ทนายอานนท์แจงคอป.กรณีเผาศาลากลางซัดเจ้าหน้าที | |
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.54 คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เปิดรับฟังข้อเท็จจริงเป็นครั้งสุดท้าย กรณีการเผาศาลากลางในต่างจังหวัด โดยเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาเป็นกรณีตัวอย่าง 2 จังหวัด คือ อุบลราชธานี และมุกดาหาร นายประยุทธ ชุ่มนาเสียว ประธานเครือข่ายวัฒนธรรมชุมชนภาคอีสาน ให้ภาพขบวนการเสื้อแดงในจังหวัดอุบลฯ ซึ่งมีหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มมีความอิสระ ไม่ขึ้นกับการนำของ นปช.ส่วนกลาง แต่มียุทธศาตร์ที่สอดคล้องกันคือเรื่องความไม่เป็นธรรม, 2 มาตรฐาน, ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และประชาธิปไตย เหตุการณ์เผาศาลากลางในวันที่ 19 พ.ค.53 มีความซับซ้อนและมีเงื่อนไขพอสมควร มีคนที่อยากย้ายศาลากลางเยอะ แต่คนที่ต้องรับผิดคือประชาชน ก่อนไฟไหม้ศาลากลาง มีเสียงปืน มีคนเห็นแสงไฟแวบจากศาลากลาง และมีข่าวว่าผู้หญิงตาย ถูกนำส่งโรงพยาบาล นี่เป็นจุดที่ทำให้มวลชนไม่พอใจ โกรธแค้น บุกเข้าศาลากลางอีก แต่ไฟซึ่งมีคนเห็นว่าเกิดจากชั้น 2 นั้น เกิดจากใครยังเป็นปริศนา คำพอง เทพาคำ ผอ.กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองวารินชำราบ จ.อุบลราชธานียืนยันว่าวิทยุชุมชน ซึ่งเป็นสื่อสำคัญในกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ได้มีเนื้อหายั่วยุปลุกระดมให้เผาศาลากลาง เพียงแต่เชิญชวนให้ไปแสดงพลังที่ศาลากลางเพื่อกดดันส่วนกลาง ซึ่งกำลังมีการล้อมปราบกันอยู่ เนื่องจากศาลากลางเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจรัฐ การเผายางก็เป็นเพียงสัญลักษณ์ทางการเมืองเท่านั้นนอกจากนี้ การบุกเข้ายึดศาลากลางเพื่อกดดันในเรื่องนโยบายเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว โดยประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับความเดือดร้อน แต่ทุกครั้งมีการควบคุมจากเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด แต่ในครั้งนี้ เป็นคำถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่จึงรีบถอนกำลังออก พ.ต.ท.ไอศูรย์ สิงหนาท รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลฯ กล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ได้รับมอบหมายให้เจรจากับแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอุบลหลายครั้ง ยืนยันว่า กลุ่มคนเสื้อแดงอุบลเป็นคนที่มีเหตุผล ในช่วงเหตุการณ์เผาศาลากลาง ตนได้รับมอบหมายให้คุมกำลังมาที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านั้นถูกเรียกตัวกลับเพื่อให้ไปเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดง แต่แล้วเมื่ออุบลฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ผู้บังคับบัญชาก็เปลี่ยนใจ บอกไม่มีการเจรจา ใช้กฎหมายอย่างเดียว และจากข้อมูลที่ได้รับจากตำรวจและทหาร พบว่า จุดที่ทำให้เหตุการณ์บานปลาย คือ คนที่เข้าไปในศาลากลางถูกยิง และมีข่าวลือว่ามีคนตาย มวลชนจึงโกรธแค้น และบุกเข้าไปอีก จนเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้น