้ประโยชน์ 7.ดำรงวัฒนธรรมไทย เช่น วัฒนธรรมการละเล่นท้องถิ่นของภาคใต้ กลาง อีสาน เหนือ การพูดภาษาถิ่น โดยตนขอพูดตรงๆ ว่าไม่ควรจะเห่อฝรั่ง ไม่ควรลอกเลียนฝรั่ง จนไม่เหลือความเป็นไทย เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย 8.ข้อนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ว่าพวกเราที่เป็นผู้ใหญ่ ต้องถือว่าเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบที่ต้องดูแลยุวชน เยาวชน ที่ผมใช้คำว่าต้องยอมถือว่าเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบ เพราะเด็กเป็นความสำคัญของชาติบ้านเมืองของเรา การดูแลไม่มีบัญญัติไว้ในกฎหมาย หรือรัฐธรรมนูญใด เราก็มีสิทธิที่ไม่ถืออย่างนั้นก็ได้ แต่ผมคิดว่า ถ้าเรามุ่งที่จะตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ของเรา หากไม่ถือเป็นหน้าที่ไม่มีกฎหมายลงโทษ แต่ผมคิดว่าเป็นหน้าที่โดยตรง ที่เราต้องรับผิดชอบดูแลให้แกเติบโตมาเป็นคนดีของชาติบ้านเมืองให้ได้ 9.ต้องมีจริยธรรมและคุณธรรม ผมว่าคนดีเท่านั้นที่จะมีคุณธรรมและจริยธรรมได้" พล.อ.เปรมกล่าว ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษกล่าวขยายความคำว่าคุณธรรมและจริยธรรม ด้วยว่า 2 คำดังกล่าวต้องพูดพร้อมกันถึงจะได้ความหมายที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ตนขอย้ำว่าคนดีเท่านั้นถึงจะมีคุณธรรมและจริยธรรม ทั้งนี้ ตนได้โทรศัพท์ไปหา ศ.กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิตที่มีความเชี่ยวชาญด้านภาษาไทย ถึงความหมายของทั้ง 2 คำ ซึ่ง ศ.กาญจนาอธิบายได้ว่า คุณธรรม คือ ความดีที่มีอยู่ในใจ ที่ทำให้เกิดผลดีต่อผู้อื่น โดยคนที่มีคุณธรรมนั้นต้องซื่อสัตย์สุจริต คิดดี พูดดี ทำดี คิดตรง พูดตรง ทำตรง ไม่พลิกพลิ้วในคำพูดและการกระทำ รวมถึงต้องมีเมตตาช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก และที่สำคัญต้องไม่เบียดเบียนคนอื่น ไม่คดโกง แม้ไม่มีคนรู้เห็น ไม่ข่มเหงผู้ที่อ่อนแอกว่าหรือผู้หญิง ไม่ฉ่อราษฎร์บังหลวงและไม่ทำทุจริต ส่วนจริยธรรมหมายถึงความประพฤติทางกายและวาจา ที่แสดงออกถึงธรรมะที่มีอยู่ในใจ "ในประมวลจริยธรรมของนักการเมือง เห็นว่าเป็นเรื่องดีและมีประโยชน์ แต่ผมว่าเฉพาะจริยธรรมอย่างเดียวก็ยากลำบากแล้ว หากรวมคุณธรรมยิ่งเหนื่อยที่จะปฏิบัติตาม ผมสังเกตว่าประมวลจริยธรรมของส่วนราชการต่างๆ ที่กำหนด แต่หากไม่มีการปฏิบัติตามจะไม่ถูกลงโทษ แล้วจะจะตัดสินได้อย่างไร ผมก็ขอให้คำตอบว่าต้องใช้มโนธรรม คือ การรู้สึกผิดชอบชั่วดี แยกผิด ชั่ว ออกจากความดีได้ และกติกาในใจของเราเอง เป็นมาตรการในการตัดสิน" ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษกล่าว พล.อ.เปรมกล่าวในตอนท้ายด้วยว่า "ผมเชื่อว่าชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครมีสิทธิยึดถือเป็นของตนเองได้ ผมเชื่อว่าพระสยามเทวาธิราชมีจริง และจะปกป้องคนดี และสาปแช่งคนไม่ดี คนทรยศต่อชาติบ้านเมืองให้พินาศไป นั่นคือความเชื่อของผม ส่วนบุคคลอื่นจะเชื่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับจริยธรรมและคุณธรรมของแต่ละคน" | |
http://redusala.blogspot.com |
ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2555
ฮาขี้แตก!!! ณัฐวุฒิเผยวลีเด็ด "ไหว้พี่เขาเสียซิ" | |
http://redusala.blogspot.com |
เปิดกำหนดการ! "ดร.ทักษิณ" ร่วมสงกรานต์ลาว-กัมพูชา 11-15 เม.ย.นี้ | |
กำหนดการเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางมาร่วมเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-13 เม.ย.ที่ประเทศลาว และ 14-15 เม.ย.ที่ประเทศกัมพูชา โดยระบุว่า ในวันที่ 11 เม.ย. เวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวมาที่ท่าอากาศยานนานาชาติวัตไต นครเวียงจันทร์ จากนั้นเวลา 13.00 น. จะขึ้นกล่าวปาฐกถาให้นักธุรกิจลาวที่โรงแรมดอนจันทร์ พาเลส วันที่ 12 เม.ย. เวลา 07.00 น.จะร่วมงานทำบุญตักบาตรที่วัดพระธาตุหลวง เวลา 10.00 น.