ชาวบ้านถูกสั่งห้ามจัดเวทีระดมข้อเสนอเรื่องที่ดินส่ง 'ปนัดดา' แกนนำชี้พูดไม่ได้ แต่มองตาก็เข้าใจ ชี้สถานการณ์ปลุกใจชาวบ้านสู้ พร้อมระบุ 103 รายถูกดำเนินคดี หมายเรียก 1,700 หวั่นอีก 30,000 รายถูกไล่ที่
15 ธ.ค. 2557 เหลาไท นิลนวล ผู้ประสานงานสมัชชาชาวนาชาวไร่ภาคอีสาน ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีเครือข่ายกลุ่มเกษตรกรภาคอีสานตอนบนไม่สามารถจัดเวทีเสวนาเรื่อง "การแก้ไขปัญหาป่าไม้-ที่ดิน และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนฉบับประชาชน" ที่อาศรมดอนแดง อ.กันทรพิชัย จ.มหาสารคาม เมื่อบ่ายวันนี้ เพื่อนำข้อเสนอไปเสนอต่อ มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 18 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับเครือข่ายทั่วประเทศ
เหลาไท เล่าว่า สองวันก่อนจัดงาน หน่วยงานความมั่นคงและผู้ว่าฯ แจ้งไม่อนุญาตให้จัดงานโดยอ้างกฎอัยการศึก จากนั้น วานนี้มีการนำตัวนายแหลมเหล็ก นิลนวล ไปคุยที่ค่ายทหารตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงสองทุ่ม เพื่อต่อรองไม่ให้มีการจัดงาน หากไม่ยอมจะควบคุมตัว โดยในเวทีมีการห้ามพูดใน 3 เรื่องคือ ห้ามวิจารณ์ คสช. ห้ามพูดเรื่องการเมือง และห้ามวิจารณ์รัฐบาล นโยบาย และให้พูดเพียงเรื่องวัฒนธรรมและการซ่อมแซมอาศรมเท่านั้น โดยเสนอตัวสนับสนุนการซ่อมแซมอาศรมด้วย
เหลาไท เล่าว่า สองวันก่อนจัดงาน หน่วยงานความมั่นคงและผู้ว่าฯ แจ้งไม่อนุญาตให้จัดงานโดยอ้างกฎอัยการศึก จากนั้น วานนี้มีการนำตัวนายแหลมเหล็ก นิลนวล ไปคุยที่ค่ายทหารตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงสองทุ่ม เพื่อต่อรองไม่ให้มีการจัดงาน หากไม่ยอมจะควบคุมตัว โดยในเวทีมีการห้ามพูดใน 3 เรื่องคือ ห้ามวิจารณ์ คสช. ห้ามพูดเรื่องการเมือง และห้ามวิจารณ์รัฐบาล นโยบาย และให้พูดเพียงเรื่องวัฒนธรรมและการซ่อมแซมอาศรมเท่านั้น โดยเสนอตัวสนับสนุนการซ่อมแซมอาศรมด้วย
เหลาไท กล่าวว่า สุดท้ายงานวันนี้ไม่ได้จัด โดยมีกองกำลังทหาร ตำรวจ กองอาสารักษาดินแดน (อส.) มากกว่า 60 นาย เข้ามาในพื้นที่ และขอรายชื่อผู้เข้าร่วมทุกคน พร้อมให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางรถของชาวบ้านที่เดินทางกลับด้วย
"ต้องขอบคุณทหาร แม้ไม่คุยกัน เรามองตาก็รู้ว่าทำให้พี่น้องฮึกเหิม" เหลาไทกล่าวและว่า กรณีนี้ปลุกจิตสำนึกในการทวงคืนพื้นที่ป่าของชาวบ้านกลับมา ขนาดไม่ได้คุยเรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองก็ยังห้าม ปิดหูปิดตาไม่ให้พูดถึงปัญหาของตัวเอง
เขามองว่า การปิดกั้นเช่นนี้เป็นการเรียกแขกของทหาร และทำตัวเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชนเสียเอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้อาจมีบางคนเคยชื่นชมทหาร แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ไม่ได้มีการพูดคุยวันนี้ แต่เมื่อคืนก็มีการประชุมแกนนำ โดยเหลาไทบอกว่า มีการรวบรวมประเด็นปัญหาและสรุปข้อเสนอกัน โดยขณะนี้มีพี่น้องในอีสานถูกดำเนินคดีจากนโยบายขอคืนพื้นที่ป่าแล้ว 103 ราย มีผู้ถูกออกหมายเรียก 1,764 ราย และหากมีการดำเนินนโยบายขอคืนพื้นที่ป่าต่อในอีกสามเดือนหน้า จะมีการขอคืนพื้นที่ป่า 5-6 ล้านไร่ มีประชาชนอีกราว 30,000 ราย จะถูกขอคืนพื้นที่
เครือข่ายได้ข้อสรุปที่จะเสนอ 5 ข้อ ได้แก่
1.ให้ยุติการข่มขู่ จับกุม ขับไล่ในพื้นที่ทำกินเดิมโดยทันที และอนุญาตให้มีการทำกินตามปกติ
2.ให้ชะลอการดำเนินคดีกับเกษตรกรไว้ชั่วคราว และให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาทนายความ และผู้ตรวจการแผ่นดิน เข้าตรวจสอบคดี
3.ให้เยียวยาเกษตรกรที่ถูกรื้อที่อยู่อาศัย ทำลายพืชเกษตรและสิ่งปลูกสร้าง ตามความเสียหายจริง และให้ทำกินในที่ดินเดิมตามปกติ
4.หากจะหยุดการทำลายทรัพยากรธรรมชาติให้รัฐบาลจับนายทุน ผู้บุกรุกใหม่ และยกเลิกโครงการรัฐและสัมปทานแก่เอกชน เช่น โครงการเขื่อน เหมืองแร่ ในพื้นที่ป่าทั่วประเทศ และ
5.ทบทวนให้มีการระงับประกาศ คสช.ฉบับที่ 64/2557 และ 67/2557 และแผนแม่บทป่าไม้ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข