นัดตรวจพยานคดีแกนนำ กปปส. ความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฎ 2 ต.ค.

Fri, 2015-06-26 14:49
ศาลอาญาเลื่อนนัดตรวจพยานแกนนำ กปปส. ความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฎ อั้งยี่ ซ่องโจร และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป เป็น 2 ตุลาคมนี้

26 มิ.ย. 2558 สำนักข่าว TNN รายงานว่าศาลอาญาได้นัดโจทก์และจำเลยมาตรวจพยานหลักฐาน หลังพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนาย สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ,นายสกลธี ภัททิยกุล ,นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และนายเสรี วงษ์มณฑา แกนนำ กปปส.ในฐานะจำเลยที่ 1-4 ความผิดฐานร่วมกันเป็นกบฎ อั้งยี่ ซ่องโจร และมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยมีอาวุธ ร่วมกปปส.ได้ร่วมกันชุมนุมและบุกรุกสถานที่ราชการหลายแห่ง เมื่อถึงเวลานัด ทนายจำเลยได้แถลงขอเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานออกไปก่อน เนื่องจากเอกสารหลักฐานในคดีมีจำนวนมาก ต้องใช้เวลาตรวจสอบเอกสาร ศาลพิจารณาแล้วจึงอนุญาตและนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้ง ในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ เวลา 09.00 น. พร้อมกำชับ ให้จำเลยจัดทำเอกสารให้แล้วเสร็จ

ศาลทหารอนุมัติหมายจับ 14 น.ศ.ขบวนการประชาธิปไตยใหม่

Fri, 2015-06-26 17:24


        26 มิ.ย. 2558 เว็บไซต์ไทยโพสต์รายงานเมื่อเวลา 16.32 น. ว่า ที่ศาลทหารกรุงเทพฯ พ.ต.ท.มานิตย์ ทองขาว พนง.ผู้ชำนาญการพิเศษ สน.สำราญราษฎร์ ได้ขอหมายจับจากศาลทหารฯ ลงวันที่ 26 มิ.ย. 2558 โดยจับกุม กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ประกอบไปด้วย

• 1.นายรังสิมันต์ โรม 
• 2. นายวสันต์ เสดสิทธิ 
• 3.นายทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ 
• 4.นายพายุ บุญโสภณ 
• 5.นายอภิวัฒน์ สุนทรารักษ์ 
• 6.นายรัฐพล ศุภโสภณ 
• 7.นายศุภชัย ภูคลองพลอย 
• 8.นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ 
• 9.นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ 
• 10.นายสุวิชา พิทังกร 
• 11.นายปกรณ์ อารีกุล 
• 12.นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา 
• 13.นายพรชัย ยวนยี 
• 14. น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว

          ในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด มิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร และรวมกันมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมืองที่ใดๆที่จำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป อันเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 3/2558 ข้อ 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 83

          ทั้งนี้มีหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาน่าจะได้กระทำความผิดซึ่งมีอัตราโทษอย่างสูงเกิน 3 ปี และมีเหตุอันควร เชื่อว่าจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ศาลจึงออกหมายจับบุคคลดังกล่าว

          ไทยโพสต์รายงานด้วยว่า หลังจากที่ศาลทหาร ได้ออกหมายจับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบก็ได้เดินทางไปยังสวนเงินมีมา โดยได้ทำการล้อมบริเวณดังกล่าวไว้ เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสว่ากลุ่มนักศึกษาจะใช้บริเวณดังกล่าวจัดกิจกรรมแถลงข่าว

        ทั้งนี้ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ มีการอนุมัติหมายจับทั้ง 14 คนแล้ว ในข้อหาเดียวคือ ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่3/2558

'ประวิตร ' เผยเตรียมเรียกเบื้องหลังนักศึกษามาปรับทัศนคติ

Fri, 2015-06-26 18:06
พล.อ.ประวิตร ย้ำมีกลุ่มการเมืองหนุนนักศึกษาดาวดิน จ่อเรียกปรับทัศนคติยันใช้กฎหมายปกติไม่เพิ่มมาตรการรับมือ ไม่หวั่นเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำขยายเป็นกลุ่มใหญ่ วอนนักศึกษาแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