ร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ โดยเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมที่หอธรรมสภา วัดพระธาตุหลวง เวลา 14.00 น.พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวไปเมืองปากเซ แขวงนครจำปาศักดิ์ ส่วนในวันที่ 13 เม.ย. เวลา 07.00 น. ร่วมทำบุญตักบาตร 10.00 น. ร่วมพิธีรดน้ำดำหัว วันที่ 14 เม.ย. 09.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางออกจากเมืองปากเซ ไปเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา 17.00 น.ร่วมคอนเสิร์ตโดยมีแกนนำนปช.เข้าร่วมที่ศูนย์วัฒนธรรมเสียมเรียบ และวันที่ 15 เม.ย. เวลา 07.00 น.ทำบุญตักบาตร ที่นครวัด-นครธม และร่วมพิธีรดน้ำดำหัว โดยสมเด็จฯฮุนเซนอาจจะเดินทางมาร่วมงานด้วย เพราะวันที่ 15 เม.ย.เป็นวันครบรอบวันเกิด 60 ปีของนายฮุนเซนด้วย อย่างไรก็ตามประชาชนสามารถเดินทางผ่านด่านต่างๆ เพื่อไปร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย | |
http://redusala.blogspot.com |
แม่ค้ารุมกรี๊ด! นายกฯยิ่งลักษณ์ ทานก๋วยเตี๋ยว-เดินตลาดนางเลิ้ง | |
วันที่ 7 เม.ย. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะ ประกอบด้วยนายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รักษาการเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันที่ตลาดนางเลิ้ง โดยเริ่มด้วยการรับประทานบะหมี่เจ้าเก่าแก่ “รุ่งเรือง” ของตลาดนางเลิ้ง ก่อนที่จะเดินเยี่ยมชม ชิมอาหาร พร้อมช็อปปิ้งขนมและอาหารต่างๆ อย่างเพลิดเพลิน โดยเฉพาะไส้กรอกปลาแนม ซึ่งเป็นอาหารว่างโบราณ ขนมเบื้องโบราณลุงน้อย ข้าวโพด ขนมเบื้องญวน โรตีมะตะบะ รวมทั้งได้นั่งดื่มกาแฟโบราณ-บ๊ะจ่าง นางเลิ้ง หรือกาแฟเฮียทุ้ย ทั้งนี้การเดินเที่ยวชมตลาดนางเลิ้งของนายกรัฐมนตรีได้รับความสนใจจากชาวบ้านและบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเป็นอย่างมาก ต่างเข้ามาขอถ่ายรูป ขอรายเซ็น พร้อมมอบขนมต่างๆให้นายกรัฐมนตรีไปรับประทานที่บ้าน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีแนวคิดที่จะลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนและตรวจสอบราคาสินค้าในตลาดต่างๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ตลาด | |
http://redusala.blogspot.com |
การปรองดองต้องให้ได้ความจริงและยุติธรรม | |
พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์: รศ.ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ 30 มีนาคม 2555 ภาพโดย pittaya (CC BY 2.0) คำถามของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ถึง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญชุด “ปรองดอง” เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วว่า กระทำรัฐประหาร 19 กันยายนไปด้วยตนเองหรือมีผู้อยู เหตุผลของพล.ต.สนั่นก็คือ ประชาชนต้องการรู้ความจริง กระบวนการปรองดองใดๆ จะไม่เป็นผลทั้งสิ้นหากความจริ นี่คือมาตรฐานที่แท้จริงที่เป็ การปรองดองแห่งชาติที่แท้จริ เพียงประการแรกคือ การเปิดเผยความจริงทั้งหมด ในปัจจุบันก็มิอาจกระทำได้ วิกฤตการเมืองทั้งหมดตั้งแต่ต้ นัยหนึ่ง รัฐประหาร 19 กันยายน เป็นเพียงตัวแทนหนึ่งของเผด็ คำถามจึงไม่ใช่อยู่เพียงว่า ใครหรืออะไรที่บงการให้ พล.อ.สนธิกระทำรัฐประหาร 19 กันยายนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงคำถามว่า ใครหรืออะไรที่บงการบุคคลและกลุ่ คำถามนี้จะมีคำตอบที่เปิดเผยได้ และนี่คืออุปสรรคสำคัญที่สุ ในเมื่อไม่สามารถเปิดเผยความจริ พรรคเพื่อไทยรู้ดีว่า การปรองดองแห่งชาติที่แท้จริ ด้วยเหตุนี้ การให้ความยุติธรรมของพรรคเพื่ แม้แต่แผนการของรัฐบาลที่ การเคลื่อนไหวเรื่อง “ปรองดอง” โดยแกนนำพรรคเพื่อไทยในวันนี้ จึงไม่ใช่การปรองดองแห่งชาติที่ สิ่งที่พวกเขาจะเผชิญก็เหมื ถ้าปล่อยให้เป็นเช่นนั้น ก็เท่ากับว่า การลงทุนลงแรงของฝ่ายจารีตนิ ฉะนั้น ทั้งพรรคเพื่อไทยและประชาชนที่ ข้อมูลที่มา : ประชาไท | |
http://redusala.blogspot.com |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)