วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2556

นักศึกษา ม.รามคำแหง เป็นคนที่ลั่นปืนจุด38 ใส่พลทหารธนะสิทธิ์ เวียง


          ดูชัด ๆโฉมหน้า นายธีรภัทร ทองฤทธิ์ นักศึกษา ม.รามคำแหง
เป็นคนที่ลั่นปืนจุด38 ใส่พลทหารธนะสิทธิ์ เวียงคำ ฆาตกร ตอนนี้อยู่ในคุก
"ไอ้กบฏเทพ" จะตามไปเร็วๆนี้


           จตุพร พรหมพันธุ์แกนนำนปช.กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกินขึ้น ที่ม.รามและราชมังคลา ในช่วงวันที่ 30 พ.ย. ถึง 1 ธ.ค.ซึ่งมีพี่น้องเสื้อแดงเสียชีวิติ3ศพและน้องนักศึกษารามเสียชีวิต 1 ศพ รวมน้องอาชีวะที่ขึ้นไปบนถึงและลงไม่ได้อีก 1 ศพ มีการปุกระดมโดย กปปส.นำโดยนายสุเทพ นายถาวร เสเนียม 1 เสียที่ตายว่าถูกคนเสื้อแดง หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นผู้ดำเนินการ และไม่มีการพูดถึง 3 ศพคนเสื้อแดง บัดนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมผู้ต้องหา ในคดีฆ่าพลทหารธนะสิทธิ์ เวียงคำ อายุ 22 ปี วันที่ 30 พ.ย. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน และได้ให้การสารภาพพร้อมของกลาง อาวุธปืน จุด38 โดยคนที่ลั่นกระสุนปืน ชื่อนายธีรภัทร ทองฤทธิ์ เป็นนักศึกษา ม.รามคำแหง เป็นอาวุธปืน จุด38 จำนวน 6 นัด สถานที่ยิงคือหอพักศรีจันดา 3 ซึ่งอยู่ในซอย โดยยิงจากบนหอพักลงมา เจ้าของปืน คือ นายนภดล แก้วมีจีน ซึ่งอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ เป็นเจ้าของอาวุธปืน และคนที่รับผิดต่อต่อความตายของพลทหารธนะสิทธิ์


               จตุพรแถลงว่า มีการปลุกกระดมโดยแกนนำ กปปส.นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายถาวร เสนเนียม ว่านักศึกษารามฯที่เสียชีวิตถูกสังหารโดยคนเสื้อแดงหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่มีการพูดถึงการเสียชีวิตของคนเสื้อแดงในเหตุการณ์ดังกล่าวซึ่งมีถึง 3ราย โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมผู้ต้องหา ในคดีฆ่าพลทหารธนะสิทธิ์ เวียงคำ อายุ 22 ปี หนึ่งในสามราย ของคนเสื้อแดงที่เสียชีวิตในคืนวันที่ 30 พ.ย.ไว้ได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน โดยผู้ต้องหาได้ให้การสารภาพพร้อมของกลาง อาวุธปืนสั้นขนาด.38 โดยนายธีรภัทร ทองฤทธิ์ นักศึกษา ม.รามคำแหง เป็นผู้ที่ลั่นกระสุนปืน โดยยิงทั้งสิ้นจำนวน 6 นัด สถานที่เกิดเหตุคือหอพักศรีจินดา 3 ซึ่งอยู่ในซอย โดยยิงจากบนหอพักลงมา เจ้าของปืน คือ นายนภดล แก้วมีจีน ซึ่งอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ เป็นเจ้าของอาวุธปืน


ภาพของนายธนะสิทธิ์ เวียงคำ ผู้เสียชีวิต


นายธีรภัทร ทองฤทธิ์ เป็นนักศึกษา ม.รามคำแหง
เป็นคนที่ลั่นปืน.38 ใส่พลทหารธนะสิทธิ์ เวียงคำ


นายนภดล แก้วมีจีน เจ้าของปืน.38


นายนภดล แก้วมีจีน และ นายธีรภัทร ทองฤทธิ์ ชี้ของกลาง

                  จตุพรตั้งคำถามว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายถาวร เสนเนียม นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดี ม.รามคำแหง จะรับผิดชอบต่อคนเสื้อแดงที่ตายอย่างไร และจะตอบคำถามต่อสังคมอย่างไร เพราะว่าที่จริงแล้วในขณะที่ตนพยายามกล่าวหาคนอื่น แต่กลับเปิดประตูให้บุคคลอื่นเข้ามาใช้สถานที่ จนเป็นเหตุนำไปสู่ความสูญเสีย และผู้ต้องหา2คนนี้ที่ต้องมาเสียอนาคตในคดีฆ่าคนตาย ซึ่งเขารับสารภาพแล้ว และเจ้าหน้าที่บันทึกคำสารภาพไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นการที่มีการปลุกระดมสร้างความเกลียดชัง พูดถึงแต่ความตายของนักศึกษาแต่หลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดถึงความตายของคนเสื้อแดง จนเป็นเหตุให้นักศึกษาราม มาปะทะกับคนเสื้อแดง คนที่ควรรับผิดชอบเป็นคนแรกคืออธิการบดี ซึ่งตนขอเรียกร้องให้นายวุฒิศักดิ์ลาออกจากตำแหน่งอธิการบดี
*******************************************************************

ด่วน!!..จับเด็กรามคนใต้มือปืน ยิง ผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงตาย ที่หลังราชมังคาลา ได้แล้ว

           นายธีรภัทร ทองฤทธิ์ เด็กใต้ จังหวัดตรัง นักศึกษารามฯ คนที่ลอบยิง พลทหารธนะสิทธิ์ เวียงคำ เสียชีวิต ที่รัชมังคลา

มีเฟรสบุคนะครับ ชื่อ ธีรภัทร ทองฤทธิ์




ผศ.วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ อธิการบดี ม.ราม ว่าไงโว๊ย ? ลูกศิษย์มึงหมดอนาคตเพราะมึง
ถาวร เสนเนียม ว่าไงโว๊ย ? นศ.รามยิงคนตาย ก็เพราะม็อบของมึง
มึงสองคนจะรับผิดชอบยังไง?

**************************
จนท.ชุดสืบสวน นครบาลใต้จับกุม นศ.รามฯ 2 นาย


              จากเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 30 พ.ย. 56 เวลาประมาณ 21.00-22.00 ที่พลฯ ธนะสิทธิ์ เวียงคำ กำลังไปรับแม่ที่แจกผลไม้ที่ ราชมังคลา ได้ถูกยิงในซอยราม 24 แยก 14 ที่กลางศรีษะ กระสุนทะลุผ่านหมวกกันน็อค เสียชีวิตเช้าวันที่ 1 ธ.ค. 56 ที่ผ่านมานั้น จนท.ตำรวจชุดสืบสวนนครบาลใต้ ได้สืบสวนและติดตามคนร้าย จนสามารถจับกุมตัวได้ โดยคนยิง ชื่อ นายธีรพัฒน์ ทองฤทธิ์ ยิงจาก หอพัก ศรีจินดา 3 มีนายนพดล แก้วมีจีน เป็นเจ้าของอาวุธปืนขนาด .38 ที่ใช้ก่อเหตุ ยิงลงมาจากหอพักจำนวน 6 นัด โดนศรีษะ พลฯธนสิทธิ์ฯ ทะลุหมวกกันน๊อค จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและได้เสียชีวิตต่อมาในวันที่ 1 ธ.ค. จนท.ตำรวจมีทั้งประจักษ์พยาน วัตถุพยาน และคำรับสารภาพ ของผู้ต้องหาทั้งสอง

คลิปม็อบระยำ บุกรุกพังรั้วลานจอดรถในอาณาเขตบ้านนายกรัฐมนตรี

คลิปม็อบระยำ บุกรุกพังรั้วลานจอดรถในอาณาเขตบ้านนายกรัฐมนตรี แกนนำโบ้ยมือที่สาม แต่ถือธงชาติเป่านกหวีด


            ม็อบกบฏสุเทพ นำโดย อัญชะลี ไพรีรัก และดร.เสรี วงศ์มณฑา เกิดจราจล คุมมวลชนไม่อยู่ บุกพังรั้วลานจอดรถอาณาเขตบ้านนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขณะที่กำลังยืนด่าอยู่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี จนไม่สามารถควบคุมมวลชนได้ จนนางสาวอัญชะลี ต้องลงจากรถลำโพงไปคุยกับมวลชนให้ถอยกลับออกมา และสถานีบลูสกายต้องตัดสัญญาณเสียงและภาพจากซอยโยธินพัฒนา 3 ทิ้งไปทันที