26 มิ.ย. 2558 สำนักข่าวไทยรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมสภาทหารผ่านศึก องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ถึงกรณีการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มดาวดิน ว่า การชุมนุมดังกล่าว ไม่มีความรุนแรงเป็นเพียงการแสดงออกทางความคิด แต่การชุมนุมของกลุ่มดังกล่าว ตนทราบว่ามีผู้ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นกลุ่มนักการเมืองเก่า ที่มีความต้องการให้เกิดความวุ่นวาย และทางคสช. จะเรียกผู้ที่ให้การสนับสนุนเหล่านั้น มาพูดคุยเพื่อปรับทัศนคติและทำความเข้าใจต่อไป แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่าเป็นบุคคลใด

รมว.กลาโหม กล่าวว่า ทางรัฐบาลมีความเข้าใจนักการเมืองทุกกลุ่มแต่ขอให้รัฐบาลได้ทำงานก่อน ขณะนี้มีปัญหาให้แก้ไขหลายเรื่องทั้งเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแก้ไขปัญหาบ้านเมือง รวมถึงการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง รัฐบาลและคสช. จะทำตามสัญญาเดินหน้าตามโรดแมป และไม่มีการยืดระยะเวลาแต่อย่างใด ซึ่งเมื่อร่างรัฐธรรมนูญเสร็จและมีการเลือกตั้ง ก็หมดหน้าที่ คสช.

เมื่อถามว่าจะมีมาตรการรับมือที่เข้มงวดกับนักศึกษาที่จะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะมีกฎหมายปกติบังคับใช้อยู่แล้ว ไม่อยากให้ความสำคัญขนาดนั้น เพราะเป็นเพียงกลุ่มเล็ก ๆ

เมื่อถามว่าเกรงหรือไม่ว่าการออกมาของกลุ่มเล็กจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวและเกิดการชุมนุมใหญ่ตามมา พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีอย่างแน่นอน เพราะสามารถพูดคุยและทำความเข้าใจกันได้ และเชื่อว่านักศึกษาส่วนใหญ่เข้าใจการทำงานของรัฐบาลดี คสช.ไม่ได้มาเปลี่ยนวิธีการให้แตกต่างไปจากปกติ จึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ไม่มีการยื้อสถานการณ์ระหว่างนักศึกษาและเจ้าหน้าที่ แต่จะพยายามทำความเข้าใจกันให้ได้มากที่สุด

“วันนี้ทุกคนต้องช่วยกันแก้ปัญหาความเดือดร้อน ของเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งก่อน อยากขอความร่วมมือนักศึกษา ให้หยุดเรื่องการเมืองก่อน อะไรที่เกิดความขัดแย้ง อย่าไปทำ รัฐบาลมีพื้นที่รับฟังความเห็นมากมาย แต่ขอให้ทำอย่างสร้างสรรค์ ” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ส่องคอมเม้นต์ปฏิกิริยาลูกเพจ ‘กองทัพนิรนาม’ ต่อ ‘ดาวดิน’ จากชื่นชมปี 56 สู่ถ่มถุยปี 58

Fri, 2015-06-26 19:08


         ในช่วงที่ผ่านมาบทบาทของกลุ่มนักศึกษาโดยเฉพาะกลุ่มดาวดิน หรือ กลุ่มเผยแพร่กฎหมายสิทธิมนุษยชนเพื่อสังคม ในการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารจนกระทั่งถูกจับกุมตัวถือเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมโดยเฉพาะในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งสนับสนุนและต่อต้าน โดยเฉพาะเพจ ‘กองทัพนิรนาม’ ปัจจุบันมียอดไลค์กว่า 2 แสน ซึ่งมีบทบาทตั้งแต่ปลายปี 56 ก่อนและระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. จนกระทั่งปัจจุบันมีการโพสต์และพูดถึงกลุ่มดาวดินทั้ง 2 ช่วงเวลา

        วันที่ 12 ก.ย.56 เพจกองทัพนิรนาม ได้โพสต์ภาพของนักศึกษากลุ่มดาวดิน ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพเหตุการณ์วันที่ 8 ก.ย.56 ที่นักศึกษากลุ่มนี้ร่วมกับกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย พยายามขอเข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นและกำหนดขอบเขตแนวทางการประเมินผลกระทบทางสิ่ง­แวดล้อมและสุขภาพ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการจัดทำรายงานการวิ­เคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) เพื่อประกอบการขอประทานบัตรแปลงที่ 76/2539 ของบริษัททุ่งคำ จำกัด เพื่อแสดงเจตจำนงคัดค้านกระบวนการดังกล่าว แต่ถูกปิดกั้นจากตำรวจกว่า 600 นายไม่ให้เข้าร่วมเวที

        โดยเพจ ‘กองทัพนิรนาม’ โพสต์ภาพพร้อม ระบุด้วยว่า ตำนาน ม.ขอนแก่นและมหาสารคาม ... กับการต่อต้าน เหมืองทอง ในจังหวัดเลย ภาพ ถูกถ่ายทอดโดย Roengrit Kongmuang จากนั้นมีผู้แสดงความเห็นท้ายโพสต์ในเพจสนับสนุนนักศึกษากลุ่มดังกล่าว ที่น่าสนใจดังนี้

• "กี่ครั้งแล้วที่ตำรวจทหารทำตัวเป็นขี้ข้านักการเมืองเลวย่ำยีนักศึกษา"
• "ขออนุญาตแบ่งปันความรักความสามัคคีของน้องนักศึกษาค่ะ"
• " เก่งแต่ประชาชนที่ไม่มีทางสู้ แต่ไอ้เหี้ยนั้นแม่งไม่จับ"
• "พวกนักศึกษา ม.ขอนแก่นและม.สารคาม ไปช่วยรุ่นพี่ท่านด่วน รวมพลังมันเล่นเน็ตเล่นเกมส์"
• "พวกคุณสุดยอดเลยครับ"
• "ขอชื่นชมน้องๆๆนักศึกที่ทำเพื่อชาติและประชาชน"

เป็นต้น

       ขณะที่เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มดาวดินและนักศึกษานักกิจกรรมซึ่งถูกดำเนินคดีหลังกิจกรรมรำลึก 1 ปี รัฐประหาร หน้าหอศิลป์ฯ กทม. เดินทางเพื่อเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ตร.ที่ สน.ปทุมวัน เพจ ‘กองทัพนิรนาม’ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย พร้อมระบุว่า กลุ่ม นศ.เริ่มจัดแถว จะเดินไปหน้า สน. ส่วนตำรวจ ตั้ง 5 แถวรอรับ อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นกลับเป็นไปในลักษณะตรงข้าม คือแสดงออกว่าไม่เห็นด้วยกับกิจกรรมดังกล่าว โดยมีความเห็นที่น่าสนใจดังนี้


      "อย่าไปตั้งแถวเลย เข้าทางพวกมัน พวกมันต้องการให้เป็นประเด็นเป็นข่าวอยู่แล้ว เพราะระดมนักข่าวมากชนิดงานแจกรางวัลออสกาก็มิปาน สู้ปล่อยพวกมันมาจะทำอะไรก็ปล่อย อย่าไปสนใจใส่ใจ แต่ทำผิดปุ๊บจับแม่งเลยพร้อมแจ้งข้อหา ส่งเสียงรบกวน กีดขวางทางจราจร เชื่อเหอะไอพวกนี้มันไม่มีอุดมการณ์นอกจากอุดมเงิน มันไม่รอนาน มันต้องหาทางสร้างจุดสนใจ ยิ่งไปสนใจก็จะเข้าทางมัน"

       "ไอ้เด็กเวร สร้างคุณงามความดีอะไรให้ประเทศชาติบ้าง คิดแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง เสนอแนวคิดมาซิ ทำแบบนี้ทำไม นักการเมืองที่ขี้โกงทำไมพวกเองไม่คิดแก้ปัญหา"

      "โง่ขนาดถูกยุยงได้ ลุงเสียใจที่บ้านเมืองลุงมีนักศึกษาแต่ปัญญาอ่อน แทนที่จะร่ำเรียนวิชากลับมาบ้าไม่เข้าเรื่อง ได้กันคนละกี่อัฐกี่เฟื้องว่ะ"

       "ไปทำไมสน. ไปค่ายทหารเลยดีกว่าหลายครั้งแล้วนะพวกมึงอ่ะ"

เป็นต้น

        สำหรับปฏิกิริยาต่อการแสดงออกของนักศึกษาที่กลับไปกลับมาไม่ได้มีเพียงฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลทหารเท่านั้น ฝ่ายที่สนับสนุนรัฐบาลจากการเลือกตั้งก็มีการแสดงออกในเชิงคัดค้านบทบาทของนักศึกษาโดยเฉพาะกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ต่อต้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์เมื่อช่วงปลายปี 56 ถึงปี 57 ด้วยเช่นกัน อย่างที่ รัฐพล ศุภโสภณ หรือ บาส LLTD[1] หนึ่งให้นักศึกษาที่ถูกจับกุมดำเนินคดีฝ่าฝืนประกาศ คสช. จากกิจกรรมรำลึก 1 ปี รัฐประหาร หน้าหอศิลป์ฯ ดังกล่าว ด้วยว่า

       “คนที่ว่านักศึกษาไม่ยอมออกมาทำกิจกรรม ผมเห็นความย้อนแย้งหลายอย่างมาก หนึ่งเมื่อนักศึกษาฝ่ายตรงข้ามของตัวเองทั้งเสื้อเหลืองเสื้อแดงออกมา ก็จะมีการโจมตีว่าออกมาทำไม แต่พอถึงคราวฝ่ายตัวเอง ตั้งคำถามว่าทำไมนักศึกษาไม่ออกมา พอออกมา(ฝ่ายตัวเอง)ก็ดีใจกัน ผมคิดว่าสุดท้ายเด็กต่างหากที่กลายเป็นเครื่องมือการโทษการโบ้ยความผิด ที่ผู้ใหญ่ทำลงไป สังคมที่ผู้ใหญ่สร้างมาให้มันเป็นสังคมที่เด็กต้องรับผิดชอบในวันหน้า และผมคิดว่าผู้ใหญ่กำลังโยนมันให้แบบไม่ได้ยินดียินร้ายว่าเด็กจะได้อะไรไป”

หมายจับน.ศ. 2 ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช.-ม.116 คาดฝากขังศาลทหารคืนนี้

Fri, 2015-06-26 17:35

26 มิ.ย. 2558 เมื่อเวลา 17.20 น. ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ เข้ามาในสวนเงินมีมา ซึ่งเป็นที่พักของกลุ่มนักศึกษาที่ถูกออกหมายจับ โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับผู้ต้องหาทีละราย ก่อนจะให้มานั่งรวมกัน โดยไม่มีการใส่กุญแจมือ ขณะที่เพื่อนนักกิจกรรม-นักศึกษาคนอื่นๆ ที่ไม่โดนหมายจับ ร่วมร้องเพลงให้กำลังใจอยู่ในบริเวณเดียวกัน

17.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวทั้ง 14 คนขึ้นไปบนรถควบคุมผู้ต้องหาคันเดียวกัน โดยไม่มีผู้ติดตามขึ้นไปด้วย และยังไม่ทราบจุดหมายปลายทาง ด้านเพื่อนร้องเพลง "บทเพลงของสามัญชน" ส่ง

เวลาประมาณ 18.00 น. รถควบคุมผู้ต้องหาไปถึง สน.พระราชวังแล้ว ขณะที่ทีมทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนไปถึงแล้วเช่นกัน

18.15 น. ภาวิณี ชุมศรี ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ว่า นักศึกษาและนักกิจกรรมทั้ง 14 คนที่ถูกออกหมายจับและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวจากสวนเงินมีมามายัง สน.พระราชวัง เบื้องต้น นักศึกษาแจ้งไว้ว่าจะไม่ยื่นประกันตัว หากไม่มีการยื่นประกันตัวในชั้นตำรวจ ตามกระบวนการ คาดว่าทั้งหมดน่าจะนอนในห้องขัง สน.คืนนี้ และในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันเสาร์ ศาลทหารเปิดทำการครึ่งวัน พนักงานสอบสวนคงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปเพื่อขอฝากขังผลัดแรกกับศาลทหาร

มีรายงานว่า สุลักษณ์ ศิวรักษ์ เดินทางถึง สน.พระราชวัง ขอเข้าเยี่ยม 14 น.ศ. ที่ถูกจับกุมจากสวนเงินมีมา แต่เจ้าหน้าที่ ตร. ไม่อนุญาต

"เก่งจริงก็จับผมไปอีกคน" สุลักษณ์กล่าว

ก่อนหน้านี้ เพจเฟซบุ๊ก สุลักษณ์ ศิวรักษ์ โพสต์เมื่อเวลา 18.24 น. ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้แจ้งว่าจะเข้าไปที่สวนเงินในเวลา 18.00 น. แต่ปรากฏว่าตำรวจกลับบุกไปที่สวนเงินมีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานของตนเอง และจับทั้ง 14 คนไปเสียก่อน ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน

หมายจับนศ. 2 ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช.-ม.116 คาดฝากขังศาลทหารคืนนี้

เวลาประมาณ 19.00 น. พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ต้องหาทั้ง 14 คนนั่งรออยู่ใน สน.พระราชวัง และทางตำรวจได้แจ้งว่า จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปขอฝากขังที่ศาลทหารในคืนนี้ แต่ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จากทางเจ้าหน้าที่

ทนายความระบุว่า หากนำตัวไปฝากขังผลัดแรก 12 วันที่ศาลทหาร ผู้ต้องหาทั้งหมดตกลงกันว่าจะไม่ประกันตัว แต่ทางทนายความเตรียมจะยื่นคัดค้านคำร้องฝากขังของตำรวจต่อศาลทหาร ซึงหากคัดค้านสำเร็จผู้ต้องหาทั้งหมดจะได้ปล่อยตัวในคืนนี้ แต่หากไม่สำเร็จทั้งหมดจะถูกส่งตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยกเว้นนักศึกษาหญิง 1 คน จะถูกส่งไปทัณฑสถานหญิงกลาง

ทนายแจ้งด้วยว่า เหตุที่ต้องนำตัวผู้ต้องหามายัง สน.พระราชวัง เนื่องจากมีหมายจับทั้ง 14 คนฉบับล่าสุด ลงวันที่วันนี้ (26 มิ.ย.) ใน 2 ข้อหา คาดว่ามาจากเหตุการเคลื่อนไหวที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวานนี้ (25 มิ.ย.) คือ

1. ขัดคำสั่งที่ 3/2558 ข้อ 12 ที่คสช.ออกตามมาตรา 44 เรื่องห้ามมั่วสุมทางการเมือง โทษจำคุก 6 เดือน

2. ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 เรื่องการยั่วยุปลุกระดมประชาชน โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี

ทนายความกล่าวด้วยว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงมีกำลังใจที่ดี ภายในห้องสอบสวน เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เข้าเพียงผู้ต้องหาและทนายความเท่านั้น โดยในส่วนของทนายความจะต้องลงชื่อและถ่ายสำเนาบัตรทนายความแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านนอกเจ้าหน้าที่วางกำลังและนำรั้วมากั้นไม่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปใน สน. โดยด้านหน้าสน.ขณะนี้ มีผู้มาให้กำลังใจและนักข่าวทั้งไทยและเทศ รวมแล้วราว 50 คน