ทั้งนี้ หน่วยที่ใช้ปืนในวันนั้นคือ มณฑลทหารบกที่ 22 (มทบ.22) ฝ่ายผู้เข้าร่วมการประชุมจากจังหวัดอุบลฯครั้งนี้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์เผาศาลากลางอุบลฯ มีข้อสังเกต และสิ่งที่เป็นปัญหาหลายอย่าง เช่น เมื่อมีการตัดสัญญาณจากเวทีที่กรุงเทพฯ ปริมาณมวลชนที่ชุมนุมจะเพิ่มขึ้นในทันที, เสียงปืนที่เกิดขึ้น นอกจากยิงออกมาจากศาลากลางแล้ว ยังยิงมาจากภายนอกศาลากลาง ผู้ที่ถูกยิงบาดเจ็บเป็นนักข่าว, เทศบาลนครฯ อุบลฯ ซึ่งมีรถดับเพลิงประมาณ 20 คัน ได้รับคำสั่งให้ออกปฏิบัติงานเพียงคันเดียว ในสภาพที่ไม่มีน้ำ รถตำรวจ รถตู้ ที่ถูกเผาในวันนั้นก็ล้วนเป็นรถเก่า, มีการข่มขู่คุกคามแม้กระทั่งเด็กที่เป็นลูกของผู้ต้องสงสัย เพื่อให้พ่อเข้ามอบตัว ตลอดจนมีกรณีการจับผิดตัว คนที่ถูกจับกุมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมเลย ซึ่งในชั้นสอบสวนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอก็ระบุว่าจับผิดตัว แต่ก็ไม่มีการปล่อยตัว ปัจจุบันก็ยังถูกคุมขังอยู่ ไม่ได้รับการประกัน ทั้งนี้ด้านพ.ต.ท.ไอศูรย์ สิงหนาท ยังให้ข้อมูลที่ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้ตรวจสอบเรื่องการจับกุมผิดตัวและพบว่าเป็นการจับผิดเนื่องจากรูปถ่ายในหมายจับนั้นเป็นบุคคลที่เป็นพี่ชายซึ่งหน้าคล้ายกับน้องชายผู้ถูกจับกุม ตอนนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ส่วนกรณีเผาศาลากลางจังหวัดมุกดาหารตัวแทนเจ้าหน้าที่อ้างเสื้อแดงค้ายาเสพติด ขโมยอาวุธใช้การชุมนุมบังหน้าทำเป็นขบวนการนายธนะชัย เพชรสงฆ์ ผู้บังคับหมวดกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดมุกดาหาร เป็นผู้มาให้ข้อมูล โดยนำเสนอข้อมูลของหน่วยงานความมั่นคง ตั้งแต่ก่อนการชุมนุม ซึ่งมีคนเสื้อแดงอยู่หลายกลุ่ม มีวิทยุชุมชนเป็นสื่อกลาง วันเกิดเหตุ มีการปราศรัยปลุกระดมโดยการอ้างเหตุการณ์ที่ราชประสงค์ และเหตุการณ์เผาศาลากลางที่จังหวัดอื่น รวมทั้งอ้างว่ามีคนมุกดาหารตาย 2 คน โดยเชื่อว่ามีขบวนการเกี่ยวเนื่องกันกับจังหวัดอุบลฯ เนื่องจากใช้สถานการณ์คล้ายคลึงกัน จากนั้นมีคนจ้างสามล้อรับจ้างให้ขนยางรถยนต์เข้าไปกองหน้าอาคารศาลากลางหลังเก่า และจุดไฟ ตำรวจพยายามเข้าไปดับ แต่ดับไม่อยู่ มีการพุ่งเข้าทำร้ายตำรวจ จากนั้นตำรวจถอนกำลังออกเพราะควันไฟ มีคนโยนยางขึ้นไปเผาชั้น 2 แต่เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ได้ เพราะคนร้ายมีค้อนปอนด์ เหล็กแหลม ไม้ยาว ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เข้าไปเผาเพราะต้องการงบประมาณ รถดับเพลิงถูกสั่งมาเตรียมพร้อมอยู่ด้านนอกศาลากลาง แต่ไม่ให้เข้าข้างใน เนื่องจากถ้าเข้าไปจะถูกปล่อยน้ำ ปล่อยลมยาง นายธนะชัยยังเปิดเผยอีกว่า ตามข่าวที่ได้รับมาคนเสื้อแดงมีการฝึกอาวุธในประเทศเพื่อนบ้าน ทุกครั้งที่มีการชุมนุมใหญ่ จะมียาบ้าลักลอบข้ามแดนร่วมขบวนทุกครั้ง กลุ่มผู้ค้าของเถื่อนและล็อตเตอรี่เกินราคา(120บาท)ก็สนับสนุนด้วยเงินบริจาคครั้งละ 2 พันบาทบ้าง 5 พันบาทบ้าง นอกจากนี้ การชุมนุมแต่ละครั้งก็เป็นการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ไม่ให้ไปจับกุมปราบปรามการกระทำผิด ทนายอานนท์โต้ขอหลักฐานก่อนปรักปรำ นายอานนท์ นำภา ทนายความจากสำนักราษฎรประสงค์ ซึ่งรับเป็นทนายให้กับจำเลยในคดีนี้ ให้ข้อมูลแย้งว่าข้อมูลที่นายธนะชัย กล่าวมาทั้งหมดไม่ปรากฏอยู่ในสำนวนคดีที่สืบมา ซึ่งเป็นปากคำของประจักษ์พยานในเหตุการณ์เกือบ 80% ข้อเท็จจริงก็คือ การขนยางเข้าไปในศาลากลางเพื่อเป็นการกดดันรัฐให้หยุดฆ่าประชาชน เมื่อยางไปกองอยู่หน้ามุขศาลากลาง ตำรวจซึ่งตรึงกำลังอยู่ตรงนั้นก็ไม่ได้ขนยางหนี ต่อมา ผู้ชุมนุมเผายางก็ไม่มีตำรวจแม้แต่นายเดียวดับไฟ การเผาในชั้น 2 ก็ไม่มี เพราะรองผู้ว่าฯ ซึ่งเบิกความว่าอยู่ในศาลากลางตลอดก็ไม่ได้กล่าวถึง อาวุธปืน ระเบิดไม่มีการยึดได้ในที่เกิดเหตุ ผู้ชุมนุมซึ่งถูกตีจนหัวแตกหลายคนและถูกจับกุมในวันนั้น ปัจจุบันนี้ หลายคนอัยการสั่งไม่ฟ้อง เรื่องการลักลอบขนยาบ้าเมื่อมีการชุมนุมก็เป็นการให้ร้ายคนเสื้อแดงเกินไป ถ้านายธนะชัยอยู่ในศาลเจอตนซักแน่ ผู้เข้าร่วมประชุมจากจังหวัดมุกดาหาร แสดงความคิดเห็นโดยสะท้อนว่าการให้ข้อมูลของนายธนะชัยแสดงถึงความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่รัฐในด้านการข่าว และทัศนคติต่อคนเสื้อแดง ซึ่งส่งผลให้การตัดสินใจแก้ปัญหาผิดพลาด ก่อนเกิดเหตุเผาศาลากลาง ผู้ชุมนุมได้ขอพบผู้ว่าฯ แต่ผู้ว่าฯ ปฏิเสธที่จะมาพบ กลับส่งรองผู้ว่าฯ มาต่อว่าว่าผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมาย จะต้องจับกุม ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เหตุการณ์ในวันนั้นบานปลายจนแกนนำไม่สามารถควบคุมได้ นายสมชาย หอมลออ ประธานในการรับฟังข้อเท็จจริงครั้งสุดท้ายนี้ กล่าวสรุปว่า มีข้อเท็จจริงที่ต่างกัน ซึ่ง คอป.จะต้องตรวจสอบต่อไป และค้นหาสาเหตุของความรุนแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่กรณีสำคัญ คือ การที่ประชาชนเป็นผู้เสียหายโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกกรณีพนักงานสอบสวนและอัยการจะสรุปว่าไม่รู้ว่าใครทำ ซึ่งการที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคนใดเลยถูกดำเนินคดีเป็นปัญหามากต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมในประเทศ เป็นปัญหาคาใจ คับแค้นใจของประชาชน ซึ่งจะปะทุขึ้นมาเมื่อมีโอกาส ภายหลังเสร็จจากการประชุมนายธนะชัย เพชรสงฆ์ ได้เข้ามาพูดคุยกับผู้เข้าร่วมว่าที่ตนกล่าวเช่นนั้น เพราะต้องทำการปกป้องเจ้าหน้าที่ที่เป็นลูกน้องของตนเนื่องจากถูกกล่าวหาว่ารู้เห็นเป็นใจ | |
http://redusala.blogspot.com |
ดาวน์โหลดคลิ๊ปคนเสื้อแดง
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
สืบพยานเผาศาลากลางนัด 6 : พยานรับดูจากวิดีโอไม่อยู่ในเหตุการณ์จำวันที่ไม่ได้ | |
เ คดีเสื้อแดงเผาศาลากลางมุกดาหารสืบพยานโจทก์นัด 6 พนักงานสอบสวนขึ้นให้การเพียงปากเดียว บอกไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพียงแต่ดูภาพและ คลิป แล้วประเมินว่าจำเลยแต่ละคนน่าจะมีส่วนร่วมในการเผา 18 เมษายน 2554 ศาลจังหวัดมุกดาหารสืบพยานโจทก์คดีเผาศาลากลางมุกดาหารเป็นนัดที่ 6 โดยมีจำเลยซึ่งได้รับการประกันตัวออกมาแล้วทั้งหมด 29 คน และทนายจำเลยจากสำนักกฎหมายราษฎรประสงค์และพรรคเพื่อไทยรวม 5 คน มาถึงศาลโดยพร้อมเพรียงกัน ทั้งนี้ก่อนหน้าที่พยานโจทก์จะขึ้นเบิกความ ทนายจำเลยได้แถลงคัดค้านพนักงานอัยการคนใหม่ที่เข้ามารับผิดชอบคดีแทนอัยการคนเก่า ซึ่งย้ายไปแล้วนั้น เนื่องจากพนักงานอัยการคนใหม่เป็นคณะ กรรมการที่ร่วมสอบสวนจำเลยมาตั้งแต่ต้น ศาลให้ทนายจำเลยทำคำแถลงเป็นทางการมา จากนั้น พ.ต.ท.สนธศักดิ์ สร้อยผาบ จากสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหารขึ้นเบิกความเป็นพยานโจทก์ในฐานะที่เป็นพนักงานสอบสวนร่วมกับดีเอสไอ พ.ต.ท.สนธศักดิ์ให้การว่าในวันเกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2553 จำวันที่ไม่ได้ ในตอนเช้าได้รับแจ้งเหตุจากวิทยุสื่อสารว่า มีกลุ่มคนเสื้อแดงเผา ยางรถยนต์อยู่ที่ถนนแก้วกินรี ข้างศาลากลางจังหวัด พยานไม่ได้ออกมาดูเหตุการณ์ แต่ติดตามฟังข่าวอยู่ตลอด ประมาณบ่ายโมง พยานซึ่งยังประจำอยู่ที่โรง พักได้เห็นควันไฟลอยขึ้นบนท้องฟ้าตรงบริเวณศาลากลาง ต่อมา ประมาณ 16.30 น. พยานขับรถกลับบ้านได้ผ่านบริเวณสี่แยกเห็นศาลากลางหลังเก่าถูกไฟ ไหม้แล้ว แต่พยานไม่ได้เข้าไปดูเหตุการณ์ใกล้ชิด หลังจากนั้น ทราบว่ามีการจับกุมคนร้ายได้ในที่เกิดเหตุ ประมาณ 15-16 คน วันต่อมา พยานได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพนักงานสอบสวนร่วมในคดีนี้ และได้สอบปากคำผู้ต้องหา 3-4 คน โดยแจ้งข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ เบื้องต้น ทั้งหมดให้การปฏิเสธ จากนั้น พยานได้รับมอบหมายให้สกรีนและดึงภาพของแต่ละคนที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม จากภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวที่ได้จากกล้อง ของนักข่าว ตำรวจ อส. และประชาสัมพันธ์จังหวัด พยานได้ให้การถึงพฤติการณ์ของจำเลยแต่ละคนทั้งที่ถูกจับในที่เกิดเหตุ และถูกออกหมายจับในเวลาต่อมา ซึ่งมีทั้งคนที่ไม่ปรากฏภาพอยู่ในศาลากลางเลย คน ที่ปีนรั้วเข้าศาลากลาง คนที่ยืนดูใกล้ๆ หรือเดินไปเดินมาในศาลากลางโดยไม่มีพฤติการณ์ร่วมเผา คนที่ช่วยเพื่อนกลิ้งยางไปกองไว้หน้าศาลากลาง หรือสามล้อ รับจ้างขนยางเข้ามาในรั้วศาลากลาง ในขณะยังไม่เกิดเหตุไฟไหม้ คนที่เปิดน้ำและปล่อยลมยางรถดับเพลิง ทั้งก่อนเกิดและขณะไฟไหม้ คนที่จุดไฟใส่กองยาง นอกศาลากลาง คนที่โยนยางยังไม่ติดไฟเข้าไปในศาลากลาง ขณะที่มีไฟลุกไหม้ คนถือขวด คนถือไม้จะไปกระทุ้งกระจกหน้าต่าง ตลอดจนคนที่มีลักษณะเป็น แกนนำเจรจากับรองผู้ว่าฯ แกนนำที่ไปในทุกที่ที่มีการลำเลียงยาง และแกนนำที่มีนกหวีดคอยสั่งการให้ลำเลียงยาง ซึ่งภาพถ่ายประกอบที่นำส่งศาลในวันนี้ ปรากฏอยู่ใน VCD ที่อัยการนำส่งต่อศาลในวันตรวจหลักฐานเพียงบางส่วนเท่านั้น ต่อมา ทนายจำเลยได้ทำการซักค้าน พยานยอมรับว่า คำให้การในวันนี้พยานได้ประมวลจากการดูภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว และประเมินพฤติการณ์ของจำเลย เอง ว่าอยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์และน่าจะมีส่วนร่วมในการก่อเหตุ โดยพยานไม่ได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์ และไม่ได้สอบถามประจักษ์พยาน อีกทั้งภาพนิ่งและภาพ เคลื่อนไหวก็ไม่ได้ระบุวันเวลาที่ถ่าย พยานเองทราบว่าในตอนเช้าที่มีการเผายางที่ถนนไม่มีทรัพย์สินเสียหาย เป็นการเผาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ไม่ให้รัฐบาลใช้ ความรุนแรงกับประชาชน และทราบจากคำให้การของจำเลยและพยานบางคนว่า ในวันเกิดเหตุมีทั้งการกลิ้งยางเข้าและออกจากหน้าศาลากลาง มีทั้งกลุ่มคนที่ พยายามห้ามปรามไม่ให้เกิดการเผายาง แต่ตามภาพที่นำส่งศาล จำเลยกำลังกลิ้งยางเข้าหรือออก จำเลยกำลังห้ามปรามหรือไม่ จำเลยจะช่วยเผาหรือช่วยดับ ขวดที่จำเลยถือจะเป็นขวดน้ำหรือน้ำมัน พยานไม่ทราบ นัดสืบอีกครั้งจันทร์ที่ 25 เมษายน 2554 ณ ศาลจังหวัดมุกดาหาร | |
http://redusala.blogspot.com |
Thai opposition MP injured in shooting | |
Prime Minister Abhisit Vejjajiva’s dissolution of parliament became effective yesterday with an election set for July 3, but the Bangkok Post reports:
BP: Don’t want to start with a semantic debate, but BP was a little curious that the Bangkok Post described Pracha as a former MP as BP thought he was a current MP. A Thai Rath storyfrom May 4, 2011 describes him as a Puea Thai MP. Thai Rath‘s article on the shooting describes him as Puea Thai MP. Other papers to describe him as an MP include Krungthep Turakit, Khao Sod although Matichon describes him as a former MP. Now, because of the dissolution, per Section 106(1) of the 2007 Constitution, Pracha has lost his status as an MP, but then again because of the dissolution of parliament all Ministers, per Section 180(2), also lose their status as Ministers although they do basically become caretaker Ministers per Section 181. However, the Bangkok Post still describes Ministers as Ministers in breaking news reports yesterday which was after the dissolution became effective. Perhaps, we can find a way to refer to MPs who have just lost their status because it is confusing. Perhaps, caretaker MP, incumbent MP, some other wording or if referring to him as a former MP then state he was an MP before the dissolution. The reason is that there is a difference between shooting a former MP, which can convey the message that they are no longer involved in politics, versus shooting someone who was an MP 2 days ago. If one reads the Bangkok Post article it is not clear about his status. Ok rant ended. Who is Pracha? Pracha as elected an Thai Rak Thai MP in Samut Prakarn in 2001, re-elected in 2005, in 2006, and then as a PPP MP in 2007 and became a Puea Thai MP on December 7, 2008 after dissolution of PPP (Thai Rath biography). Pracha has (still is?) been very close to Thaksin: November 2009 – Announces he will visit Thaksin with other Puea Thai MPs in Phnom Penh;
Having said that in September 2010 Bhum Jai Thai stated that there were trying to persuade Pracha to leave Puea Thai and join Bhum Jai Thai. TAN:
Pracha denied this per the Bangkok Post:
BP: Then again, by January 2011,* Pracha said he was ready to speak to Thaksin to help the seven Thais – remember them including Veera Somkwamkid who is still there! – detained in Cambodia. He has been in the Thai press last week for criticizing the government over the final cabinet meeting which spent out large amounts of money and is described by Channel 3 as a senior member/leader (แกนนำพรรค) of Puea Thai on April 18. Hence, how he is currently viewed seems to be that his from Puea Thai. On the shooting. Matichon states he was shot in Phra Samut Chedi district in Samut Prakarn around 8:30 pm. He was shot 4-5 times and hit in the shoulder once. Thai Rath states that from the initial investigation Pracha’s car had passed the Phra Pradeng intersection by 100 metres. Assailant(s) had followed them and fired the weapon from the left side of the driver’s seat and shots hit the head pillow and deflected onto shoulder. Altogether, 9 shots were fired but one shot grazed so not a serious injury (ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า ขณะที่นายประชา กำลังขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเลยสามแยกพระประแดงมาประมาณ 100 เมตร ได้มีคนร้ายขับรถตามมา และใช้อาวุธปืนยิงทางด้านซ้ายที่เป็นที่นั่งคนขับ โดยกระสุนถูกหมอนรองศรีษะ แล้วกระเด็นเข้าไหล่ของนายประชา แต่จากการตรวจสอบพบคนร้ายยิงทั้งหมด 9 นัด แต่โดยเพียงถากๆ นัดเดียว เลยทำให้อาการไม่สาหัส). In regards to the vehicle used it is unclear what vehicle used as Pracha gave a statement that there was a motorcycle with 2 people on it, but at the place of incident it has not been concluded what vehicle and the will need to come to a conclusion (ส่วนคนร้ายขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ใช้ยานพาหนะประเภทใด เนื่องจากการสอบถามนายประชาให้การว่า รถจักรยานยนต์ และมาด้วยกันทั้งหมด 2 คน แต่ในจุดเกิดเหตุยังไม่ได้สรุปว่าเป็นรถอะไร ซึ่งตำรวจจะต้องสรุปอีกครั้งหนึ่ง). Krungthep Turakit quotes Pracha as saying that he was shot at 5 times and hit by two bullets in his right shoulder, but as it was not that serious he was able to escape (ยิง 5 นัดเข้าที่กระจกฝั่งคนขับ เข้าที่บริเวณไหล่ข้างขวา 2 นัดไม่สาหัส จึงขับหนี). BP: The first of many shootings? Then the next question is, who ordered his shooting? A shot fired in the direction of the head, but that hit the pillow on the driver’s side is a clear attempt to kill. It was just fortunate that the shooter was not very skilled…. Source: Matichon *Corrected this from 2001 to 2011 | |
http://redusala.blogspot.com |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)