อดีตรัฐมนตรีสหรัฐฯ เชิญชวนทั่วโลก สนับสนุนไทยเลือกตั้ง


อดีตรัฐมนตรีสหรัฐฯ เชิญชวนทั่วโลก สนับสนุนไทยเลือกตั้ง



              วันที่ 22ธันวาคม 2556 go6TV - เคิร์ต แคมพ์เบล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก เขียนบทความ เรื่อง "Respect for democracy in Thailand needs support" เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ระบุว่า การเมืองไทยซึ่งคาดเดาสถานการณ์ได้ยาก กำลังเข้าสู่ห้วงเวลาอันตรายอีกครั้ง




แคมพ์เบล ซึ่งดำรงตำแหน่งดังกล่าวในรัฐบาลบารัก โอบามา ระหว่างเดือนมิถุนายน 2552 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2556 บอกว่า บรรดานักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำพันธมิตรกับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยอ้างว่าตนได้รับ "การสนับสนุนจากมวลมหาประชาชน" ทั้งๆที่พรรคเพื่อไทยของยิ่งลักษณ์ขึ้นครองอำนาจด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายในการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ซึ่งนักสังเกตการณ์เห็นพ้องกันว่า เป็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม

"ตลอดเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ชนชั้นนำกรุงเทพ ซึ่งประกอบด้วยมหาเศรษฐีนักธุรกิจ, พวกรอยัลลิสต์ และนายทหารระดับสูงบางส่วน ไม่ยอมรับว่า กงล้อประวัติศาสตร์ได้หมุนเคลื่อนไปข้างหน้าแล้ว" แคมพ์เบล ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการของศูนย์ความมั่นคงใหม่อเมริกัน หน่วยงานคลังสมองในสหรัฐ กล่าว

เขาบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแพ้เลือกตั้งทุกครั้งนับแต่ปี 2535 เป็นต้นมา กำลังใช้กลยุทธ์ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย กลุ่มพลังที่ต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ในศาล, ในกองทัพ และบรรดาผู้เพ็ดทูล ได้ขับรัฐบาลจากการเลือกตั้งอย่างเป็นประชาธิปไตยไปแล้ว 3 ชุดนับแต่ปี 2549 แม้มีการเปลี่ยนนามเรียกขานมาหลายชื่อ แต่โดยเนื้อแท้ก็คือ "พลพรรคเสื้อเหลือง"


@ เคิร์ต เอ็ม. แคมพ์เบล กล่าวปาฐกถา ที่ศูนย์ความมั่นคงใหม่อเมริกัน

แคมพ์เบลเขียนว่า ยิ่งลักษณ์ปฏิบัติตนอย่างน่าชื่นชมทั้งภายในประเทศและนอกประเทศนับแต่เธอได้รับเลือกตั้ง เธอได้รับความนับถืออย่างกว้างขวางในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเดินงานการทูตด้วยท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนตามแบบฉบับคนไทย ภายในประเทศนั้น เธอพยายามทอดไมตรีกับฝ่ายต่อต้าน

"จริงอยู่ รัฐบาลได้จุดชนวนวิกฤตด้วยการผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งจะยกเลิกข้อกล่าวหาทางอาญาต่อพ.ต.ท.ทักษิณ และเปิดทางให้เขากลับบ้าน แต่เมื่อถูกคัดค้านอย่างหนักในสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ถอนร่างดังกล่าว แต่ต่อมาได้รับคะแนนไว้วางใจในสภาผู้แทนราษฎร นี่คือ การทำงานตามระบอบรัฐสภา" เขากล่าว


@ แคมพ์เบล แถลงนโยบายสหรัฐต่อเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อ 2 กุมภาพันธ์ 2554

อย่างไรก็ตาม พรรคฝ่ายค้านฉวยประเด็นนี้เป็นข้อโจมตี และก่อวิกฤตด้วยการนำผู้สนับสนุนพรรคของตนลงสู่ท้องถนน

"การเมืองไทยได้เปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันหวนกลับแล้ว กลุ่มทักษิณได้ทำให้เกิดขบวนการทางการเมือง ประกอบด้วยชนชั้นจากชนบท ซึ่งปรารถนาให้ประเทศไทยมีความเท่าเทียมในอนาคต กลุ่มอำนาจเก่า ทั้งพวกสวมเครื่องแบบ, พวกนั่งในห้องประชุมอันโอ่โถง, เหล่าองคมนตรี และศาล ต้องยอมรับความเป็นจริงทางการเมืองนี้ และพรรคฝ่ายค้านซึ่งออกหน้าแทนคนพวกนี้ ต้องลงมาแข่งขันทางการเมือง ไม่ใช่วางแผนทำรัฐประหาร" แคมพ์เบล กล่าว

เขาเรียกร้องให้สหรัฐและประเทศอื่นๆสนับสนุนประชาธิปไตยในไทย "ประชาคมระหว่างประเทศควรเน้นว่า ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต้องยึดมั่นในวิถีทางการเลือกตั้ง และขื่อแปกฎหมาย เพื่อแก้ไขข้อพิพาท และไม่หันไปใช้'สภาประชาชน' ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง อันเป็นสิ่งที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้มีอำนาจปกครองประเทศ"

ที่มา : Financial Times
ภาพ : Reuters

เตือนความจำ "กบฏเทือก" ทำเป็นโวยโดนอายัดเงินแค่ 38 คน แต่สมัยปี 53 อายัดเงินเสื้อแดงมากกว่า 170 คน ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้


เตือนความจำ "กบฏเทือก" ทำเป็นโวยโดนอายัดเงินแค่ 38 คน แต่สมัยปี 53 อายัดเงินเสื้อแดงมากกว่า 170 คน ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้








                     เมื่อคราวสลายการชุมนุมปี 2553 "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" ในฐานะผู้อำนวยการ ศอฉ. สั่งอายัดตัดท่อน้ำเลี้ยงการชุมนุมของ นปช. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ในขณะนั้น ได้เรียกให้แกนนำทุกคน จำนวนมากกว่า 170 กว่าคน ทั้งบุคคล และ สถาบันการเงิน ทั้งนักธุรกิจ นักการเมือง บุคคลสำคัญ ฝ่ายเสื้อแดง โดนเรียกไปรายงานตัวที่ ศอฉ. ทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น และไม่อนุญาตให้นำเอกสารหลักฐานใดๆ ไปชี้แจงการก่อนอายัด
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะ ศอฉ ขณะนั้นบอกว่า "สมควรทำแล้ว นี่มันคือท่อน้ำเลี้ยงโจรปล้นชาติ"

               ปี 2556 กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI โดยนายธาริต เพ็งดิษฐ์คนเดิม ก็สั่งอายัดบัญชีแกนนำและผู้สนับสนุนม็อบ กปปส. รวมสองครั้งแค่ 38 คน เป็นแค่บุคคลในแวดวงพรรคประชาธิปัตย์ และผู้ขึ้นปราศรัยบนเวทีเท่านั้น และไม่ได้เหวี่ยงแหเรียก ไม่มีสถาบันทางธุรกิจใดๆ ได้รับผลกระทบเลย

            แต่วันนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กลับมาบอกว่า “เป็นการใส่ร้ายทำลาย สร้างความลำบากให้ตนและครอบครัว”

           ทีมงานเลยนำหนังสือตัวอย่างคำสั่ง ศอฉ ปี 2553 มาให้นายสุเทพชมเตือนความจำว่า เมื่อปีนั้น นายสุเทพได้เคยทำอะไรไว้!

บลูตะกายแหกตามอบควายนกหวีัด 5 ร้าน


สำนักข่าวระดับโลกทุกสำนักยืนยัน มีผู้ชุมนุมทั่วกรุงเทพแค่ "7 - 8 หมื่นคน" ขณะที่บลูสกายเสนอตัวเลขผู้ชุมนุม 5 ล้านคน






              สำนักข่าวระดับโลกเช่น ซีเอ็นเอ็น รอยเตอร์ ยูเอสเอทูเดย์ และอื่นๆ ได้เสนอข่าวการประท้วงในกรุงเทพมหานคร โดยมีรายละเอียดว่า มวลชนประมาณเจ็ดหมื่นคน ได้เดินประท้วงรัฐบาล ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร โดยได้เดินประท้วงในเขตกรุงเทพ และบริเวณบ้านของนายกรัฐมนตรี ในขณะที่บนเวทีปราศรัย และทีวีบลูสกาย ได้นำบิดเบือน นำเสนอตัวเลขผู้ชุมนุมถึงห้าล้านคน